ข่าวสถานการณ์การใช้น้ำมันเชื้อเพลิงของเดือนมกราคม 2563

ภาพรวมการใช้น้ำมันเชื้อเพลิงเฉลี่ยต่อวันของเดือนมกราคม 2563 เติบโตขึ้นเมื่อเทียบกับช่วงเวลาเดียวกันของปี 2562 โดยกลุ่มน้ำมันเบนซิน เพิ่มขึ้นร้อยละ 1.8 กลุ่มดีเซลหมุนเร็ว ลดลงร้อยละ 2.5 น้ำมันอากาศยานเจทเอ1 เพิ่มขึ้น ร้อยละ 3.0 ในขณะที่ LPG ลดลงร้อยละ 4.2 และ NGV ลดลงร้อยละ 11.0

การใช้น้ำมันกลุ่มเบนซิน เฉลี่ยต่อวันอยู่ที่ 31.8 ล้านลิตร/วัน เพิ่มขึ้นจากช่วงเวลาเดียวกันของปีก่อนคิดเป็นร้อยละ 1.8 โดยกลุ่มแก๊สโซฮอล์มีปริมาณการใช้เพิ่มขึ้นจากช่วงเวลาเดียวกันปีก่อน เฉลี่ยอยู่ที่ 30.9 ล้านลิตร/วัน คิดเป็นร้อยละ 2.6 ขณะที่น้ำมันเบนซินมีการใช้ลดลงเฉลี่ยต่อวันอยู่ที่ 0.8 ล้านลิตร/วัน คิดเป็นอัตราลดลงร้อยละ 20.2 สำหรับภาพรวมการใช้น้ำมันกลุ่มแก๊สโซฮอล์ พบว่า แก๊สโซฮอล์อี 20 มีปริมาณการใช้เพิ่มขึ้นมากที่สุด อยู่ที่ 6.6 ล้านลิตร/วัน คิดเป็นอัตราเพิ่มขึ้นร้อยละ9.3 เนื่องจากมีราคาต่ำกว่าแก๊สโซฮอล์ 95 เฉลี่ยอยู่ที่ 3.01 บาท/ลิตร จึงจูงใจให้ผู้บริโภคหันมาใช้เพิ่มขึ้น รองลงมาเป็นแก๊สโซฮอล์95 มีปริมาณการใช้เฉลี่ยอยู่ที่ 14.02 ล้านลิตร/วัน คิดเป็นอัตราเพิ่มขึ้นร้อยละ 4.5 เนื่องจากแก๊สโซฮอล์ 91 และแก๊สโซฮอล์ 95มีราคาใกล้เคียงกันโดยมีส่วนต่างเพียง 0.27 บาท/ลิตร จึงทำให้ผู้บริโภคเลือกใช้น้ำมันชนิดที่มีค่าออกเทนสูงกว่า ขณะที่แก๊สโซฮออล์ 91 มีปริมาณการใช้ลดลงเฉลี่ยอยู่ที่ 9.1 ล้านลิตร/วัน คิดเป็นอัตราลดลงร้อยละ 3.9 และแก๊สโซฮอล์ อี85 มีปริมาณการใช้เฉลี่ยอยู่ที่1.2 ล้านลิตร/วัน คิดเป็นอัตราลดลงร้อยละ 1.5

การใช้น้ำมันกลุ่มดีเซลหมุนเร็วเฉลี่ยต่อวันอยู่ที่ 64.1 ล้านลิตร/วัน ลดลงจากช่วงเวลาเดียวกันของปีก่อนคิดเป็นร้อยละ2.5 โดยน้ำมันดีเซลหมุนเร็ว บี7 มีปริมาณการใช้ลดลงเฉลี่ยอยู่ที่ 54.3 ล้านลิตร/วัน คิดเป็นอัตราลดลงร้อยละ 17.1 น้ำมันดีเซล หมุนเร็ว บี10 มีปริมาณการใช้เฉลี่ยอยู่ที่ 2.3 ล้านลิตร/วัน (เริ่มมีการจำหน่ายตั้งแต่ปลายเดือนพฤษภาคม 2562) และน้ำมันดีเซลหมุนเร็ว บี20 มีปริมาณการใช้เฉลี่ยอยู่ที่ 7.5 ล้านลิตร/วัน (เริ่มมีการจำหน่ายตั้งแต่เดือนกรกฎาคม.2561) โดยปริมาณการใช้ น้ำมันกลุ่มดีเซลหมุนเร็วดังกล่าวอยู่ในช่วงการปรับเปลี่ยนตามนโยบายของภาครัฐที่กำหนดให้น้ำมันดีเซลหมุนเร็ว บี10 เป็นน้ำมันดีเซลฐานของประเทศและใช้มาตรการราคาเป็นกลไกผลักดันให้เป็นไปตามเป้าหมาย

การใช้น้ำมันอากาศยานเชิงพาณิชย์ (Jet A1) เฉลี่ยต่อวันอยู่ที่ 22.1 ล้านลิตร/วัน เพิ่มขึ้นจากช่วงเวลาเดียวกันของปีก่อน คิดเป็นร้อยละ 3.0 เนื่องจากจำนวนนักท่องเที่ยวที่ลดลงจากการระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19

การใช้ LPG เฉลี่ยต่อวันอยู่ที่ 16.8 ล้านกก./วัน ลดลงจากช่วงเวลาเดียวกันของปีก่อนคิดเป็นร้อยละ 4.2 โดยปริมาณการใช้ภาคขนส่งลดลงมากที่สุด มีปริมาณการใช้อยู่ที่ 2.6 ล้านกก./วัน คิดเป็นอัตราลดลงร้อยละ 12.7 เนื่องจากผู้ใช้รถยนต์บางส่วนหันไปใช้น้ำมันชนิดอื่นแทนเนื่องจากราคาขายปลีกน้ำมันอยู่ในระดับที่ไม่สูงมากนัก รองลงมาเป็น ภาคปิโตรเคมี มีปริมาณการใช้ลดลงอยู่ที่ 6.5 ล้านกก./วัน คิดเป็นอัตราลดลงร้อยละ 3.2 ถัดมาเป็น ภาคอุตสาหกรรมมีปริมาณการใช้อยู่ที่ 1.8 ล้านกก./วัน คิดเป็นอัตราลดลงร้อยละ 2.9 และภาคครัวเรือน มีปริมาณการใช้อยู่ที่ 5.9 ล้านกก./วัน คิดเป็นอัตราลดลงร้อยละ 1.4 เนื่องจากพฤติกรรมของผู้บริโภคที่เปลี่ยนไปและสนใจใช้เตาไฟฟ้ามากขึ้น

การใช้ NGV เฉลี่ยต่อวันอยู่ที่ 4.9 ล้านกก./วัน ลดลงจากช่วงเวลาเดียวกันของปีก่อน คิดเป็นร้อยละ 11.0 โดยมีสาเหตุมาจากการปรับราคา NGV สำหรับรถยนต์ส่วนบุคคลทั่วไปให้สะท้อนต้นทุนที่แท้จริง ประกอบกับนโยบายส่งเสริมการใช้น้ำมันดีเซลหมุนเร็ว บี20 สำหรับรถบรรทุกขนาดใหญ่ทำให้ประชาชนและรถบรรทุกสินค้าหันไปใช้ดีเซลหมุนเร็วบี 20 ทดแทน

การนำเข้านำมันเชื้อเพลิง มีปริมาณรวมลดลงเมื่อเทียบกับช่วงเวลาเดียวกันของปีก่อน โดยปริมาณการนำเข้าน้ำมันดิบเฉลี่ยอยู่ที่ 980,741 บาร์เรล/วัน คิดเป็นอัตราลดลงร้อยละ 8.5 โดยมีมูลค่าการนำเข้าน้ำมันดิบคิดเป็น 66,973 ล้านบาท/เดือน เนื่องจากในช่วงเวลาดังกล่าวมีการหยุดซ่อมบำรุงโรงกลั่นและ Emergency Shutdown ทำให้ต้องลดปริมาณการนำน้ำมันดิบ เข้ากลั่นลง สำหรับน้ำมันสำเร็จรูป เป็นการนำเข้าน้ำมันเบนซิน น้ำมันดีเซลดีเซลพื้นฐาน น้ำมันเตา น้ำมันอากาศยานและก๊าดและ LPG โดยมีปริมาณนำเข้าลดลงอยู่ที่ 26,839 บาร์เรล/วัน คิดเป็นอัตราลดลงร้อยละ 63.6 และมีมูลค่าการนำเข้าน้ำมันสำเร็จรูปอยู่ที่ 1,849 ล้านบาท/เดือน เนื่องจากภาวะเศรษฐกิจอยู่ในช่วงชะลอตัวและการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 ส่งผลกระทบอย่างรุนแรงต่อเศรษฐกิจและความต้องการใช้ในประเทศลดลง

การส่งออกน้ำมันสำเร็จรูป เป็นการส่งออกน้ำมันเบนซิน น้ำมันดีเซลดีเซลพื้นฐาน น้ำมันเตา น้ำมันอากาศยานและก๊าด และ LPG โดยมีปริมาณลดลงเมื่อเทียบกับช่วงเวลาเดียวกันของปีก่อน เฉลี่ยอยู่ที่ 171,386 บาร์เรล/วัน คิดเป็นอัตราลดลงร้อยละ 2.1 โดยมีมูลค่าการส่งออกน้ำมันสำเร็จรูปเฉลี่ย 11,624 ล้านบาท/เดือน