เปิดตัว “ท่าเรือเวียงเชียงแสน” ท่าเรือท่องเที่ยวแห่งแรกของภาคเหนือ ขานรับกระแสเชียงรายโตต่อเนื่อง

เชียงแสน เปิดท่าเรือเพื่อการท่องเที่ยวแห่งแรกของภาคเหนือ รองรับนักท่องเที่ยวจีน คาดปีแรกตั้งเป้านักท่องเที่ยวทั้งชาวไทยและชาวจีนใช้งานไม่น้อยกว่าเดือนละ 2,000 คน หรือปีละ 20,000 คน เผยความงดงามทางทรัพยากรธรรมชาติของสองฝั่งแม่น้ำโขง เพิ่มประสบการณ์ด้านการท่องเที่ยวที่สวยงามและน่าสนใจ

ท่าเรือเชียงแสนก่อสร้างขึ้นตามนโยบายในการปรับปรุงโครงข่ายการคมนาคมขนส่งระหว่างประเทศเพื่ออำนวยความสะดวกแก่การท่องเที่ยว การค้าและการลงทุนเพื่อพัฒนาประเทศให้เป็นศูนย์กลางหรือประตูการพัฒนาภูมิภาคอินโดจีน รวมทั้งโครงการพัฒนาเศรษฐกิจในอนุภูมิภาคลุ่มแม่น้ำโขง ซึ่งเป็นโครงการความร่วมมือ 6 ประเทศ ได้แก่ ประเทศไทย สาธารณรัฐประชาชนจีน สาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนลาว สภาพพม่า กัมพูชาและเวียดนาม

คณะรัฐมนตรีได้มีมติเมื่อวันที่ 25 มีนาคม 2546 ให้การท่าเรือแห่งประเทศไทยเป็นผู้บริหารและประกอบการ โดยได้เปิดอย่างเป็นทางการเมื่อวันที่ 1 ตุลาคม 2546 และเมื่อมีการเปิดท่าเรือแห่งใหม่ ท่าเรือนี้จึงไม่ได้รับการใช้ประโยชน์อย่างเต็มที่ โดยเฉพาะการใช้ประโยชน์ด้านการท่องเที่ยว ทางบริษัท นิว เชียงแสน กรุ๊ป จำกัด ได้รับอนุมัติตามมติครม. เมื่อวันที่ 12 เดือนธันวาคม ปี 2560 ให้เข้ามาบริหารจัดการ จึงได้มีการปรับปรุง ทั้งด้านการก่อสร้าง ภูมิทัศน์ ระบบความปลอดภัยและด้านต่าง ๆ และได้มีการเปิดตัวท่าเรือเทศบาลเวียงเชียงแสน อย่างเป็นทางการเมื่อวันที่ 2 มีนาคม 2561 ที่ผ่านมา

ทั้งนี้ ท่าเรือเชียงแสนตั้งอยู่ริมฝั่งแม่น้ำโขง ในเขตพื้นที่ของอำเภอเชียงแสน จังหวัดเชียงราย โดยมีเนื้อที่ประมาณ 9 ไร่ ด้านหน้าติดแม่น้ำโขงฝั่งตรงข้ามเป็นประเทศสาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนลาว ด้านหลังติดถนนซึ่งเชื่อมระหว่างอำเภอเชียงแสนและอำเภอเชียงของ  โดยลักษณะของท่าเรือ เป็นท่าเทียบเรือที่มีลักษณะเป็นทุ่นลอยน้ำ 2 ทุ่น มีสะพานเชื่อมระหว่างทุ่นกับเขื่อน ให้รถบรรทุกลงไปทำการบรรทุกขนถ่ายสินค้าข้างเรือได้ ตัวทุ่นและสะพานเชื่อมมีหลังคาคลุมกันแดดฝน จึงสามารถทำการบรรทุกและขนถ่ายได้ในขณะฝนตก

สำหรับการจัดการท่าเรือดังกล่าวนั้น เป็นความร่วมมือระหว่าง บริษัท นิว เชียงแสน กรุ๊ป จำกัด การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย เทศบาลตำบลเวียงเชียงแสน นายคงเก่ง ประชากริช ประธานบริหารบริษัท นิวเชียงแสนกรุ๊ป จำกัด กล่าวว่า การท่องเที่ยวทางเรือเส้นทางแม่น้ำโขงถือเป็นเส้นทางเปิดใหม่ ที่มีความปลอดภัย เนื่องจากทางเรือขนส่งสินค้า เรือท่องเที่ยว วิ่งขึ้นล่องลำน้ำโขงตลอดเวลา และด้วยความร่วมมือของ 4 ประเทศได้จัดตั้งศูนย์ป้องกัน และปราบปรามการกระทำผิดในแม่น้ำโขง เพื่อคอยดูแลรักษาความปลอดภัย ให้กับเรือขนส่งสินค้าและเรือท่องเที่ยวต่างๆ และยังมีหน่วยงานที่เกี่ยวข้องกับการรักษาความปลอดภัย ไม่ว่าจะเป็นหน่วยเรือรักษาความสงบเรียบร้อยตามลำแม่น้ำโขงตำรวจน้ำ ดังนั้นในเรื่องของความปลอดภัยจึงเป็นที่เชื่อถือได้ อีกทั้งทิวทัศน์บรรยากาศสองข้างทางริมฝั่งแม่น้ำโขง ก็สวยงาม และสามารถชื่นชมกับธรรมชาติที่ยังคงสภาพความเป็นป่าเขา และสะดวกใช้เวลาน้อยกว่าการเดินทางโดยทางรถยนต์ระหว่างประเทศไทยกับประเทศจีน จึงน่าจะเป็นที่สนใจของนักท่องเที่ยว ที่จะได้มาเยี่ยมชมและเปิดประสบการณ์ใหม่ๆ

“การเปิดท่าเรือท่องเที่ยวครั้งนี้จะสามารถอำนวยความสะดวกให้กับประชาชนผู้สัญจรไปมาได้มาก เนื่องจากทั้งทางด้านความปลอดภัย ความเป็นมาตรฐานของท่าเรือ ซึ่งก่อสร้างออกมาอย่างถูกต้องตามแบบวิศวกรรม และการควบคุมดูแลการสัญจร อีกทั้งยังสามารถควบคุมดูแลนักท่องเที่ยวที่จะเดินทางเข้าออกประเทศ ได้อย่างเป็นระเบียบเรียบร้อยและสะดวก ปัจจุบันนักท่องเที่ยวทางเรือที่เข้ามาเที่ยวประเทศไทยทางอำเภอเชียงแสนมีจำนวนน้อยมาก ส่วนใหญ่จะเป็นการขนส่งสินค้า แต่หลังจากที่มีการเปิดท่าเรือแห่งนี้ตามมติครม. เพื่อเป็นท่าเรือท่องเที่ยวก็เริ่มมีนักท่องเที่ยวเดินทางเข้ามาจากประเทศจีน ซึ่งปัจจุบันอยู่ที่ประมาณเดือนละ 500 คน เราตั้งเป้าหมายให้มีการใช้งานท่าเรือในช่วงปีแรกประมาณไม่น้อยกว่าเดือนละ 2,000 คน หรือปีละ 20,000 คน”

 

นายภาสกร บุญญลักษณ์ รองผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงราย กล่าวว่า เมื่อ ครม.มีมติชัดเจนมอบพื้นที่ท่าเรือเชียงแสนแห่งที่ 1 ให้อยู่ในความดูแลของเทศบาลเวียงเชียงแสน ซึ่งมีความพร้อมมาก หน่วยงานราชการในจังหวัดก็ให้การสนับสนุนด้านการท่องเที่ยวมาโดยตลอด ซึ่งเชียงรายเป็นจังหวัดที่มีพื้นที่ที่สวยงามเหมาะกับการท่องเที่ยวเป็นอย่างยิ่ง โดยเฉพาะการจราจรที่รองรับทั้งทางเรือ ทางบกและทางอากาศ ก็ยิ่งทำให้นักท่องเที่ยวให้ความสนใจมาท่องเที่ยวมากขึ้น

“ทางอากาศเรามีเที่ยวบินกว่า 50 เที่ยวบินต่อวัน ทางเรือก็มีท่าเรือเชียงแสน ซึ่งจะพัฒนาเป็นท่าเรือท่องเที่ยวนานาชาติ ปัจจุบันมีศุลกากร ตม. อนาคตจะมีการจำหน่ายสินค้าปลอดภาษี ซึ่งอยู่ในแผนที่คณะกรรมการบริหารท่าเรือเวียงเชียงแสนได้เตรียมไว้ ตอนนี้อยู่ในขั้นตอนการเสนอแผนให้ทางกรมธนารักษ์และการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทยได้เห็นชอบ หลังจากนั้นก็จะหาแหล่งเงินทุนมาพัฒนาพื้นที่ตัวท่าเรือและพื้นที่รอบข้างให้เป็นแลนด์มาร์คของเชียงแสน ซึ่งเป็นปัจจัยสำคัญทางการท่องเที่ยวของประเทศไทยทางภาคเหนือตอนบนอย่างแท้จริง”

 

ด้าน คุณกรุณา เดชาติวงศ์ ณ อยุธยา ผอ.ททท.เชียงราย กล่าวว่า ททท.มีแผน เรียกว่าเชียงรายยั่งยืน เชียงรายแต้ๆ ความหลากหลายของเชียงราย มีความหลากหลายทางวัฒนธรรม โดยเฉพาะอย่างยิ่งเชียงแสนมีประวัติศาสตร์ที่สำคัญ ความหลากหลายของวัฒนธรรม ชุมชนท่องเที่ยว  ซึ่งนับจากนี้เป็นต้นไปหลังจากมีท่าเรือ จังหวัดเชียงรายก็จะมีการเปิดประตูต้อนรับนักท่องเที่ยวมากช่องทางเพิ่มขึ้น

“ปกติแล้ว เชียงแสนเป็นท่าเรือขนส่งสินค้า แต่ปัจจุบันเริ่มให้เป็นท่าเรือท่องเที่ยว นักท่องเที่ยวชาวจีนก็จะเพิ่มขึ้น และเป็นเส้นทางสำหรับนักท่องเที่ยวชาติอื่นที่จะเข้ามาเที่ยวมากขึ้น โดยเฉพาะอย่างยิ่งจีนตอนใต้ มีปริมาณนักท่องเที่ยวที่อยากเข้ามาบ้านเรา นักท่องเที่ยวชาติอื่นสามารถเข้ามาได้ง่ายขึ้น จุดสำคัญของเชียงแสนคือเมืองริมฝั่งแม่น้ำโขง มีเรื่องของทิวทัศน์แม่น้ำโขง เมืองประวัติศาสตร์ที่เก่าแก่ เรื่องของท่องเที่ยวชุมชน วัฒนธรรมดั้งเดิม เป็นการผสมผสานของการท่องเที่ยวหลากหลาย สามารถเชื่อมต่อจากเชียงแสนไปยังเชียงของ หรือแม่สายได้อีกทำให้มีทางเลือกให้นักท่องเที่ยวมากขึ้น”

 

ทั้งนี้ในวันเปิดท่าเรือมีผู้เข้าร่วมงานอย่างคับคั่ง ซึ่งเป็นผู้แทนจากประเทศไทย อาทิ นาย ชัยกฤษ นิสัยสุข นายกเทศมนตรี นายพินิช แก้วจิตกรทอง นายอำเภอเชียงแสน นายคงเก่ง ประชากริช ประธานบริหารนิวเชียงแสนกรุ๊ป นายพันณรงค์ ขุนพิทักษ์ รองประธานบริหาร ฯ นายชัชวาล สุขสมจิต สมาชิกสภานิติบัญญัติแห่งชาติ นายสมบูรณ์ ศิริเวช รองผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงราย นางกรุณา เดชาติวงศ์ ณ อยุธยา ผอ.ททท.เชียงราย และผู้แทน ฝั่งสปป.ลาว นายอิ่นคำ แก้วนารี หัวหน้าห้องว่าการปกครองเมืองต้นผึ้ง นายอู่ลา เพิงสวัสดิ์ หัวหน้ากรมขนส่งเมืองต้นผึ้ง นายแสงเงิน  อำพรไธ รองหัวหน้าห้องการแถลงข่าว คณะกรรมการบริหารท่าเรือเวียงเชียงแสน หน่วยงานภาครัฐและเอกชน โดย มี นายภาสกร บุญญลักษณ์ รองผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงราย เป็นประธานในพิธี