ปภ.รายงานเกิดวาตภัยในพื้นที่ 5 จังหวัด ประสานจังหวัดเร่งช่วยเหลือผู้ประสบภัยอย่างต่อเนื่อง

กระทรวงมหาดไทย โดยกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย (ปภ.) รายงานจากอิทธิพลความกดอากาศสูงจากประเทศจีนแผ่ลงมาปกคลุมภาคตะวันออกเฉียงเหนือและทะเลจีนใต้ ประกอบกับกระแสลมตะวันตกจะเคลื่อนผ่านภาคเหนือและภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ตั้งแต่วันที่ 24 – 25 มกราคม 2563 ทำให้มีพื้นที่ได้รับผลกระทบจากพายุฝนฟ้าคะนองและลมกระโชกแรง 5 จังหวัด รวม 13 อำเภอ 23 ตำบล 109 หมู่บ้าน บ้านเรือนประชาชนได้รับความเสียหาย 284 หลัง มีผู้เสียชีวิต 1 ราย ผู้ได้รับบาดเจ็บ 1 คน หลัง ซึ่ง ปภ.ได้ร่วมกับหน่วยทหาร จังหวัด และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เร่งสำรวจความเสียหายและให้การช่วยเหลือผู้ประสบภัยในเบื้องต้นอย่างเร่งด่วน

นายมณฑล  สุดประเสริฐ อธิบดีกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย (ปภ.) เปิดเผยว่า จากอิทธิพลความกดอากาศสูงจากประเทศจีนแผ่ลงมาปกคลุมภาคตะวันออกเฉียงเหนือและทะเลจีนใต้ ประกอบกับกระแสลมตะวันตกจะเคลื่อนผ่านภาคเหนือและภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ตั้งแต่วันที่ 24 – 25 มกราคม 2563 ทำให้มีพื้นที่ได้รับผลกระทบจากพายุฝนฟ้าคะนองและลมกระโชกแรง 5 จังหวัด แยกเป็น ภาคเหนือ 1 จังหวัด ได้แก่ พิจิตร ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ 4 จังหวัด ได้แก่ อุดรธานี หนองบัวลำภู นครพนม และสกลนคร รวม 13 อำเภอ 23 ตำบล 109 หมู่บ้าน บ้านเรือนประชาชนได้รับความเสียหาย 284 หลัง เสาไฟฟ้าโค่น 45 ต้น ศาลาริมทาง 1 หลัง วัด 1 แห่ง โรงเรียน 1 แห่ง มีผู้เสียชีวิต 1 ราย ผู้ได้รับบาดเจ็บ 1 คน ซึ่งกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยได้ประสานจังหวัด หน่วยทหาร องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเร่งให้การช่วยเหลือผู้ประสบภัยในเบื้องต้นโดยด่วน รวมถึงจัดเจ้าหน้าที่สำรวจ ประเมิน และจัดทำบัญชีข้อมูลความเสียหาย เพื่อดำเนินการช่วยเหลือตามระเบียบกระทรวงการคลังฯ ทั้งการชดเชยความเสียหายของบ้านเรือนเป็นวัสดุก่อสร้าง หรือจ่ายเงินช่วยเหลือตามความเหมาะสม อีกทั้งจ่ายเงินสงเคราะห์ค่าจัดการศพตามระเบียบและหลักเกณฑ์ที่กำหนดแก่ครอบครัวผู้เสียชีวิต อย่างไรก็ตาม จากการตรวจสอบสภาพอากาศกับกรมอุตุนิยมวิทยา พบว่า ในระยะนี้พื้นที่ภาคเหนือ และภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ยังคงมีพายุฝนฟ้าคะนองกับลมกระโชกแรง ปภ.จึงได้ประสานจังหวัด รวมถึงศูนย์ป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยเขตในพื้นที่เสี่ยงภัย จัดเจ้าหน้าที่ติดตามสภาพอากาศและเฝ้าระวังสถานการณ์ภัยอย่างใกล้ชิด อีกทั้งจัดเตรียมวัสดุอุปกรณ์ให้พร้อมปฏิบัติการเผชิญเหตุและช่วยเหลือผู้ประสบภัยอย่างทันท่วงที ตลอดจนแจ้งเตือนประชาชนให้ติดตามพยากรณ์อากาศและปฏิบัติตามประกาศเตือนภัยอย่างเคร่งครัด ระมัดระวังอันตรายจากภาวะพายุฝนฟ้าคะนองและลมกระโชกแรง โดยอยู่ให้ห่างจากสิ่งปลูกสร้างที่ไม่มั่นคงแข็งแรง ต้นไม้ใหญ่ และป้ายโฆษณาในช่วงที่เกิดพายุฝนฟ้าคะนอง ท้ายนี้ ประชาชนที่ได้รับความเดือดร้อนจากสถานการณ์ภัย สามารถติดต่อขอความช่วยเหลือได้ทางสายด่วนนิรภัย 1784 ตลอด 24 ชั่วโมง เพื่อประสานให้การช่วยเหลือโดยด่วนต่อไป