ปภ.รายงานสถานการณ์ไฟป่าในจังหวัดนครนายกและปราจีนบุรี ระดมสรรพกำลังปฏิบัติการดับไฟป่าอย่างต่อเนื่อง

วันที่ 25 ก.พ.63 กรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย (ปภ.) นายมณฑล สุดประเสริฐ อธิบดี กรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย เผยสถานการณ์ไฟป่าในจังหวัดนครนายก สามารถควบคุมไฟส่วนใหญ่ไว้ได้แล้ว ส่วนพื้นที่ห่างไกล หน่วยงานที่เกี่ยวข้องจะส่งกำลังเดินเท้าเข้าพื้นที่ปฏิบัติการดับไฟป่า สำหรับสถานการณ์ไฟป่าในจังหวัดปราจีนบุรี ขณะนี้อยู่ระหว่างการควบคุมเพลิงไม่ให้ลุกลาม ซึ่ง ปภ.ได้ร่วมกับหน่วยทหาร จังหวัด และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องสนธิกำลังเจ้าหน้าที่และเครื่องมืออุปกรณ์ออกปฏิบัติการดับไฟป่า โดยระดมฉีดน้ำควบคุมไฟ จัดทำแนวกันไฟ ระดมเครื่องจักรกล รถดับไฟป่า รถบรรทุกน้ำ รวมถึงร่วมกับกองทัพบกนำเฮลิคอปเตอร์ ปภ.KA-32 ขึ้นบินทิ้งน้ำดับไฟป่า เพื่อควบคุมสถานการณ์ไฟป่าให้อยู่ในวงจำกัดและไม่ให้ขยายวงกว้างมากขึ้น

นายมณฑล สุดประเสริฐ อธิบดีกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย (ปภ.) เปิดเผยว่า เกิดสถานการณ์ไฟป่าใน 2 จังหวัดภาคกลาง ได้แก่ จังหวัดนครนายก เมื่อวันที่ 19 – 22 กุมภาพันธ์ 2563 เกิดสถานการณ์ไฟป่าในพื้นที่ 2 อำเภอ 3 ตำบล 4 หมู่บ้าน ได้แก่ หมู่ที่ 12 และ 13 ตำบลเขาพระ หมู่ที่ 13 ตำบลพรหมณี อำเภอเมืองนครนายก และหมู่ที่ 10 ตำบลศรีกะอาง อำเภอบ้านนา มีพื้นที่ป่าได้รับความเสียหายประมาณ 1,000 ไร่ ซึ่ง ปภ.ได้ร่วมกับจังหวัด หน่วยทหาร สำนักงานทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมจังหวัด องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ระดมสรรพกำลังดำเนินการควบคุมไฟป่าอย่างต่อเนื่อง พร้อมจัดทำแนวกันไฟป้องกันไม่ให้ไฟลุกลาม สถานการณ์ล่าสุดสามารถสกัดไฟส่วนใหญ่ได้แล้ว เหลือไฟป่าในพื้นที่ห่างไกล ซึ่งหน่วยงานที่เกี่ยวข้องจะส่งกำลังเดินเท้าเข้าพื้นที่เพื่อปฏิบัติการดับไฟต่อไป สำหรับสถานการณ์ ไฟป่าในพื้นที่จังหวัดปราจีนบุรี เกิดไฟป่าบริเวณเทือกเขามดแดงในพื้นที่อุทยานแห่งชาติเขาใหญ่ โดยไฟได้ลุกลามลงมาบริเวณพื้นที่บ้านซับฟาน หมู่ที่ 19 ตำบลเนินหอม อำเภอเมืองปราจีนบุรี ส่งผลให้พื้นที่ป่าได้รับความเสียหายกว่า 450 ไร่ ปัจจุบันอยู่ระหว่างการควบคุมเพลิงไม่ให้ลุกลาม

“ปภ.ได้นำเครื่องจักรกล ยานพาหนะ รถยนต์กู้ภัยเคลื่อนที่เร็ว รถดับไฟป่า รถบรรทุกน้ำช่วยดับเพลิง 10,000 ลิตร รถดับเพลิงโฟมเคมี รถไฟฟ้าส่องสว่าง รถสูบส่งน้ำระยะไกล รวมถึงร่วมกับกองทัพบกนำเฮลิคอปเตอร์ ปภ.KA-32 ขึ้นบินทิ้งน้ำดับไฟในพื้นที่อย่างต่อเนื่อง อย่างไรก็ตาม ในจุดที่สามารถควบคุมเพลิงได้แล้ว ได้กำชับให้เจ้าหน้าที่เฝ้าระวังสถานการณ์อย่างต่อเนื่อง เพื่อป้องกันมิให้ไฟเกิดการปะทุซ้ำ” อธิบดี ปภ.กล่าว

สำหรับการป้องกันและแก้ไขปัญหาไฟป่า กระทรวงมหาดไทย ได้มีหนังสือสั่งการให้จังหวัดในพื้นที่เสี่ยงอัคคีภัยหรือไฟป่า ปฏิบัติตามพระราชบัญญัติป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย พ.ศ.2550 และแผนการป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยแห่งชาติ พ.ศ.2558 อย่างเคร่งครัด รวมถึงระดมสรรพกำลังทุกภาคส่วนเข้าดำเนินการควบคุมสถานการณ์ให้ยุติลงโดยเร็ว หากประเมินสถานการณ์แล้วเห็นว่าเกินขีดความสามารถของจังหวัด ให้รีบประสานหน่วยงานที่เกี่ยวข้องทันที เพื่อขอรับการสนับสนุนเครื่องจักรกลพิเศษหรือสรรพกำลังในการเข้าระงับเหตุ ท้ายนี้ ประชาชนที่ได้รับความเดือดร้อนจากสถานการณ์ไฟป่า สามารถติดต่อขอความช่วยเหลือได้ทางสายด่วนนิรภัย 1784 ตลอด 24 ชั่วโมง เพื่อประสานให้การช่วยเหลือโดยด่วนต่อไป