หอการค้าไทย จับมือกระทรวงแรงงาน จัดตลาดงานผู้สูงอายุ 60+ Job Fair เปิดรับสมัครงานกว่า 600 อัตรา โดยบริษัทชั้นนำ 15 แห่ง

วันที่​ 22 มกราคม 2563 ที่ เทสโก้ โลตัส พลัส มอลล์ บางใหญ่ นนทบุรี​ : พลโท นันทเดช เมฆสวัสดิ์ เลขานุการรัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงาน เป็นประธานเปิดงาน “ตลาดงานผู้สูงอายุ (60+ Job Fair)” โดยมี รองผู้ว่าราชการจังหวัดนนทบุรี กล่าวต้อนรับ นายสุชาติ พรชัยวิเศษกุล อธิบดีกรมการจัดหางาน กล่าวรายงาน นายกลินท์ สารสิน ประธานกรรมการหอการค้าไทยและสภาหอการค้าแห่งประเทศไทย กล่าวถึงความร่วมมือในส่วนภาคเอกชน โดยมีนางเธียรรัตน์ นะวะมะวัฒน์ รองอธิบดีกรมการจัดหางาน และหัวหน้าส่วนราชการในจังหวัดนนทบุรี ร่วมเป็นเกียรติในงาน​ คณะกรรมการพัฒนาสังคม หอการค้าไทยและสภาหอการค้าแห่งประเทศไทย ร่วมกับกรมการจัดหางาน กระทรวงแรงงาน จัดตลาดงานผู้สูงอายุ 60+ Job Fair เปิดโอกาสให้ผู้สูงอายุสมัครงานกับบริษัทชั้นนำ 15 แห่งโดยตรงกว่า 600 อัตรา ส่งเสริมการสร้างรายได้และสร้างคุณภาพชีวิตที่ดีแก่ผู้สูงวัย รองรับแนวโน้มสังคมผู้สูงอายุของประเทศไทย

หอการค้าไทยและสภาหอการค้าแห่งประเทศไทย ในฐานะภาคเอกชนตระหนักในความสำคัญของการรับผิดชอบที่มีต่อสังคม จึงกำหนดให้การพัฒนาสังคม เป็นพันธกิจหลักด้านหนึ่งขององค์กร ที่ดำเนินการควบคู่กับการพัฒนาเศรษฐกิจ ด้วยการส่งเสริมให้ผู้ประกอบการดูแลผู้ที่มีส่วนเกี่ยวข้องในธุรกิจ ตั้งแต่ต้นทางจนถึงปลายทาง รวมถึงการช่วยเหลือผู้ด้อยโอกาส ทั้งกลุ่มเด็ก สตรี ผู้สูงอายุ และคนพิการ ให้เกิดความเสมอภาคทางด้านโอกาส และเกิดความเท่าเทียมกันในสังคม

จากแนวโน้มที่ประเทศไทย เริ่มเข้าสู่สังคมผู้สูงอายุ (Aging Society) แล้วทางหอการค้าไทย จึงเน้นให้ความสำคัญกับการสร้างความร่วมมือระหว่างภาครัฐกับเอกชน ในการส่งเสริมและขยายโอกาสด้านอาชีพและการทำงานสำหรับผู้สูงอายุ ซึ่งเป็นการส่งเสริมและสนับสนุนให้ผู้สูงอายุได้มีงานทำที่เหมาะสมกับวัยและประสบการณ์ เป็นการขยายหลักประกันความมั่นคงด้านรายได้ สร้างคุณค่าและความภาคภูมิใจให้แก่ผู้สูงอายุ
พลโท นันทเดช เมฆสวัสดิ์ เลขานุการรัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงาน กล่าวว่า ประเทศไทยได้ก้าวเข้าสู่สังคมผู้สูงอายุ (Aging Society) ตั้งแต่ปี พ.ศ.2548 มีประชากรสูงอายุ ร้อยละ 10 ของประชากรรวม และจากข้อมูลสำนักงานสถิติแห่งชาติ คาดว่าในปี พ.ศ. 2564 ประเทศไทยจะเป็นสังคมผู้สูงอายุอย่างสมบูรณ์ (Aged Society) คือ มีประชากรสูงอายุ ร้อยละ 20 ของประชากรรวม และในปี พ.ศ.2578 จะมีประชากรสูงอายุ ร้อยละ 30 ของประชากรรวม ซึ่งจะทำให้ประเทศไทยเป็นสังคมผู้สูงอายุระดับสุดยอด (Super Aged Society) การเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็วของประชากรสูงอายุ จะส่งผลกระทบต่ออัตราการเจริญเติบโตทางเศรษฐกิจของประเทศ จากการที่สัดส่วนประชากรวัยเด็กและวัยแรงงานลดลง อย่างต่อเนื่อง อาจกระทบต่อความต้องการแรงงานในระบบเศรษฐกิจในอนาคต การแข่งขันในตลาดแรงงานจะมีมากขึ้น โดยเฉพาะแรงงานคุณภาพ ภาครัฐ และครัวเรือนจะมีภาระค่าใช้จ่ายเพิ่มขึ้นในการดูแลและพัฒนาคุณภาพชีวิตของผู้สูงอายุในด้านต่าง ๆ ส่งผลกระทบต่อภาระงบประมาณของภาครัฐในการดูแลผู้สูงอายุ ทั้งในเรื่องสวัสดิการทางสังคม สุขภาพ และเศรษฐกิจจึงต้องมีการเตรียมพร้อมให้สังคมและชุมชนสามารถปรับตัวรองรับผลกระทบจากการเปลี่ยนแปลงได้อย่างเหมาะสม ซึ่งต้องอาศัยความร่วมมือจากทุกภาคส่วนที่เกี่ยวข้อง

พลโท นันทเดช เมฆสวัสดิ์ เลขานุการรัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงาน กล่าวว่า ประเทศไทยได้ก้าวเข้าสู่สังคมผู้สูงอายุ (Aging Society) ตั้งแต่ปี พ.ศ. 2548 มีประชากรสูงอายุ ร้อยละ 10 ของประชากรรวม และจากข้อมูลสำนักงานสถิติแห่งชาติ คาดว่าในปี พ.ศ. 2564 ประเทศไทยจะเป็นสังคมผู้สูงอายุอย่างสมบูรณ์ (Aged Society) คือ มีประชากรสูงอายุ ร้อยละ 20 ของประชากรรวม และในปี พ.ศ. 2578 จะมีประชากรสูงอายุ ร้อยละ 30 ของประชากรรวม ซึ่งจะทำให้ประเทศไทยเป็นสังคมผู้สูงอายุระดับสุดยอด (Super Aged Society) การเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็วของประชากรสูงอายุ จะส่งผลกระทบต่ออัตราการเจริญเติบโตทางเศรษฐกิจของประเทศ จากการที่สัดส่วนประชากรวัยเด็กและวัยแรงงานลดลง อย่างต่อเนื่อง อาจกระทบต่อความต้องการแรงงานในระบบเศรษฐกิจในอนาคต การแข่งขันในตลาดแรงงานจะมีมากขึ้น โดยเฉพาะแรงงานคุณภาพ ภาครัฐ และครัวเรือนจะมีภาระค่าใช้จ่ายเพิ่มขึ้นในการดูแลและพัฒนาคุณภาพชีวิตของผู้สูงอายุในด้านต่าง ๆ ส่งผลกระทบต่อภาระงบประมาณของภาคร

“กระทรวงแรงงาน โดยกรมการจัดหางานเล็งเห็นความสำคัญของสถานการณ์ผู้สูงอายุ จึงได้มีนโยบายในการขับเคลื่อนการส่งเสริมและขยายโอกาสด้านอาชีพและการทำงานของผู้สูงอายุ ซึ่งสอดคล้องกับกรอบยุทธศาสตร์ชาติระยะ 20 ปี (พ.ศ.2560–2579) แผนพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ ฉบับที่ 12 (พ.ศ. 2560–2564) และแผนผู้สูงอายุแห่งชาติ ฉบับที่ 2 (พ.ศ.2545–2564) ซึ่งในวันนี้ ได้ประสานความร่วมมือกับหอการค้าไทยและสภาหอการค้าแห่งประเทศไทย จัดงาน “ตลาดงานผู้สูงอายุ (60+Job Fair)” ในรูปแบบประชารัฐ เพื่อส่งเสริมและสนับสนุนให้ผู้สูงอายุได้มีงานทำกับอาชีพที่เหมาะสมกับวัยและประสบการณ์ และเป็นการสร้างหลักประกันที่มั่นคงทางรายได้ สร้างคุณค่าและความภาคภูมิใจแก่ผู้สูงอายุ สามารถพึ่งพาตนเองได้ ลดภาระการเลี้ยงดูของครอบครัว ตลอดจนเป็นการเพิ่มบทบาทและคุณค่าของผู้สูงอายุด้วยการมีส่วนร่วมในเชิงเศรษฐกิจ ลดภาระค่าใช้จ่ายของรัฐในด้านสวัสดิการสำหรับผู้สูงอายุ ”เลขานุการรัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงาน กล่าว

ด้านนายสุชาติ พรชัยวิเศษกุล อธิบดีกรมการจัดหางาน กล่าวว่า สำหรับกิจกรรมในงานวันนี้ประกอบด้วย การจัดนัดพบแรงงานผู้สูงอายุ โดยมีบริษัทเข้าร่วมงานกว่า 15 บริษัท อาทิ บริษัท เทสโก้ โลตัส บริษัท เอส แอนด์ พี ซินดิเคท จำกัด (มหาชน) บริษัท อีซูซุโกลบอล ซีวี เอ็นจิเนียริ่ง เซ็นเตอร์ จำกัด บริษัท บางจาก คอร์ปอเรชั่น จำกัด บริษัท เอเซี่ยน เบสท์ ซิคเก้น จำกัด บริษัท โฮม โปรดักส์ เซ็นเตอร์ จำกัด (มหาชน) และโรงแรมแกรนเซ็นเตอร์พอย เป็นต้น โดยมีตำแหน่งงานว่างกว่า 4,000 อัตรา เช่น ตำแหน่ง พนักงานจัดเรียงสินค้า/ บริการ พนักงานครัว พนักงานขาย พนักงานบริการลูกค้า พนักงานธุรการ พนักงานเบเกอรี่ พนักงานครัวขนมไทย พนักงานจัดเรียงสินค้า เป็นต้น กิจกรรมสาธิตอาชีพอิสระกว่า 30 อาชีพ นอกจากนี้ ยังมีบูธฝึกทักษะฝีมือแรงงานอาชีพอิสระ 5 อาชีพ การประชาสัมพันธ์การขึ้นทะเบียนผู้ประกันตนตามพระราชบัญญัติประกันสังคม พ.ศ. 2533 มาตรา 40 พร้อมการตรวจสุขภาพสำหรับผู้สูงอายุ และการให้คำแนะนำด้านการเพิ่มทักษะฝีมือแรงงาน

นางสาวสลิลลา สีหพันธุ์ ประธานกรรมการฝ่ายกิจการบรรษัท เทสโก้ โลตัส กล่าวว่า “ในฐานะที่เทสโก้ โลตัส เป็นสมาชิกคณะกรรมการพัฒนาสังคม หอการค้าไทย และเป็นภาคีที่ช่วยขับเคลื่อนการจ้างงานผู้สูงอายุในประเทศไทย เรายินดีที่ได้สนับสนุนงบประมาณและสถานที่ในการจัดงานครั้งนี้ เพื่อเปิดโอกาสให้ผู้สูงอายุได้พบปะกับบริษัทชั้นนำทั้ง 15 บริษัท เพื่อสมัครงานในตำแหน่งที่เหมาะสมกับความรู้ ความสามารถ และความถนัดของแต่ละบุคคล โดย เทสโก้ โลตัส เป็นหนึ่งในบริษัทที่ร่วมออกบูธรับสมัครงานในโครงการ “60 ยังแจ๋ว” โดยปัจจุบันมีผู้สูงอายุเกือบ 800 คนทำงานในร้านค้าของเทสโก้ โลตัส ทั่วประเทศ และเทสโก้ โลตัส มีความพร้อมที่จะรองรับผู้สูงอายุเพิ่มอีก ตามนโยบายสร้างบุคลากรที่มีความยืดหยุ่น พร้อมรองรับสังคมผู้สูงอายุต่อไปในอนาคต”

กิจกรรมภายในตลาดงานผู้สูงอายุ 60+Job Fair ประกอบไปด้วย โซนรับสมัครงาน จากบริษัทชั้นนำ 15 ราย อาทิ เทสโก้ โลตัส, เอส แอนด์ พี, เคเอฟซี, อินเด็กซ์ เป็นต้น โดยมีตำแหน่งงานรวมกันกว่า 600 อัตรา โซนอาชีพอิสระ สอนทักษะในการประกอบอาชีพ เช่น โมบายใบไม้จากผักตบชวา, สร้อยคอจากคริสตัล, กระเป๋าพวงกุญแจจากผ้า, กล่องทิชชูจากผ้าไทย และศิลปะการปักริบบิ้นกระเป๋ากระจูด และโซนบริการจากกระทรวงแรงงาน โดย กรมสวัสดิการและคุ้มครองแรงงาน, กรมการจัดหางาน, ประกันสังคม มาตรา 40 และบริการตรวจสุขภาพสำหรับผู้สูงอายุฟรี​ กรมการจัดหางาน เอาใจผู้สูงวัย จัดตลาดงานผู้สูงอายุ (60+ Job Fair)

ทั้งนี้ต้องขอขอบคุณห้างเทสโก้ โลตัส พลัส มอลล์ บางใหญ่ จังหวัดนนทบุรี รวมทั้ง สถานประกอบการและทุกภาคส่วนที่เกี่ยวข้องที่มีส่วนสนับสนุนงานในครั้งนี้ ซึ่งมีส่วนช่วยรองรับผู้สูงอายุ ผู้ว่างงาน และประชาชนที่ประสงค์จะหางานทำ ได้สมัครงานกับนายจ้าง /สถานประกอบการโดยตรง ซึ่งจะทำให้ปัญหาการว่างงานลดลง