กรมสุขภาพจิต ร่วมเปิดหน่วยแพทย์เคลื่อนที่ดูแลประชาชนจากภาวะฝุ่นพิษ พร้อมเน้นย้ำทุกคนต้องตระหนักแต่ไม่ตื่นตระหนก

กรมสุขภาพจิต ร่วมเปิดหน่วยแพทย์เคลื่อนที่บริการด้านสุขภาพประชาชนที่ได้รับผลกระทบจากภาวะฝุ่นพิษ กระทรวงสาธารณสุข โดยเน้นการสร้างความรู้ความเข้าใจแก่ประชาชน ให้ตระหนักแต่ไม่ตระหนก มีสติพร้อมรับมือกับปัญหาที่เกิดขึ้น

วันที่ 24 มกราคม 2563 นายแพทย์เกียรติภูมิ วงศ์รจิต อธิบดีกรมสุขภาพจิต ได้ร่วมเปิดโครงการหน่วยแพทย์เคลื่อนที่บริการด้านสุขภาพประชาชนที่ได้รับผลกระทบจากภาวะฝุ่นพิษ กระทรวงสาธารณสุข โดยมี ดร.สาธิต ปิตุเตชะ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงสาธารณสุข เป็นประธานในพิธี ที่ท่าน้ำนนทบุรี ซึ่งเป็นความร่วมมือกันของกรมต่างๆ เช่น กรมสุขภาพจิต กรมควบคุมโรค กรมอนามัย กรมการแพทย์ กรมสนับสนุนบริการสุขภาพ และสำนักงานสาธารณสุขจังหวัดนนทบุรี โดยกรมสุขภาพจิตจะมีบริการให้คำปรึกษาแก่ประชาชนเรื่องการสร้างความตระหนักต่อปัญหาที่เกิดขึ้นโดยใช้สติ เพื่อป้องกันการตื่นตระหนก

นายแพทย์เกียรติภูมิ กล่าวว่า กรมสุขภาพจิตขอเน้นย้ำแนวทางในการดูแลสุขภาพใจให้กับประชาชน เพื่อช่วยให้ประชาชน “ตระหนักแต่ไม่ตระหนก” สามารถปรับตัว ปรับวิธีคิด และรับมือกับสถานการณ์ฝุ่นละอองเกินเกณฑ์มาตรฐานได้ ด้วยวิธีการ 5 ข้อ ดังนี้

  1. มีสติและติดตามข่าวสารสถานการณ์จากช่องทางที่เชื่อถือได้อย่างมีสติ ปฏิบัติตัวตามคำแนะนำที่ถูกต้อง ประเมินสถานการณ์อย่างรอบคอบ ตระหนักถึงความเสี่ยงในการประกอบกิจกรรมต่างๆ
  2. ปรับวิธีการคิด ให้คิดแบบยืดหยุ่น หาแง่มุมดีดีที่เกิดขึ้น เพื่อลดความตื่นตระหนกของตนเองและคนรอบข้าง
  3. รับประทานอาหารที่มีประโยชน์ พักผ่อนให้เพียงพอ หาวิธีการออกกำลังกายภายในอาคาร
  4. หาวิธีการป้องกันฝุ่นละอองที่เหมาะสม โดยเฉพาะกลุ่มเสี่ยงที่เจ็บป่วยได้ง่าย เช่น ผู้สูงอายุ เด็ก หญิงตั้งครรภ์ รวมทั้งผู้ที่มีโรคประจำตัว ควรหลีกเลี่ยงการทำกิจกรรมหรือการออกกำลังกายกลางแจ้งในพื้นที่ที่มีค่าฝุ่นละอองเกินค่ามาตรฐาน หากต้องออกไปทำกิจกรรมนอกบ้านควรสวมหน้ากากอนามัย และผู้ที่มีโรคประจำตัว ควรเตรียมยาประจำตัวให้พร้อมเสมอ
  5. เฝ้าระวังหรือสังเกตอาการ หากมีอาการผิดปกติ เช่น ไอบ่อย หายใจลำบาก หายใจถี่ หายใจไม่ออก แน่นหน้าอก ใจสั่น คลื่นไส้ หรือวิงเวียนศีรษะ ให้รีบพบแพทย์ และปฏิบัติตามคำแนะนำของแพทย์อย่างเคร่งครัด

ทั้งนี้ หากใครยังมีความเครียดมาก วิตกกังวล นอนไม่หลับ สามารถโทรปรึกษาสายด่วนสุขภาพจิต 1323 ตลอด 24 ชั่วโมง หรือพบแพทย์ผู้เชี่ยวชาญจากโรงพยาบาลใกล้บ้าน หรือโรงพยาบาลจิตเวชในสังกัดกรมสุขภาพจิต อธิบดีกรมสุขภาพจิตกล่าว

                           *********************************