“จุรินทร์” กางแผนปีหน้า หิ้วกระเป๋าบุกตลาด 18 ประเทศ สั่งทำFTA รายมลมณ

วันที่ 9 ธันวาคม 2562 เวลา 13.00 น.ณ ห้องประชุมกิติยากร กระทรวงพาณิชย์ นายจุรินทร์  ลักษณวิศิษฏ์ รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์  กล่าว ภายหลังการประชุมผู้บริหารระดับสูงของกระทรวงพาณิชย์ ระดับ 11 และ 10  ว่าการที่เชิญท่านปลัดกระทรวง รองปลัด อธิบดี ผู้ตรวจราชการ ที่ปรึกษาการพาณิชย์ระดับ 10 มาหารือทั้งนี้เพื่อเตรียมการสำหรับกำหนดแผนงานที่จะเดินหน้าในปี 2563 ต่อไป เฉพาะในส่วนที่เป็นหัวใจสำคัญ ที่เป็นรูปธรรมและมีเรื่องที่จะเรียนให้ทราบ 2-3 เรื่อง คือ

เรื่องแรกโครงการประกันรายได้เกษตรกร 5 ชนิด ข้าว ปาล์มน้ำมัน ยางพารา มันสำปะหลัง ข้าวโพด ซึ่งทั้ง 5 ชนิดนี้คาดว่าจะสามารถดำเนินการจ่ายเงินส่วนต่างได้ครบถ้วนภายในสิ้นปีนี้ โดยเฉพาะขณะนี้ข้าว มันสำปะหลัง ยางพารา ปาล์มน้ำมันนั้นได้ ทยอยจ่ายเงินส่วนต่างแล้ว  สำหรับข้าวโพดจะนำเข้าสู่การพิจารณาของคณะรัฐมนตรี ในวันที่ 11 ธันวาคม ที่จะถึงนี้และถ้าเป็นไปตามแผนงานที่กำหนดไว้ก็จะเริ่มจ่ายเงินส่วนต่างได้ทันทีในวันที่ 20 ธันวาคม ซึ่งนั่นหมายความว่าพืชเกษตรทั้ง 5 ตัวนี้ สามารถดำเนินการได้ครบถ้วนเสร็จสิ้นภายในสิ้นปี

” สำหรับข้าวมีรายละเอียดเพิ่มเติม คือ สำหรับการจ่ายเงินส่วนต่างงวดถัดไปจะมีข้าว 4 ชนิดที่จะได้รับเงินส่วนต่างงวดใหม่นี้ (งวดที่5) ประกอบด้วยข้าวเจ้า ข้าวเปลือกเจ้า ข้าวหอมปทุมฯ ข้าวหอมมะลิและข้าวหอมนอกพื้นที่ ซึ่งก่อนหน้านี้ใน 2-3 งวดที่ผ่านมาปรากฏว่าข้าวหอมมะลิกับข้าวหอมนอกพื้นที่และข้าวเหนียวยังไม่ได้รับเงินส่วนต่าง เพราะว่าราคาสูงกว่ารายได้ที่ประกัน แต่สำหรับงวดถัดไปข้าวหอมมะลิ ข้าวหอมนอกพื้นที่ ข้าวหอมปทุมฯ และข้าวเปลือกเจ้า จะได้รับเงินส่วนต่างสำหรับข้าวหอมมะลิ จะได้รับเงินส่วนต่างตันละประมาณ 500 กว่าบาท ส่วนข้าวหอมนอกพื้นที่ตันละ 400 กว่าบาท ” นายจุรินทร์ กล่าว

นายจุรินทร์ กล่าวว่า สำหรับเรื่องยางพารา ขณะนี้อยู่ในขั้นตอนกระบวนการของการตรวจสวนซึ่งกระบวนการอย่างค่อนข้างล่าช้า แต่อย่างไรก็ตามได้หารือกับท่านรัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและการยางแห่งประเทศไทย และได้มีการปรับวิธีการตรวจสวนให้กระชับขึ้น นั่นก็คือเปลี่ยนมาเป็นวิธีให้เจ้าของสวนได้เป็นผู้แจ้งข้อมูลว่าได้ทำยางชนิดใด และมีจำนวนพื้นที่กี่ไร่ จากนั้นให้กำนันหรือผู้ใหญ่บ้านคนใดคนหนึ่งให้การรับรองว่าเป็นความจริง และส่งข้อมูลให้กับการยาง และการยางก็จะส่งข้อมูลให้กับ ธ.ก.ส. เพื่อโอนเงินส่วนต่างได้ทันทีคาดว่าถ้าจากนี้ไปเฉพาะผู้ที่ยังตรวจสวนไม่เสร็จจะรับเงินส่วนต่างเร็วขึ้น เพราะมีการปรับปรุงกระบวนการตรวจสวนให้เร็วขึ้น  แต่อย่างไรก็ตามขณะนี้ได้มีการโอนเงินส่วนต่างในเรื่องของยางพาราไปแล้วประมาณครึ่งหนึ่งของจำนวนสวนยางทั้งหมดที่มี และเร่งรัดดำเนินการต่อไปตามลำดับ และสำหรับผู้ถือบัตรสีชมพูสามารถได้รับเงินส่วนต่างด้วย เช่นเดียวกัน

รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ กล่าวต่อว่า  ปีหน้านโยบายประกันรายได้เกษตรกรจะเดินหน้าต่อไป ตามขั้นตอนกระบวนการ เพราะถือว่าเป็นนโยบายสำคัญอันหนึ่งของรัฐบาลชุดนี้ที่แถลงไว้กับรัฐสภา สำหรับปีหน้ามีมาตรการเสริมและมาตรการคู่ขนานสำหรับพืชแต่ละตัวดำเนินการควบคู่กันไปด้วย เพื่อช่วยรักษาเสถียรภาพของระดับราคาและเพื่อป้องกันการลักลอบนำเข้าสำหรับพืชบางตัวเข้ามา  และทำให้ราคาพืชเกษตรตัวนั้นในประเทศตกลงไป

ในการประชุมครั้งล่าสุดกับนายกฯ ตนขอให้ฝ่ายความมั่นคงได้ช่วยดูแลเรื่องนี้เป็นพิเศษในเรื่องการพืชผลการเกษตรโดยเฉพาะช่วงนี้คือข้าวโพดมีรายงานว่ามีการลักลอบนำเข้าข้าวโพดมาในปริมาณที่น่าเป็นห่วง  ตนให้ฝ่ายความมั่นคงช่วยดูแลเรื่องนี้เป็นพิเศษแล้ว

สำหรับเรื่องแผนงานในการที่จะเร่งรัดการส่งออกในปีหน้าได้มีการหารือและมีข้อสรุปร่วมกันว่าสำหรับปีหน้าตนจะนำคณะของกระทรวงพาณิชย์และภาคเอกชนเดินทางไปเปิดตลาดอย่างน้อยใน 16 ประเทศ ซึ่งประกอบด้วย อินเดีย ญี่ปุ่น แอฟริกาใต้ ฮ่องกง จีน เวียดนาม ฝรั่งเศส อังกฤษ ตะวันออกกลาง รัสเซีย ออสเตรเลีย และนิวซีแลนด์ ติมอร์เลสเต้ เกาหลี บังกลาเทศ มัลดีฟส์  กัมพูชา เป็นต้น  โดยหัวใจสำคัญเรื่องที่ 3 การทำ FTA สำหรับเรื่อง FTA นั้น เดินหน้า FTA ที่ค้างอยู่ให้เสร็จสิ้นโดยเร็ว โดยเฉพาะไทยกับตุรกี ซึ่งจะเร่งรัดให้เสร็จสิ้นภายในปีหน้า นอกจากนั้นมีไทย-ปากีสถาน และไทย-ศรีลังกา

และที่จะเริ่มต้นใหม่ก็มีทั้งไทย-EU ไทย-UK  ไทย-ฮ่องกง และกลุ่มประเทศ AFTA ซึ่งประกอบด้วยสวิตเซอร์แลนด์  ลิกเกนสไตล์ ไอซ์แลนด์ และนอร์เวย์ เป็นต้น

รวมทั้งที่สำคัญตนได้มอบนโยบายให้เริ่มต้น FTA รูปแบบใหม่ที่จะลงลึกรายมณฑลหรือรายรัฐในประเทศที่เหมาะสมที่จะทำข้อตกลงพิเศษทางด้านการค้าและบริการระหว่างกัน เพื่อส่งเสริมการส่งออกให้สินค้าและบริการในเชิงลึกให้มากขึ้น เช่น อาจมีข้อตกลงพิเศษกับมณฑลบางมณฑลของจีน เพื่อแลกเปลี่ยนกับการทำการค้าเสรีกับประเทศไทย หรือทำกับอินเดียบางรัฐที่มีความเหมาะสม เป็นต้น สำหรับการเตรียมแผนการปีหน้า 2563

” ส่วนในเรื่องของข้าวขอเรียนเพิ่มเติมสำหรับวันที่ 11 จะนำเรื่องข้าวเข้าสู่การพิจารณา ครม. จะมีการนำเรื่องข้าว มาตรการเสริม จากนโยบายประกันรายได้เกษตรกรผู้ปลูกข้าวเข้าสู่ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี ก็จะประกอบด้วยเรื่องสำคัญ 3 หมวดหมวดที่ 1.ในเรื่องของการที่จะช่วยเหลือเกษตรกรผู้ปลูกข้าวในเรื่องของต้นทุน 2. การช่วยเหลือเรื่องค่าปรับปรุงคุณภาพ และการเก็บเกี่ยว 3.  มาตรการในเรื่องของการชะลอขายจำเป็นต้องมีมาตรการที่ 3เข้ามาด้วยเพราะช่วงนี้ข้าวออกมาก และถ้ามีมาตรการชะลอขายก็จะช่วยไม่ให้ข้าวใหม่ออกสู่ตลาดมากเกินไป ที่จะส่งผลให้ราคาตกหลังจากที่ส่งสัญญาณ เรื่องมาตรการการชะลอขายออกมาก็ปรากฏว่าราคาข้าวก็กระเตื้องขึ้นในช่วงระยะเวลาสองสามสัปดาห์ที่ผ่านมา  จากมาตรการชะลอขายข้าวประกอบด้วย

1.สำหรับตัวเกษตรกรถ้าชะลอขายในช่วงระยะเวลา 1-5 เดือนก็จะมีเงินช่วยเหลือของ คชก.ตันละ 1,500 บาท และนอกจากจะได้รับเงินช่วยเหลือตันละ 1,500 บาท แล้วยังสามารถนำข้าวนั้นไปเป็นประกันขอสินเชื่อ ธ.ก.ส. ได้ร้อยละ 80 ของราคาตลาด โดยไม่มีภาระดอกเบี้ยควบคู่ไปด้วยได้

2.สำหรับสถาบันเกษตรกรหรือสหกรณ์ ถ้าจะชะลอขาย 1-5 เดือนก็จะได้รับเงินช่วยเหลือตันละ 1,500 บาทเหมือนกันโดยแบ่งเป็น 2 ก้อน ก้อนที่1 ให้สถาบันเกษตรกรเอง 1,000 บาท ก้อนที่2 500 บาทให้กับตัวเกษตรกร   ในเรื่องของโรงสีถ้าโรงสีสามารถที่จะซื้อข้าวมาเก็บได้ในช่วง 2-6 เดือนก็จะมีเงินกู้ดอกเบี้ยพิเศษ กล่าวคือรัฐบาลจะช่วยชดเชยดอกเบี้ยให้ร้อยละ 3 ก็เป็นการลดภาระเงินกู้ ในการกู้เงินมาซื้อข้าว เพื่อลดปริมาณข้าวที่จะออกสู่ตลาดและทำให้ข้าวราคาตก ซึ่งจะเข้าสู่คณะรัฐมนตรีในวันที่ 11 ธันวาคม นี้ ขอเรียนให้ทราบ” นายจุรินทร์ กล่าว