สถานการณ์ตลาดน้ำมันประจำสัปดาห์ที่ 25-29 พ.ย. 62 และคาดการณ์สัปดาห์ที่ 2-6 ธ.ค. 62 โดยส่วนวิเคราะห์ตลาดต่างประเทศ บริษัท ปตท. จำกัด (มหาชน)

ปัจจัยที่กระทบต่อราคาน้ำมันดิบในเชิงบวก

  • ตลาดคาดว่าในการประชุมกลุ่มผู้ผลิตและส่งออกน้ำมันรวมถึงพันธมิตร (OPEC+) ในวันที่ 5-6 ธ.ค. 62 กลุ่ม OPEC+ จะตกลงลดปริมาณการผลิตที่ระดับเดิม 1.2 ล้านบาร์เรลต่อวัน แต่อาจขยายระยะเวลาในการลดกำลังการผลิตออกไปจากเดิมที่จะสิ้นสุดในเดือน มี.ค. 63 ออกไปอีก 3-6 เดือน
  • Baker Hughes Inc. รายงานจำนวนแท่นขุดเจาะ (Rig) น้ำมันดิบในสหรัฐฯ สัปดาห์สิ้นสุด 27 พ.ย. 62 ลดลงจากสัปดาห์ก่อน 3 แท่น อยู่ที่ 668 แท่น ต่ำสุดตั้งแต่ เม.ย. 60
  • กระทรวงพลังงานของคาซัคสถานรายงานแหล่ง Kashagan ลดปริมาณการผลิตน้ำมันดิบและคอนเดนเสทจาก 400,000 บาร์เรลต่อวัน ช่วงต้นเดือน พ.ย. 62 มาสู่ระดับ 184,000 บาร์เรลต่อวัน ในวันที่ 25 พ.ย. 62 เนื่องจากปิดซ่อมฉุกเฉินหน่วย Gas Compressor
  • Reuters รายงานแผนการส่งมอบน้ำมันดิบจากไนจีเรีย 4 ชนิด ได้แก่ Bonny Light, Bonga, Qua lboe, Forcados เดือน ม.ค. 63 ลดลงจากเดือนก่อน 80,000 บาร์เรลต่อวัน อยู่ที่ 759,000 บาร์เรลต่อวัน เนื่องจากแหล่ง Bonga หยุดซ่อมบำรุงบางส่วน

ปัจจัยที่กระทบต่อราคาน้ำมันดิบในเชิงลบ

  • Energy Information Administration (EIA) รายงานปริมาณสำรองน้ำมันดิบเชิงพาณิชย์ที่สหรัฐฯ สัปดาห์สิ้นสุดวันที่ 22 พ.ย. 62 เพิ่มขึ้นจากสัปดาห์ก่อน 1.6 ล้านบาร์เรล อยู่ที่ 452 ล้านบาร์เรล สูงสุดในรอบ 4 เดือน และปริมาณการผลิตน้ำมันดิบของสหรัฐฯ เพิ่มขึ้นจากสัปดาห์ก่อน 100,000 บาร์เรลต่อวัน อยู่ที่ 12.90 ล้านบาร์เรลต่อวัน  สูงสุดเป็นประวัติการณ์
  • Reuters รายงานพนักงานประจำแหล่งผลิตน้ำมัน Sharara (กำลังการผลิต 340,000 บาร์เรลต่อวัน) ในลิเบียกลับมาทำงานหลังประสบปัญหาด้านความปลอดภัยโดยผลิตน้ำมันดิบที่ระดับ 280,000-300,000

บาร์เรลต่อวัน (ปัจจุบันปริมาณการผลิตน้ำมันดิบของลิเบียอยู่ที่ 1.25 ล้านบาร์เรลต่อวัน)

  • Reuters รายงานแผนการส่งมอบน้ำมันดิบ 5 ชนิด ได้แก่ Forties, Brent, Oseberg, Ekofisk, และ Troll จากแหล่งทะเลเหนือ (North Sea) ในยุโรป เดือน ม.ค. 63 เพิ่มขึ้นจากเดือนก่อน 108,000 บาร์เรลต่อวัน อยู่ที่ 998,000 บาร์เรลต่อวัน

แนวโน้มราคาน้ำมัน

ราคาน้ำมันดิบลดลง เนื่องจากการเจรจาทางการค้าระหว่างสหรัฐฯ กับจีน กลับมาตึงเครียด หลังจากสหรัฐฯ ออกกฎหมายสนับสนุนผู้ประท้วงในฮ่องกง โดยทางการจีนยืนกรานว่าข้อตกลงการค้าขั้นต้น (Phase 1) กับสหรัฐฯ ต้องครอบคลุมถึงการยกเลิกภาษีนำเข้าจากจีนที่ประกาศบังคับใช้ไปแล้ว (Existing Tariffs) และยุติกำหนดเรียกเก็บภาษีนำเข้าสินค้าจากจีนในอัตรา 15% วงเงิน 156,000 ล้านเหรียญสหรัฐฯ ในวันที่ 15 ธ.ค. ที่จะถึงนี้ ขณะที่มีกระแสข่าวว่าสหรัฐฯ จะไม่ตกลง เนื่องจากถือว่าภาษีเป็น “อาวุธหลัก” ในการเจรจา หากยินยอมตามข้อเสนอของจีนจะดูเหมือน “ยอมแพ้” ประกอบกับทางการสหรัฐฯ รายงานปริมาณการผลิตน้ำมันดิบอยู่ที่ระดับสูงสุดเป็นประวัติการณ์ครั้งใหม่ และส่งออกน้ำมันดิบสุทธิ (Net Crude Export) อยู่ที่ระดับ 89,000 บาร์เรลต่อวัน โดยส่งออกที่ 8.76 ล้านบาร์เรลต่อวัน (เพิ่มขึ้นจากปีก่อน 18%) และนำเข้าที่ 8.67 ล้านบาร์เรลต่อวัน (ลดลงจากปีก่อน 12%) ซึ่งเป็นครั้งแรกที่สหรัฐฯ ส่งออกน้ำมันดิบสูงกว่านำเข้าตั้งแต่ EIA เก็บสถิติในปี พ.ศ. 2492 อนึ่ง EIA ประเมินปริมาณส่งออกน้ำมันดิบสุทธิของสหรัฐฯ ปี พ.ศ. 2562 อยู่ที่ระดับ 520,000 บาร์เรลต่อวัน และปี พ.ศ. 2563 จะเพิ่มสู่ระดับ 750,000 บาร์เรลต่อวัน  สำหรับแนวโน้มราคาน้ำมันในปี พ.ศ. 2563 Reuters Poll มองว่าราคาน้ำมันดิบ Brent จะเฉลี่ยอยู่ที่ระดับ 62.50 เหรียญสหรัฐฯ ต่อบาร์เรล ใกล้เคียงคาดการณ์เมื่อเดือนก่อนหน้า ที่ 62.38 เหรียญสหรัฐฯ ต่อบาร์เรล ซึ่งเป็นราคาคาดการณ์ที่ต่ำสุดในรอบ 2 ปี อย่างไรก็ตามคาดการณ์ราคา WTI เพิ่มขึ้นอยู่ที่ระดับ 57.30 เหรียญสหรัฐฯ ต่อบาร์เรล สูงกว่าคาดการณ์เดิมที่ 56.98 เหรียญสหรัฐฯ ต่อบาร์เรล สะท้อนผู้ผลิตในสหรัฐฯ อาจถูกนักลงทุนกดดันให้เน้นผลประกอบการมากกว่าเพิ่มปริมาณผลิตน้ำมัน  ด้านเทคนิคสัปดาห์นี้คาดว่า ราคาน้ำมันดิบ ICE Brent จะเคลื่อนไหวอยู่ในกรอบ 60.0-65.0 เหรียญสหรัฐฯ ต่อบาร์เรล และน้ำมันดิบ NYMEX WTI อยู่ในกรอบ 55.0-60.0 เหรียญสหรัฐฯ ต่อบาร์เรล ราคาน้ำมันดิบ Dubai จะะเคลื่อนไหวอยู่ในกรอบ 59.5-64.5 เหรียญสหรัฐฯ ต่อบาร์เรล

สถานการณ์ราคาน้ำมันเบนซิน

ราคาน้ำมันเบนซินเฉลี่ยรายสัปดาห์ลดลงจากบริษัท Idemitsu ของญี่ปุ่นกลับมาเดินเครื่องหน่วย Crude Distillates (กำลังการกลั่น 70,000 บาร์เรลต่อวัน) ที่โรงกลั่น Keihin (กำลังการกลั่น 180,000 บาร์เรลต่อวัน) ในวันที่ 28 พ.ย. 62 หลังปิดซ่อมบำรุงครั้งใหญ่ซึ่งดำเนินการทุก 4 ปี  และ มีข่าวบริษัท Sinopec ของจีนมีแผนเปิดดำเนินการโรงกลั่นใหม่ Zhongke (กำลังการกลั่น 200,000 บาร์เรลต่อวัน) ที่เมือง Zhanjiang ในเดือน เม.ย. 63 โดยจะผลิตน้ำมันเบนซินและน้ำมันดีเซลเป็นหลัก ตามมาตรฐาน Euro 6 ประกอบกับ หน่วยงานศุลกากรของจีน (General Administration of Customs: GAC) รายงานปริมาณการส่งออกน้ำมันเบนซิน เดือน ต.ค. 62 เพิ่มขึ้นจากปีก่อน 168.4% อยู่ที่ 14.7 ล้านบาร์เรล ส่งผลให้เหลือโควตาส่งออกน้ำมันเบนซิน ในเดือน พ.ย. – ธ.ค. 62 อยู่ที่ 26.3 ล้านบาร์เรล อย่างไรก็ตามสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ และคูเวต ออกประมูลซื้อน้ำมันเบนซิน และ Petroleum Planning and Analysis Cell (PPAC) ของอินเดียรายงานปริมาณการส่งออกน้ำมันเบนซินเดือน ต.ค. 62 ลดลงจากปีก่อน 15.5% อยู่ที่ 8.4 ล้านบาร์เรล และ IES รายงานปริมาณสำรอง Light Distillates เชิงพาณิชย์ที่สิงคโปร์ สัปดาห์สิ้นสุดวันที่ 27 พ.ย. 62 เพิ่มขึ้นจากสัปดาห์ก่อน 400,000 บาร์เรล อยู่ที่ 11.24 ล้านบาร์เรล สูงสุดในรอบ 3 สัปดาห์  ด้านเทคนิคในสัปดาห์นี้ คาดว่าราคาน้ำมันเบนซิน จะเคลื่อนไหวอยู่ในกรอบ 72.5-77.5 เหรียญสหรัฐฯ ต่อบาร์เรล

สถานการณ์ราคาน้ำมันดีเซล

ราคาน้ำมันเบนซินเฉลี่ยรายสัปดาห์เพิ่มขึ้นเนื่องจากแรงซื้อของคูเวตและ สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ ประกอบกับ Arbitrage น้ำมันดีเซลจากเอเชียและกกลงก ตะhe, ion Administratiomn ตะวันออกกลางไปยุโรปเปิด Reuters ประเมินว่าผู้ค้าน้ำมันจ้างเรือขนส่งจำนวน 6 เที่ยวเรือ  ปริมาณรวม 4 ล้านบาร์เรล รับน้ำมันวันที่ 1-15 ธ.ค. 62 ด้านปริมาณสำรอง International Enterprise Singapore (IES) รายงานปริมาณสำรอง Middle Distillates เชิงพาณิชย์ที่สิงคโปร์ สัปดาห์สิ้นสุดวันที่ 27 พ.ย. 62 ลดลงจากสัปดาห์ก่อน 720,000 บาร์เรล มาอยู่ที่ 10.91 ล้านบาร์เรล ต่ำสุดในรอบ 2 สัปดาห์ อย่างไรก็ตาม บริษัท Petronas  ของมาเลเซียแถลงข่าวโรงกลั่น RAPID (กำลังการกลั่น 300,000 บาร์เรลต่อวัน) ซึ่งเป็นโรงกลั่นร่วมทุนระหว่าง Saudi Aramco กับ Petronas   จะกลับมาเปิดดำเนินการภายในปีนี้ หลังเกิดอุบัติเหตุเพลิงไหม้ ที่หน่วย Atmospheric Residue Desulphurisation (ARDS) ตั้งแต่เดือน เม.ย. 62  และบริษัท Kuwait National Petroleum Company ของคูเวตแถลงโครงการ Kuwait’s Clean Fuel ซึ่งเป็นโครงการเพิ่มกำลังการกลั่นและประสิทธิภาพโรงกลั่น 2 แห่งได้แก่ โรงกลั่น Mina  Abdullah (กำลังการกลั่น 270,000 บาร์เรลต่อวัน) และ โรงกลั่น Mina Al-Ahmadi (กำลังการกลั่น 470,000 บาร์เรลต่อวัน) มีกำหนดแล้วเสร็จในปี พ.ศ. 2563 และมีกำลังการกลั่นรวมทั้งสองแห่งเพิ่มขึ้น 60,000 บาร์เรลต่อวัน สู่ระดับ 800,000 บาร์เรลต่อวัน ทางเทคนิคในสัปดาห์นี้คาดว่าราคาน้ำมันดีเซลจะเคลื่อนไหวอยู่ในกรอบ 73.5-78.5 เหรียญสหรัฐฯ ต่อบาร์เรล