ชป.ย้ำจัดการน้ำตามแผน วอนทุกฝ่ายร่วมกันประหยัดน้ำให้ถึงที่สุด หลังน้ำในอ่างฯ ลดต่อเนื่อง

วันที่ 22 ม.ค. 63 นายอลงกรณ์ พลบุตร ที่ปรึกษารัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ เป็นประธานการแถลงข่าวประจำสัปดาห์ โดยมี นายสัญญา แสงพุ่มพงษ์ ผู้ทรงคุณวุฒิด้านวิศวกรรมชลประทาน(ด้านบำรุงรักษา)กรมชลประทาน พร้อมด้วยผู้บริหารภายใต้สังกัดกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ เข้าร่วมการแถลงข่าว ณ ห้องประชุมกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ 115 กรุงเทพมหานคร โดยกรมชลประทาน วางมาตรการพร้อมดำเนินการบริหารจัดการน้ำตามแผนฯ เพื่อลดค่าความเค็มในลุ่มน้ำเจ้าพระยาอย่างต่อเนื่อง พร้อมวอนทุกฝ่ายต้องร่วมด้วยช่วยกันประหยัดน้ำให้มากที่สุด ลดเสี่ยงขาดแคลนน้ำในอนาคต หลังปริมาณน้ำในอ่างเก็บน้ำต่างๆลดน้อยลงอย่างต่อเนื่อง

นายสัญญา แสงพุ่มพงษ์ ผู้ทรงคุณวุฒิด้านวิศวกรรมชลประทาน(ด้านบำรุงรักษา)กรมชลประทาน เปิดเผยถึงสถานการณ์น้ำในอ่างเก็บน้ำขนาดใหญ่ 4 เขื่อนหลักลุ่มน้ำเจ้าพระยา(เขื่อนภูมิพล เขื่อนสิริกิติ์ เขื่อนแควน้อยบำรุงแดน และเขื่อนป่าสักชลสิทธิ์) ณ วันที่ 21 ม.ค. 63 มีปริมาณน้ำรวมกัน 10,627 ล้าน ลบ.ม. หรือร้อยละ 43 ของความจุอ่างฯรวมกัน มีปริมาณน้ำใช้การได้รวมกัน 3,931 ล้าน ลบ.ม. หรือคิดเป็นร้อยละ 22 ของปริมาณน้ำใช้การได้รวมกัน

สำหรับแผนการจัดสรรน้ำในช่วงฤดูแล้งปี 2562/2563 (ระหว่าง 1 พ.ย. 62 – 30 เม.ย. 63) เพื่อสนับสนุนการใช้น้ำในเขตชลประทาน มีปริมาณน้ำจัดสรรจากอ่างเก็บน้ำทั่วประเทศ รวมทั้งสิ้น 17,699 ล้าน ลบ.ม.(น้อยกว่าปีที่แล้วประมาณ 7,000 ล้าน ลบ.ม.)  เฉพาะลุ่มน้ำเจ้าพระยา 4 เขื่อนหลัก มีปริมาณน้ำจัดสรรรวมทั้งสิ้น 4,000 ล้าน ลบ.ม.(น้อยกว่าปีที่แล้ว 3,700 ล้าน ลบ.ม.) ด้านผลการจัดสรรน้ำฤดูแล้งทั้งประเทศ ปัจจุบัน (21 ม.ค. 63) มีการระบายน้ำตามแผนฯ ไปแล้วจำนวน 7,234 ล้าน ลบ.ม. คิดเป็นร้อยละ 41 ของแผนจัดสรรน้ำฯ เฉพาะในเขตลุ่มน้ำเจ้าพระยา มีการระบายน้ำตามแผนฯไปแล้วจำนวน 2,134 ล้าน ลบ.ม. คิดเป็นร้อยละ 53 ของแผนจัดสรรน้ำฯ

ด้านการบริหารจัดการน้ำเพื่อควบคุมค่าความเค็มในลุ่มน้ำปราจีน-บางปะกง นั้น กรมชลประทาน ได้วางแผนควบคุมค่าความเค็มในแม่น้ำบางปะกง โดยการระบายน้ำจากเขื่อนขุนด่านปราการชล ในช่วงเดือนธันวาคม 2562 รวม 4.5 ล้าน ลบ.ม. และระบายน้ำจากเขื่อนนฤบดินทรจินดา รวม 7.7 ล้าน ลบ.ม. เพื่อชะลอความเค็มในแม่น้ำบางปะกง ทั้งนี้ ยังได้ให้โครงการส่งน้ำและบำรุงรักษาพระองค์ไชยานุชิต รับน้ำผ่านประตูระบายน้ำ(ปตร.)บางขนาก เข้าคลองบางขนากและคลองข้างคันกั้นน้ำ ในช่วงที่ค่าความเค็มในแม่น้ำบางปะกงบริเวณปากคลองบางขนากไม่เกิน 1 กรัมต่อลิตร รวมไปถึงการติดตั้งเครื่องผลักดันน้ำบริเวณปากคลองบางขนาก เพื่อเร่งระบายน้ำเข้าคลองบางขนากและคลองข้างคันกั้นน้ำ ในช่วงที่ค่าความเค็มในแม่น้ำบางปะกงต่ำกว่า 1 กรัมต่อลิตร สำหรับสำรองน้ำไว้ใช้ในคลองบางขนากให้ได้มากที่สุดด้วย นอกจากนี้ เพื่อให้การผลักดันความเค็มในแม่น้ำบางปะกงให้มีประสิทธิภาพมากที่สุด

 สำหรับแนวทางในการแก้ไขปัญหาน้ำดิบในการผลิตประปาในพื้นที่จังหวัดฉะเชิงเทรา นั้น กรมชลประทาน ได้ร่วมหารือกับการประปาส่วนภูมิภาคจังหวัดฉะเชิงเทรา เพื่อวางมาตรการในการแก้ไขปัญหาขาดแคลนน้ำดิบผลิตประปา โดยเบื้องต้นจะเพิ่มการระบายน้ำจากเขื่อนภูมิพล เขื่อนสิริกิติ์ และเขื่อนแควน้อยบำรุงแดน ลงสู่แม่น้ำเจ้าพระยา จากนั้นจะเพิ่มการรับน้ำเข้าสู่คลองชัยนาท-ป่าสักผ่านประตูระบายน้ำมโนรมย์ พร้อมกับเพิ่มปริมาณน้ำ ผ่านประตูระบายน้ำพระนารายณ์ เพื่อลำเลียงน้ำลงสู่ทุ่งเจ้าพระยาตอนล่าง นอกจากนี้ ยังจะพิจารณาเพิ่มการระบายน้ำ ผ่านคลอง 29 ไปลงคลองระบายน้ำที่ 15 คลองระบายน้ำที่ 13 คลองบึงฝรั่ง และคลองพระองค์ไชยานุชิต ตามลำดับ คาด ว่าจะมีปริมาณน้ำเพียงพอสำหรับผลิตประปาในเขตพื้นที่จังหวัดฉะเชิงเทรา ซึ่งต้องขอความร่วมมือจากประชาชนที่อาศัย อยู่ตามแนวคลองส่งน้ำต่างๆที่กล่าวมาข้างต้น ให้งดการใช้น้ำในระยะนี้ ยกเว้นการใช้น้ำเพื่อผลิตประปาตามรอบเวรที่กำหนดไว้

กรมชลประทาน จะดำเนินการบริหารจัดการน้ำตามแผนการจัดสรรน้ำที่วางไว้อย่างเคร่งครัด เพื่อให้ปริมาณน้ำที่มีอยู่อย่างจำกัด เพียงพอใช้ต่อการอุปโภคบริโภค การผลิตประปา และรักษาระบบนิเวศ ไปจนถึงต้นฤดูฝนปีหน้า จึงขอให้ทุกฝ่ายร่วมแรงร่วมใจกันใช้น้ำอย่างประหยัดและเกิดประโยชน์สูงสุดด้วย

…………………………………………….

ศูนย์ปฏิบัติการน้ำอัจฉริยะ(SWOC) กรมชลประทาน

กระทรวงเกษตรและสหกรณ์