จากการติดตามการคาดการณ์สภาพอากาศกับกรมอุตุนิยมวิทยา พบว่า ประเทศไทยเข้าสู่ฤดูร้อนตั้งแต่วันที่ 29 กุมภาพันธ์ 2563 โดยบริเวณประเทศไทยจะมีอุณหภูมิสูงขึ้นเกือบทั่วไปและมีอากาศร้อนในตอนกลางวันในขณะที่ลมที่พัดปกคลุมประเทศไทยตอนบนได้เปลี่ยนจากลมตะวันออกเฉียงเหนือเป็นลมใต้และลมตะวันออกเฉียงใต้พัดปกคลุมแทนที่ อาจส่งผลให้เกิดพายุฤดูร้อน โดยเฉพาะในเดือนมีนาคม – เมษายน 2563 อาจเกิดพายุฤดูร้อนขึ้นบ่อยครั้ง โดยมีพายุฝนฟ้าคะนอง ลมกระโชกแรง และลูกเห็บตกในบางพื้นที่ ก่อให้เกิดความเสียหายต่อชีวิตและทรัพย์สินได้
รัฐบาลห่วงใยประชาชนที่อาจได้รับผลกระทบจากสถานการณ์พายุฤดูร้อน จึงได้สั่งการให้กองบัญชาการป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยแห่งชาติ โดยกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย (ปภ.) ประสานจังหวัดเตรียมพร้อมรับมือป้องกันและแก้ไขปัญหาภัยจากพายุฤดูร้อนอย่างเป็นระบบและครอบคลุมทุกด้าน
การเตรียมพร้อมรับมือสถานการณ์ภัย
ติดตามสภาพอากาศและแจ้งเตือนภัยทันท่วงที โดยตั้งคณะทำงานติดตามการเปลี่ยนแปลงของสภาพอากาศ ที่อาจก่อให้เกิดพายุฤดูร้อนกับกรมอุตุนิยมวิทยาอย่างใกล้ชิดตลอด 24 ชั่วโมง เพื่อประสานให้หน่วยปฏิบัติเตรียมพร้อมรับมือและแจ้งเตือนภัยแก่ประชาชนในพื้นที่เสี่ยงภัยได้อย่างทันท่วงที
สร้างการรับรู้และความเข้าใจแก่ประชาชน โดยให้ความสำคัญกับการแจ้งข้อมูลแนวโน้มสถานการณ์ภัยแก่ประชาชนอย่างรวดเร็ว รวมถึงการให้ความรู้แก่ประชาชนถึงแนวทางการปฏิบัติตนให้ปลอดภัย การตรวจสอบความมั่นคงแข็งแรงของที่พักอาศัย ตลอดจนแนวทางการบริหารจัดการภัยของภาครัฐ ช่องทางการรับข้อมูลข่าวสารที่ถูกต้อง และการให้ความช่วยเหลือผู้ประสบภัย
เตรียมพร้อมด้านทรัพยากรเครื่องจักรกลไว้ล่วงหน้า โดยจัดเตรียมสรรพกำลังเจ้าหน้าที่ วัสดุ อุปกรณ์ และเครื่องจักรกลประจำพื้นที่ให้พร้อมช่วยเหลือประชาชนที่ประสบภัยได้อย่างรวดเร็วและทันท่วงที
ตรวจสอบสิ่งปลูกสร้างในพื้นที่ โดยให้เจ้าหน้าที่ตรวจตราอาคารสถานที่ ป้ายโฆษณา สิ่งก่อสร้าง รวมถึงไม้ยืนต้นตามที่สาธารณะ ให้อยู่ในสภาพมั่นคงแข็งแรง ตลอดจนเชิญชวนประชาชนจิตอาสาให้ร่วมสอดส่อง ปรับปรุง ดูแลสิ่งปลูกสร้างในพื้นที่ให้อยู่ในสภาพปลอดภัย
การบูรณาการเตรียมพร้อมเผชิญเหตุ
ยึดแนวทางการจัดการสาธารณภัยตามแผนและกฎหมาย หากเกิดวาตภัยที่ส่งผลให้เกิดความเสียหายต่อชีวิตและทรัพย์สินในพื้นที่ ให้เร่งสำรวจความเสียหาย และให้การช่วยเหลือผู้ประสบภัยตามกฎ ระเบียบ และหลักเกณฑ์ที่เกี่ยวข้อง โดยแบ่งมอบภารกิจ พื้นที่ปฏิบัติงาน และผู้รับผิดชอบที่เป็นรูปธรรมและชัดเจน
บูรณาการหน่วยงานในพื้นที่จัดทีมช่างประชารัฐ เพื่อจัดกำลังในการดำเนินการซ่อมแซมบ้านเรือนประชาชนที่ได้รับความเสียหายอย่างเร่งด่วน สำหรับระบบโครงสร้างพื้นฐานที่ได้รับความเสียหาย ให้ประสานหน่วยงานที่เกี่ยวข้องและองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น เพื่อแก้ไขซ่อมแซมให้สามารถกลับมาใช้งานได้ตามปกติโดยเร็ว
ทั้งนี้ กองบัญชาการป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยแห่งชาติ โดยกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย (ปภ.) ได้บูรณาการทุกภาคส่วนเตรียมพร้อมรับมือ ป้องกัน และแก้ไขปัญหาสถานการณ์พายุฤดูร้อนอย่างเต็มกำลัง มุ่งวางแนวทางปฏิบัติเชิงป้องกันอย่างเป็นระบบ ควบคู่กับการช่วยเหลือผู้ประสบภัยอย่างทั่วถึงและครอบคลุมทุกพื้นที่ รวมถึงฟื้นฟูพื้นที่ประสบภัยให้กลับสู่ภาวะปกติโดยเร็ว เพื่อให้ผู้ประสบภัยได้รับการดูแลอย่างดีที่สุด