อาชีวศึกษาเกษตร โชว์ทักษะ อกท.ชาติ “บัวผุดสวย รวยเขาเสียบหมอก ดอกจิกงามเหลือ ถ้ำเสือเกษตรแฟร์ 41”

ดร. สุเทพ แก่งสันเทียะ รองเลขาธิการคณะกรรมการการอาชีวศึกษา เปิดเผยว่า การประชุมวิชาการระดับชาติ องค์การเกษตรกรในอนาคตแห่งประเทศไทย ในพระราชูปถัมภ์ สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี (อกท.) ครั้งที่ 41 “บัวผุดสวย รวยเขาเสียบหมอก ดอกจิกงามเหลือ ถ้ำเสือเกษตรแฟร์ 41” จัดขึ้นระหว่างวันที่ 16-19 กุมภาพันธ์ 2562 ณ วิทยาลัยเกษตรและเทคโนโลยีสุราษฎร์ธานี โดยเป็นกิจกรรมของนักเรียน นักศึกษาอาชีวเกษตรจากทั่วประเทศ ที่ได้มาร่วมการประชุมเพื่อแสดงผลงานทางวิชาการ แข่งขันทักษะวิชาชีพ ประกวดผลผลิตทางการเกษตร และสิ่งประดิษฐ์ด้านการพัฒนาการเกษตร และการแสดงผลงานความก้าวหน้าทางวิชาการของหน่วยงานราชการและภาคเอกชนจากทั่วประเทศ ตลอดจนมีการเชิดชูเกียรติสมาชิก อกท. และหน่วย อกท. ที่มีผลงานดีเด่นในปีการศึกษานี้ และที่สำคัญที่สุด องค์การเกษตรกรในอนาคตแห่งประเทศไทยและสำนักงานคณะกรรมการการอาชีวศึกษา (สอศ.) ได้รับพระกรุณาธิคุณจาก สมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี เสด็จมาเป็นองค์ประธานในพิธีเปิดในวันจันทร์ที่ 17 กุมภาพันธ์ 2563 ซึ่งนับเป็นพระกรุณาธิคุณเป็นล้นพ้นที่พระองค์ได้เสด็จมาเป็นองค์ประธานในพิธีเปิด

ทั้งนี้ กิจกรรมของนักเรียน นักศึกษาอาชีวศึกษาเกษตร ภายใต้การดำเนินงานขององค์การเกษตรกร ในอนาคตแห่งประเทศไทย ในพระราชูปถัมภ์สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี ถือเป็นหัวใจสำคัญของการจัดการเรียนการสอนในระบบอาชีวศึกษาเกษตร เพราะการดำเนินกิจกรรมต่าง ๆ จะให้นักเรียน นักศึกษาได้เป็นผู้ดำเนินการด้วยตนเอง (Learning by Doing) ครบทุกกระบวนการ โดยมีครู อาจารย์เป็นผู้ให้คำปรึกษาคำแนะนำและอำนวยความสะดวก ดังหลักการขององค์การที่ว่า “องค์การเป็นของสมาชิก ดำเนินงานโดยสมาชิก เพื่อสมาชิก โดยมีครูที่ปรึกษาเป็นผู้ให้คำแนะนำ” นักเรียน นักศึกษาอาชีวศึกษาเกษตรจึงมีโอกาสได้รับการฝึกฝนทักษะ ประสบการณ์ ในทุกด้าน เช่น ด้านการทำงานร่วมกัน ด้านการเป็นผู้นำ ด้านวิชาชีพ ด้านความสัมพันธ์กับชุมชน และสังคม เป็นต้น และเมื่อจบการศึกษาก็จะเป็นผู้ที่มีศักยภาพเพียงพอที่จะอยู่ในสังคมในฐานะผู้ประกอบการยุคใหม่ หรือบุคลากรที่มีประสิทธิภาพในองค์การต่าง ๆ ต่อไปในอนาคต

ด้าน ดร.ชาติชาย เกตุพรหม ประธานคณะกรรมการอำนวยการองค์การเกษตรกรในอนาคตแห่งประเทศไทย ในพระราชูปถัมภ์ สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี กล่าวว่า องค์การเกษตรกร ในอนาคตแห่งประเทศไทย ในพระราชูปถัมภ์ สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี เป็นองค์การของนักศึกษาที่ดำเนินการโดยนักศึกษา เพื่อนักศึกษาและโดยนักศึกษา โดยในแต่ละปีได้กำหนดให้มี การจัดงานประชุมวิชาการองค์การเกษตรกรในอนาคตแห่งประเทศไทย ระดับชาติ ปีละหนึ่งครั้ง และดำเนินกิจกรรมอย่างต่อเนื่อง โดยเริ่มจากระดับหน่วย คือแต่ละวิทยาลัยได้จัดกิจกรรมดังกล่าว และคัดเลือกตัวแทนมาแข่งขันและเข้าร่วม ในระดับภาค ซึ่งมี 4 ภาค ได้แก่ ภาคเหนือ ภาคกลาง ภาคตะวันออกเฉียงเหนือและภาคใต้ เฟ้นหาผู้ชนะเลิศ ในการนำเสนอผลงานวิชาการ ทักษะวิชาชีพ สิ่งประดิษฐ์และนวัตกรรม ตลอดจนการประกวดการแข่งขันต่าง ๆ จนเป็นตัวแทนระดับภาค และมาร่วมแข่งขันในระดับชาติ โดยสถานที่ในการจัดงานจะหมุนเวียนไปแต่ละภูมิภาค ซึ่งครั้งนี้ เป็นครั้งที่ 41 โดยในครั้งแรก ได้จัดงานประชุมวิชาการระดับชาติขึ้นที่ วิทยาลัยเกษตรกรรมศรีสะเกษ เมื่อปี พ.ศ.2523 และได้ดำเนินต่อเนื่องมาทุกปี และการประชุมวิชาการ อกท.ระดับชาติครั้งที่ 8 ในปี พ.ศ. 2530 ได้รับพระมหากรุณาธิคุณเป็นล้นพ้นอย่างหาที่สุดมิได้ จากในหลวงรัชกาลที่ 10 ครั้งยังทรงดำรงพระอิสริยยศ เป็นสมเด็จพระบรมโอรสาธิราช ฯ สยามมกุฎราชกุมาร ทรงเป็นองค์ประธานเปิดงานประชุมวิชาการระดับชาติ ณ วิทยาลัยเกษตรกรรมนครสวรรค์ และต่อมาสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดา ฯ สยามบรมราชกุมารี ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ รับเป็นองค์ประธานเปิดงานประชุมวิชาการระดับชาติ ครั้งที่ 11 ในปี พ.ศ. 2533 ณ วิทยาลัยเกษตรกรรมอุดรธานี เป็นต้นมาและเสด็จเป็นองค์ประธานเปิดงานจนถึงปัจจุบันนี้

การจัดงาน อกท. มุ่งหวังให้นักเรียน นักศึกษาอาชีวศึกษาเกษตรได้เกิดองค์ความรู้ใหม่ๆ เกิดการแลกเปลี่ยนเรียนรู้ประสบการณ์และมุ่งหวังให้เป็นเวทีในการแสดงออกถึงทักษะความสามารถด้านวิชาชีพ ด้านวิชาการเพื่อความเป็นเลิศ พร้อมที่จะก้าวสู่การเป็นผู้นำเกษตรในอนาคตที่มีศักยภาพและนำพาสังคมประเทศชาติให้เจริญก้าวหน้าต่อไป

นายวิชวุทย์ จินโต ผู้ว่าราชการจังหวัดสุราษฎร์ธานี กล่าวว่า งานอกท. ระดับชาติ ครั้งที่ 41 “บัวผุดสวย รวยเขาเสียบหมอก ดอกจิกงามเหลือ ถ้ำเสือเกษตรแฟร์ 41” โดยวิทยาลัยเกษตรและเทคโนโลยีสุราษฎร์ธานี เป็นเจ้าภาพ นับเป็นหนทางหนึ่งของการพัฒนาบุคลากรทางการเกษตรในอนาคต ที่จะออกไปเป็นผู้นำชุมชนในการพัฒนาคุณภาพชีวิตที่ดี ช่วยให้สมาชิกองค์การเกษตรกรในอนาคตแห่งประเทศไทย ได้มีโอกาสแสดงผลงานทางวิชาการและทักษะวิชาชีพ ตลอดจนการแสดงผลงานความก้าวหน้าของการพัฒนาการเกษตรของชาติ จากหน่วยงานทั้งภาครัฐและเอกชนต่อสาธารณชน อีกทั้งยังเป็นความภาคภูมิใจของพี่น้องประชาชนจังหวัดสุราษฎร์ธานีและจังหวัดใกล้เคียง ที่ได้มีโอกาสเฝ้ารับเสด็จสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดา ฯ สยามบรมราชกุมารี องค์อุปถัมภ์องค์การเกษตรกรในอนาคตแห่งประเทศไทย นับว่าเป็นสิริมงคลอย่างยิ่ง

นายณรงค์ชัย เจริญรุจิทรัพย์ ผู้อำนวยการวิทยาลัยเกษตรและเทคโนโลยีสุราษฎร์ธานี กล่าวเพิ่มเติมว่า วิทยาลัยเกษตรและเทคโนโลยีสุราษฎร์ธานี มีความพร้อมอย่างยิ่งที่จะต้อนรับแขกผู้มีเกียรติทุกท่านและสมาชิก อกท. จากทั่วประเทศ และจากต่างประเทศที่มาร่วมงานประชุมวิชาการ อกท. ระดับชาติ ครั้งที่ 41 ในครั้งนี้ โดยวิทยาลัยฯ ได้เตรียมความพร้อมทั้งทางด้านสถานที่จัดการแข่งขัน สถานที่จัดการประกวดและสถานที่จัดการแสดง และมีการจัดตกแต่งภูมิทัศน์ สิ่งอำนวยความสะดวกต่าง ๆ วิทยาลัยฯ ร่วมกับจังหวัดสุราษฎร์ธานี และสอศ. พร้อมด้วยองค์กรทุกภาคส่วน ได้ทุ่มเทกำลังอย่างเต็มความสามารถที่จะถวายการต้อนรับ เพื่อสนองพระมหากรุณาธิคุณ เป็นล้นพ้นอย่างหาที่สุดมิได้ ที่สมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดา ฯ สยามบรมราชกุมารี ในฐานะองค์อุปถัมภ์ ขององค์การฯ จะเสด็จพระราชดำเนินเป็นองค์ประธานเปิดงานประชุมวิชาการฯ ระดับชาติครั้งที่ 41 ในวันจันทร์ที่ 17 กุมภาพันธ์ 2563 และถือเป็นโอกาสอันเป็นมงคลยิ่งของสมาชิก อกท. และประชาชนจังหวัดสุราษฎร์ธานี และจังหวัดใกล้เคียงที่จะได้เข้าเฝ้าทูลละอองพระบาทรับเสด็จอย่างใกล้ชิด

นางสาวสมสมัย เพ็งกระจ่าง นายกองค์การเกษตรกรในอนาคตแห่งประเทศไทย ในพระราชูปถัมภ์ สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดา ฯ สยามบรมราชกุมารี กล่าวว่า นายก อกท. ระดับชาติในฐานะที่เป็นผู้นำของนักเรียน นักศึกษาอาชีวเกษตร และในนามของคณะกรรมการดำเนินงาน อกท. ระดับชาติ รู้สึกเป็นเกียรติอย่างยิ่งที่ได้มาร่วมงานกับสมาชิกและจะช่วยสนับสนุนเติมเต็มให้คณะกรรมการจัดงานเพื่อให้เกิดความสมบูรณ์ในทุก ๆ ด้าน และทั้งนี้จะเป็นผู้ดำเนินการสร้างสรรค์ให้บรรยากาศของงานมีความสนุกสนาน เกิดความประทับใจแก่สมาชิก ของ อกท. ในทุก ๆ มิติ และถือเป็นโอกาสอันดียิ่งที่สมาชิก อกท.จากทุกหน่วย จำนวน 52 หน่วย ได้มาพบปะพูดคุยแลกเปลี่ยนเรียนรู้ทั้งทางด้านทักษะและประสบการณ์ต่าง ๆ ตลอดจนเป็นการสร้างความสัมพันธ์อันดีระหว่างสมาชิกแต่ละหน่วย อีกทั้งยังเป็นการให้สมาชิกได้เปิดโลกทัศน์และมีมุมมองใหม่ ๆ เพื่อนำกลับไปปรับปรุงประยุกต์ใช้ให้เกิดประโยชน์ต่อหน่วยและวิทยาลัยของตนเองสืบไป