รมช.พาณิชย์ฯ มั่นใจงานหัตถศิลป์ไทยเป็นที่นิยมเพิ่มสูงขึ้น คาดการณ์มูลค่าจำหน่ายภายในงาน “อัตลักษณ์แห่งสยาม ครั้งที่ 11” สูงกว่า 50 ล้านบาท

“วีรศักดิ์” มั่นใจ SACICT จัดงาน “อัตลักษณ์แห่งสยาม ครั้งที่ 11” ช่วยหนุนผู้ประกอบการหัตถศิลป์ สร้างความนิยมงานศิลปหัตถกรรมในกลุ่มคนรุ่นใหม่เพิ่มมากขึ้น คาดเม็ดเงินสะพัดสูงกว่า 50 ล้านบาท

นายวีรศักดิ์ หวังศุภกิจโกศล รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงพาณิชย์ กล่าวว่า วันนี้ได้มาเป็นประธานเปิดงาน “อัตลักษณ์แห่งสยาม ครั้งที่ 11” ซึ่งจัดขึ้นภายใต้แนวคิด “เสน่ห์แห่งภูมิปัญญา” ระหว่างวันที่ 30 มกราคม – 2 กุมภาพันธ์ 2563 ระหว่างเวลา 10.00 – 20.00 น. ณ ศูนย์นิทรรศการและการประชุมไบเทค และได้มีโอกาสพบปะและพูดคุยกับบรรดาครูผู้สร้างสรรค์ผลงานหัตถศิลป์ระดับชั้นนำของประเทศที่ได้รับการเชิดชูจากศูนย์ส่งเสริมศิลปาชีพระหว่างประเทศ (องค์การมหาชน) หรือ SACICT อีกทั้งยังได้เห็นพัฒนาการความเปลี่ยนแปลงของชิ้นงานหัตถศิลป์ไทยที่มีความสอดคล้องกับกลุ่มผู้ซื้อมากขึ้น ทั้งรูปลักษณ์และลักษณะการใช้งานในชีวิตประจำวัน แต่ยังคงไว้ซึ่งความประณีต และเสน่ห์แห่งภูมิปัญญาที่ยังคงไว้ไม่เสื่อมคลาย ทำให้มั่นใจได้ว่างานหัตถศิลป์ไทยจะเป็นที่นิยมในกลุ่มคนไทยโดยเฉพาะคนรุ่นใหม่มากขึ้น และเป็นสินค้า ที่มีโอกาสทางธุรกิจในการส่งออกไปยังตลาดต่างประเทศได้เป็นอย่างดี

สำหรับงานอัตลักษณ์แห่งสยามในปีนี้จัดขึ้นโดยมีวัตถุประสงค์สำคัญคือเพื่อส่งเสริมและจำหน่ายผลิตภัณฑ์จากมูลนิธิส่งเสริมศิลปาชีพในสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ และงานหัตถกรรมไทย ให้เป็นที่รู้จักและยอมรับทั้งชาวไทยและต่างประเทศ สร้างกระแสการรับรู้และเพิ่มช่องทางการตลาดแก่ผู้ผลิตงานศิลปหัตถกรรมไทย รวมถึงการเชิดชูเกียรติบุคคลผู้สร้างสรรค์งานหัตถศิลป์ไทยเป็น “ครูศิลป์ของแผ่นดิน” “ครูช่างศิลปหัตถกรรม” และ “ทายาทช่างศิลปหัตถกรรม” ประจำปี 2563 ในหลากหลายสาขา งานหัตถกรรม รวมกว่า 29 ราย

กิจกรรมภายในงานครั้งนี้ SACICT ได้คัดสรรกิจกรรมที่น่าสนใจไว้มากมายถึง  7 โซน ประกอบด้วย

โซนที่ 1 ชื่นชมนานา ศิลปาชีพไทย ส่วนจำหน่ายผลิตภัณฑ์จากมูลนิธิส่งเสริมศิลปาชีพในสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ และส่วนสาธิตการทำงานโดยสมาชิกมูลนิธิส่งเสริมศิลปาชีพ ในสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ และสาธิตการทำงานหัตถกรรมจากสมาชิก อาทิ จักสานไม้ไผ่ลายขิด งานปักซอย งานดอกไม้ประดิษฐ์พระนาม เป็นต้น

โซนที่ 2 เชิดชูครู-ทายาท หัตถศิลป์ นิทรรศการและจัดแสดงผลิตภัณฑ์ครูศิลป์ของแผ่นดิน ครูช่างศิลปหัตถกรรม และทายาทช่างศิลปหัตถกรรม ประจำปี 2563

โซนที่ 3 ภูมิปัญญา จารึก แผ่นดิน  นิทรรศการจัดแสดงผลงานชิ้นพิเศษ ระดับมาสเตอร์พีช ครูศิลป์ของแผ่นดิน ครูช่างศิลปหัตถกรรม และทายาทช่างศิลปหัตถกรรมกว่า 30 ผลงาน อาทิ งานเทียนพรรษา งานแทงหยวก งานตอกกระดาษ งานผ้าบาติก เป็นต้น

โซนที่ 4 รังสรรค์หัตถศิลป์ ร่วมเวิร์คช็อป ลงมือสร้างสรรค์ผลงานหัตถศิลป์ชิ้นพิเศษด้วยตัวท่านเอง ทุกวัน 4 กิจกรรม ต่อวัน วันละ 2 รอบ

โซนที่ 5 เอกลักษณ์แห่งท้องถิ่น นิทรรศการหัตถกรรมที่ได้รับการคัดเลือกให้เป็นสิ่งบ่งชี้ทางภูมิศาสตร์(GI Projects) ที่เกี่ยวกับงานหัตถกรรม อาทิ งานผ้าไหม งานเซรามิค งานจักสานท้องถิ่น

โซนที่ 6 การออกร้านจำหน่ายผลิตภัณฑ์อันทรงคุณค่าจากฝีมือครูชั้นนำระหว่างประเทศ กว่า 200 ร้าน โดยมีการแบ่งกลุ่มโซนงานหัตถกรรมออกเป็น 4 โซน ดังนี้

– วิจิตรมายา เหมาะสำหรับนักสะสมงานกลุ่มศิลปชั้นสูงที่สร้างสรรค์ขึ้นอย่างวิจิตรตระการตา เสมือนนำมายาแห่งศิลป์งานประติมากรรมและจิตรกรรมเข้าไว้ด้วยกัน อาทิ งานหัวโขน หนังใหญ่ หนังตะลุง

– ถักทอ สายใย ชมและมีส่วนร่วมเป็นเจ้าของผลงานจากผู้ถักทอเส้นใย งานหัตถกรรมผ้าไทยทรงคุณค่าที่สร้างชื่อเสียงขจรไกลไปทั่วโลก

– ล้ำค่า ภูมิปัญญา ชิ้นงานที่หลากหลายจากมรดกทางภูมิปัญญาอันล้ำค่าผสานแนวคิดสมัยใหม่ เหมาะสำหรับผู้มองหาเครื่องประดับและของตบแต่งที่มีอัตลักษณ์ อาทิ งานโลหะ เครื่องเงิน เครื่องถมเครื่องทอง

– เจนจัดทัศนศิลป์ สรรหา สร้างแรงบันดาลใจ ได้จากผู้สร้างที่เฉพาะทางด้วยความเจนจัด และมากประสบการณ์ งานฝีมือท้องถิ่น อาทิ งานปูนปั้น งานแกะสลักไม้ แทงหยวก จัดสานทองเหลืองตัดกระดาษ ขันลงหิน

โซนที่ 7 SACICT Shop ร้านค้าจำหน่ายผลิตภัณฑ์หัตถศิลป์ไทยจากกลุ่มสมาชิก SACICT

นายวีรศักดิ์ฯ กล่าวเพิ่มเติมว่า ในแต่ละปีงานอัตลักษณ์แห่งสยามถือได้ว่ามีการพัฒนาและขยายพื้นที่การจัดงานเพิ่มมากขึ้น ซึ่งในปีนี้ SACICT ได้ย้ายสถานที่จัดงานไปที่ศูนย์นิทรรศการและการประชุมไบเทค บางนา ซึ่งมีขนาดใหญ่กว่า 5,400 ตารางเมตร ได้รับเสียงตอบรับจากกลุ่มผู้ซื้อ แฟนคลับ ชาวต่างชาติ และผู้สนใจเป็นอย่างดี ซึ่งคาดว่าจะมีผู้เข้าชมงานกว่า 20,000 คน และมียอดจำหน่ายสินค้าภายในงานกว่า 50 ล้านบาท

“อัตลักษณ์แห่งสยาม ครั้งที่ 11” ระหว่างวันที่ 30 มกราคม – 2 กุมภาพันธ์ 2563 เวลา 10.00 – 20.00 น. ณ ฮอลล์ EH 101 ศูนย์นิทรรศการและการประชุมไบเทค บางนา สอบถามเพิ่มเติม Facebook : SACICT