กระทรวงเกษตรฯ มุ่งส่งเสริมและสนับสนุนความร่วมมือด้านการตลาด เชื่อมโยงกลุ่มผู้ผลิตสินค้าเกษตรกับเทสโก้ โลตัส

กระทรวงเกษตรฯ มุ่งส่งเสริมและสนับสนุนความร่วมมือด้านการตลาด เชื่อมโยงกลุ่มผู้ผลิตสินค้าเกษตรกับเทสโก้ โลตัส หวังผลักดันให้มีช่องทางการจำหน่ายผลผลิต สร้างความมั่นคงทางอาชีพแก่เกษตรกร

นายเฉลิมชัย ศรีอ่อน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ เปิดเผยภายหลังพิธีลงนาม (MOU) บันทึกข้อตกลงความร่วมมือพัฒนาและส่งเสริมกลุ่มผู้ผลิตสินค้าเกษตรสู่ตลาดนำการเกษตร ระหว่างกรมส่งเสริมการเกษตร และบริษัท เอก-ชัย ดีสทริบิวชั่น จำกัด (เทสโก้ โลตัส) ณ วิสาหกิจชุมชนแปลงใหญ่ผักปลอดภัย จังหวัดลำพูน ว่า การลงนาม MOU ในวันนี้ มีวัตถุประสงค์เพื่อส่งเสริมและสนับสนุนการดำเนินงานในการพัฒนาเกษตรกร ภายใต้กลุ่มผู้ผลิตสินค้าเกษตร มุ่งเน้นให้เกษตรกรรวมกลุ่มดำเนินการผลิต เกิดความร่วมมือในการใช้เทคโนโลยีและนวัตกรรม เช่น การใช้สารชีวภัณฑ์ทดแทนการใช้สารเคมี วิทยาการหลังการเก็บเกี่ยว การบรรจุภัณฑ์ เป็นต้น เพื่อการผลิตสินค้าเกษตรที่มีคุณภาพได้มาตรฐาน และสามารถตรวจสอบย้อนกลับได้ อีกทั้งยังเป็นการส่งเสริมและสนับสนุนความร่วมมือด้านการตลาด ระหว่างกลุ่มผู้ผลิตสินค้าเกษตรกับเทสโก้ โลตัส โดยผลักดันให้เกษตรกรมีช่องทางการจำหน่ายผลผลิต ตลอดจนสามารถวางแผนการซื้อ – ขาย ผลผลิตสินค้าเกษตรตามความต้องการของตลาด เพื่อรักษาเสถียรภาพของราคาผลผลิต และสร้างความมั่นคงทางอาชีพแก่เกษตรกร

สำหรับการดำเนินงานในส่วนของกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ได้มีการบูรณาการหน่วยงานภาครัฐ ทั้งภายในและภายนอก เพื่อให้การสนับสนุนการดำเนินงาน ทั้งกรมส่งเสริมการเกษตร กรมวิชาการเกษตร สำนักงานตรวจบัญชีสหกรณ์ กรมพัฒนาที่ดิน ธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร สำนักงานสาธารณสุขจังหวัด และสำนักงานพาณิชย์จังหวัด เป็นพี่เลี้ยง ดูแล หาข้อมูล และช่วยแก้ไขปัญหาต่าง ๆ ให้แก่เกษตรกร โดยสมาชิกเกษตรกรทุกรายจะมีส่วนร่วมในการดำเนินการตั้งแต่การตกลงราคา การกำหนดชนิดและปริมาณผลผลิตที่ตกลงกับบริษัท ร่วมวางแผนการผลิต และเรียนรู้เทคโนโลยีใหม่ ๆ เพื่อให้ได้แนวทาง วิธีการให้กลุ่มได้พัฒนามากยิ่งขึ้น รวมทั้งการตัดสินใจในเรื่องต่าง ๆ ที่ต้องดำเนินการร่วมกับบริษัท และบทบาทในส่วนของเทสโก้ โลตัส จะเข้ามามีส่วนร่วมในการรับซื้อผลผลิต มีการตกลงราคาในราคาที่เป็นธรรม และให้ความรู้แก่เกษตรกรด้านการวางแผน ประเมินและวิเคราะห์ความเสี่ยงในขั้นตอนการผลิต เพื่อให้สอดคล้องกับความต้องการของตลาด นอกจากนี้ กระทรวงเกษตรฯ ยังมีแนวทางในการขยายการรับซื้อไปยังกลุ่มเกษตรกรในพื้นที่ใกล้เคียง ขยายกลุ่มสินค้าในการรับซื้อไปยังกลุ่มสินค้าอื่น เช่น ไม้ผล เพื่อพัฒนาเกษตรกรจากผู้รวบรวมผลผลิต เป็นผู้คัด บรรจุผลผลิตในบรรจุภัณฑ์ และพัฒนาคุณภาพผลผลิตสินค้าเกษตรให้ได้มาตรฐานด้วย

“จากนโยบายตลาดนำการเกษตรของรัฐบาลและยุทธศาสตร์การพัฒนาประเทศ ได้มุ่งเน้นส่งเสริมการเกษตรแบบแปลงใหญ่ และกลุ่มผู้ผลิตสินค้าเกษตร ให้เกษตรกรเกิดความร่วมมือในการใช้เทคโนโลยี และนวัตกรรมเพื่อการผลิตและการตลาด รวมทั้งเสริมสร้างขีดความสามารถในการแข่งขันในด้านต่าง ๆ และเมื่อกลุ่มเกษตรกรทราบความต้องการของตลาดแล้วจึงนำมาวางแผนการผลิต ทำให้ลดความเสี่ยงจากปัญหาราคาสินค้าเกษตรตกต่ำ นอกจากนี้ การร่วมมือกันในการพัฒนาสินค้าเกษตรที่มุ่งเน้นการส่งเสริมการผลิตตั้งแต่ต้นทางถึงปลายทาง โดยใช้ตลาดนำการผลิต จะช่วยเหลือกลุ่มเกษตรกรในการจัดหาแหล่งจำหน่ายสินค้าที่มีคุณภาพ มีความปลอดภัย เพื่อให้ผู้บริโภคในพื้นที่เข้าถึงสินค้าเกษตร สินค้าแปรรูป และสินค้าหัตถกรรมที่มีความปลอดภัย” นายเฉลิมชัย กล่าว

ด้าน นายเข้มแข็ง ยุติธรรมดำรง อธิบดีกรมส่งเสริมการเกษตร กล่าวเพิ่มเติมว่า กรมส่งเสริมการเกษตรได้ดำเนินงานในระบบส่งเสริมการเกษตรแบบแปลงใหญ่ ตั้งแต่ ปี 2559 ถึงปัจจุบัน มีเกษตรกรเข้าร่วมโครงการฯ จำนวน 365,884 ครัวเรือน พื้นที่ 6,020,845.77 ไร่ จำนวนแปลงใหญ่ 6,534 แปลง สินค้าเกษตรประมาณ 70 รายการ โดยมุ่งเน้นการบริหารจัดการกลุ่มและการเพิ่มประสิทธิภาพการผลิตสินค้าเกษตรให้ได้คุณภาพตรงตามความต้องการของตลาด มีการเชื่อมโยงกลุ่มผู้ผลิตกับตลาด ตามนโยบาย “การตลาดนำการเกษตร”

สำหรับกิจกรรมภายใต้กรอบความร่วมมือ ปัจจุบันมีแปลงใหญ่ผักที่ดำเนินการร่วมกับเทสโก้ โลตัส จำนวน 4 แห่ง ซึ่งครอบคลุมทั้ง 4 ภูมิภาค ได้แก่ 1) กลุ่มเกษตรกรทำสวนบ้านโนนเขวา อ.เมืองขอนแก่น จ.ขอนแก่น เริ่มการรับซื้อผลผลิตเดือนมีนาคม 2561 สมาชิกเข้าร่วม 170 ราย พื้นที่ 534 ไร่ ชนิดผัก 16 ชนิด ปริมาณผลผลิต 70 ตัน/เดือน มูลค่าการซื้อขายประมาณ 1,200,000 บาท/เดือน 2) กลุ่มแปลงใหญ่ผักบางท่าข้าม หรือวิสาหกิจชุมชนกลุ่มเกษตรกรทำสวนผสมผสานแบบยั่งยืนบางท่าข้าม อ.พุนพิน จ.สุราษฏร์ธานี เริ่มการรับซื้อผลผลิตเดือนสิงหาคม 2561 สมาชิกเข้าร่วม 72 ราย พื้นที่ 628 ไร่ ชนิดผัก 12 ชนิด ปริมาณผลผลิต 97 ตัน/เดือน มูลค่าการซื้อขายประมาณ 1,500,000 บาท/เดือน  3) กลุ่มวิสาหกิจชุมชนบ้านนาคูร่วมใจพัฒนา อ.ผักไห่ จ.พระนครศรีอยุธยา เริ่มการรับซื้อผลผลิตเดือนกันยายน 2561 สมาชิกเข้าร่วม 59 ราย พื้นที่  288 ไร่ ชนิดผัก 17 ชนิด ปริมาณผลผลิต  72 ตัน/เดือน มูลค่าการซื้อขายประมาณ 850,000 บาท/เดือน 4) วิสาหกิจชุมชนแปลงใหญ่ผักปลอดภัย อ.เมืองลำพูน จ.ลำพูน เริ่มการรับซื้อผลผลิตเดือนตุลาคม 2562 สมาชิกเข้าร่วม 42 ราย พื้นที่ 180 ไร่ ชนิดผัก 29 ชนิด ปริมาณผลผลิต 35 ตัน/เดือน  มูลค่าการซื้อขาย 720,000 บาท/เดือน