รมว.แรงงาน มอบเงินกองทุนช่วยเหลือคนหางานไปทำงานต่างประเทศ แก่ ลูกเรือประมงไทยจากประเทศโซมาเลีย

วันที่ 13 กุมภาพันธ์ 2563 ที่ห้องประชุมประสงค์ รณะนันท์ ชั้น 5 อาคารกระทรวงแรงงาน หม่อมราชวงศ์ จัตุมงคล โสณกุล รัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงาน มอบเงินช่วยเหลือจากกองทุนช่วยเหลือคนหางานไปทำงานต่างประเทศ กรมการจัดหางาน จำนวน 483,900 บาท บาท แก่ลูกเรือประมงไทยที่เป็นสมาชิกกองทุนเพื่อช่วยเหลือคนหางานไปทำงานในต่างประเทศ ที่ประสบปัญหาที่ประเทศโซมาเลีย โดยมี นายสุชาติ พรชัยวิเศษกุล อธิบดีกรมการจัดหางาน กล่าวรายงาน และ นายสุทธิ สุโกศล ปลัดกระทรวงแรงงาน พร้อมด้วยผู้บริหารระดับสูงกระทรวงแรงงาน ร่วมงาน

หม่อมราชวงศ์ จัตุมงคล โสณกุล รัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงาน กล่าวว่า รัฐบาลสนับสนุนให้แรงงานไทยที่ไปทำงานต่างประเทศ ไปทำงานอย่างถูกต้องตามกฎหมาย ซึ่งจะได้รับความคุ้มครองดูแลอย่างเต็มที่ ทั้งก่อนเดินทาง ระหว่างทำงาน และกลับจากต่างประเทศ โดยเมื่อเดินทางไปทำงานแล้วยังให้ความคุ้มครองดูแลอย่างต่อเนื่อง หากประสบปัญหาในต่างประเทศ สำนักงานแรงงานในต่างประเทศที่ประจำอยู่ใน 12 ประเทศ หรือสถานเอกอัครราชทูตไทยในต่างประเทศจะเป็นตัวแทนรัฐบาลในการดูแลแรงงานไทยในต่างประเทศเช่นกัน อย่างไรก็ดี จากกรณีของ ลูกเรือประมงไทยที่ประสบปัญหากลางทะเลชายฝั่งโบซาโซ่ประเทศโซมาเลียไม่ได้รับค่าจ้าง ขาดแคลนอาหาร และน้ำดื่มสะอาด รวมทั้งไม่ได้รับการดูแลตามข้อตกลงในสัญญาจ้าง จำนวน 38 คน บนเรือประมง 2 ลำ เมื่อเดือนเมษายน 2562 ที่ผ่านมานั้น จากการตรวจสอบพบว่ามีลูกเรือประมงไทยเป็นสมาชิกกองทุนเพื่อช่วยเหลือคนหางานไปทำงานในต่างประเทศ จำนวน 13 คน โดยในวันนี้ได้มอบเงินกองทุนฯให้แก่ แรงงานไทยที่ทำงานในเรือประมงทะเลที่ประสบปัญหาที่ประเทศโซมาเลีย จำนวน 11 คน ได้แก่

1. ลูกเรือลำที่ 1 จำนวน 4 คน เดินทางกลับถึงประเทศไทยเมื่อวันที่ 12 สิงหาคม 2562 ได้รับเงินสงเคราะห์ คนละ 53,580 บาท เป็นค่าอาหารระหว่างประสบปัญหา ตั้งแต่เดือนเมษายน – 11 สิงหาคม 2562 รวม 4 เดือน 11 วัน และค่าใช้จ่ายเดินทางกลับประเทศไทย ซึ่งเงินจำนวนนี้คนงานจะต้องชดใช้คืนกระทรวงการต่างประเทศ จำนวนคนละ 30,000 บาท เพื่อเป็นค่าใช้จ่ายที่กระทรวงการต่างประเทศได้ทดรองจ่ายไปก่อนขณะที่ลูกเรือประมงรอการเดินทางกลับประเทศไทย

2. ลูกเรือลำที่ 2 จำนวน 7 คน เดินทางกลับถึงประเทศไทยเมื่อวันที่ 30 สิงหาคม 2562 ได้รับเงินสงเคราะห์คนละ 27,000 บาท เป็นค่าอาหารระหว่างประสบปัญหา ตั้งแต่เดือนเมษายน – 30 สิงหาคม 2562 รวม 5 เดือน ส่วนค่าใช้จ่ายเดินทางกลับประเทศไทย นายจ้างของเรือลำที่ 2 เป็นผู้รับผิดชอบ

รวมเป็นเงินทั้งสิ้น 483,900 บาท

ทั้งนี้ ในส่วนของคดีความเรื่องค่าจ้างค้างจ่ายกำลังอยู่ในขั้นตอนของกระบวนการตามกฎหมาย และอีก 2 คน ยังไม่ได้ยื่นคำร้อง เนื่องจากยังอยู่ระหว่างทำงานในต่างประเทศ ซึ่งกรมการจัดหางานจะติดตามให้มารับเงินสงเคราะห์กองทุนฯ ในโอกาสต่อไป

ด้านนายสุชาติ พรชัยวิเศษกุล อธิบดีกรมการจัดหางาน กล่าวว่า การไปทำงานอย่างถูกต้องตามกฎหมายจะได้รับการคุ้มครอง และหากเป็นสมาชิกกองทุนเพื่อช่วยเหลือคนหางานไปทำงานในต่างประเทศ จะได้รับการดูแลจากสิทธิประโยชน์หากประสบอันตราย เกิดปัญหาในต่างประเทศ หรือถูกทอดทิ้งในต่างประเทศ ซึ่งจ่ายเพียงครั้งเดียว 300-500 บาทต่อคน ตามอัตรากำหนดของประเทศที่เดินทางไปทำงาน แต่ให้การคุ้มครองตลอดระยะเวลาสัญญาจ้างงาน จึงขอให้ผู้ที่ประสงค์จะเดินทางไปทำงานในต่างประเทศ ตระหนักถึงความสำคัญของการเป็นสมาชิกกองทุนฯ โดยเฉพาะการเดินทางไปทำงานด้วยวิธีแจ้งการเดินทางด้วยตนเอง เนื่องจากกฎหมายกำหนดให้เป็นสมาชิกกองทุนฯ ด้วยความสมัครใจ เพื่อที่จะได้รับสิทธิประโยชน์เมื่อประสบปัญหาหรือประสบอันตรายตามกฎหมายกำหนด อย่างไรก็ดีก่อนการไปทำงานในต่างประเทศ ก็ควรศึกษาข้อมูลก่อนเดินทางโดยสอบถามข้อมูลจากกรมการจัดหางาน สำนักงานจัดหางานจังหวัดทุกจังหวัด เพื่อเป็นป้องกันการหลอกลวง หรือโทร สายด่วนกระทรวงแรงงาน 1506 กด 2 กรมการจัดหางาน