สถานการณ์น้ำภาพรวมของประเทศ วันที่ 14 มิ.ย. 66 เวลา 7.00 น.

ประเทศไทยยังคงมีฝนฟ้าคะนองเกิดขึ้นได้ ส่วนมากบริเวณด้านรับมรสุม โดยมีฝนตกหนักบางแห่งในภาคเหนือ ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ และภาคตะวันออก

ปริมาณฝนตกใน 24 ชั่วโมงที่ผ่านมา มีฝนตกปานกลางถึงหนักบริเวณ จ.ปัตตานี (80) จ.นครนายก (53) จ.อุบลราชธานี (39) จ.กาญจนบุรี (38) จ.แม่ฮ่องสอน (30) จ.นนทบุรี (25)

ปริมาตรแหล่งน้ำทุกขนาด 41,950 ล้าน ลบ.ม. (51%) แหล่งน้ำขนาดใหญ่ 37,533 ล้าน ลบ.ม. (53%)

คุณภาพน้ำในแม่น้ำสายหลัก อยู่ในเกณฑ์ปกติทุกสถานี ยกเว้นแม่น้ำแม่บางปะกงค่าออกซิเจนต่ำกว่าเกณฑ์มาตรฐาน

กรมทรัพยากรน้ำบาดาล ดำเนินการซ่อมบำรุงรักษาระบบประปาบาดาลของโครงการพัฒนาแหล่งน้ำบาดาลเพื่อสนับสนุนโครงการอันเนื่องมาจากประราชดำริ ประจำปีงบประมาณ 2556 โครงการสายใยรัก บ้านลำพันบอง ต.หนองโพธิ์ อ.หนองหญ้าไทร จ.สุพรรณบุรี และโครงการพัฒนาน้ำบาดาลเพื่อความมั่นคงระดับชุมชน ประจำปีงบประมาณ 2564 ณ บ้านทุ่ง หมู่ที่ 4 ต.ห้วยขมิ้น อ.ด่านช้าง จ.สุพรรณบุรี เพื่อให้สามารถกลับมาใช้งานได้ตามปกติ

พื้นที่เสี่ยงเฝ้าระวังน้ำหลากช่วง 1-3 วัน ดังนี้ ภาคเหนือ จ.เชียงใหม่ แม่ฮ่องสอน และตาก ภาคตะวันออก จ.นครนายก ปราจีนบุรี ชลบุรี ระยอง จันทบุรี และตราด ภาคตะวันตก จ.กาญจนบุรี

กอนช. ติดตามสถานการณ์น้ำในเขื่อนป่าสักชลสิทธิ์ พร้อมเน้นย้ำทุกภาคส่วนร่วมกันประหยัดน้ำ

กรมชลประทาน ยืนยันว่าปริมาณน้ำในเขื่อนป่าสักชลสิทธิ์ปัจจุบัน อยู่ในเกณฑ์เพียงพอสำหรับอุปโภค-บริโภคตลอดฤดูฝนนี้ ขอความร่วมมือทุกภาคส่วนร่วมใจกันประหยัดน้ำ โดยเขื่อนป่าสักชลสิทธิ์มีปริมาณน้ำอยู่ในเกณฑ์น้อย ให้ติดตามสถานการณ์เอลนีโญอย่างใกล้ชิด ยึดหลัก 12 มาตรการรับมือฤดูฝนปี 2566

สถานการณ์น้ำในเขื่อนป่าสักชลสิทธิ์ ณ วันที่13 มิ.ย. 66 มีปริมาณน้ำใช้การได้ประมาณ 138 ล้าน ลบ.ม. หรือคิดเป็น 14% ของความจุอ่างฯ มีการระบายน้ำ (Outflow) เพื่อสนับสนุนการใช้น้ำอุปโภค-บริโภคในพื้นที่ด้านท้ายประมาณวันละ 1 ล้าน ลบ.ม. ทั้งนี้ โครงการส่งน้ำและบำรุงรักษาป่าสักชลสิทธิ์ ได้มีการติดตามปรากฎการณ์เอลนีโญอย่างใกล้ชิด มีการวางแผนบริหารจัดการน้ำในช่วงฤดูฝน ปี 2566 และปฏิบัติตาม 12 มาตรการรับมือฤดูฝนปี 2566 ตามมติ ครม. อย่างเคร่งครัด พร้อมกันนี้ ยังได้ประสานกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องประชาสัมพันธ์ให้เกษตรกรใช้น้ำฝนเป็นหลักในการทำนาปี ส่วนน้ำที่ระบายจากเขื่อนป่าสักชลสิทธิ์ จะใช้เพื่อการอุปโภค-บริโภค รักษาระบบนิเวศ และเสริมน้ำฝนเพื่อการเกษตรเท่านั้น จากการคาดการณ์ของกรมชลประทาน โดยใช้ข้อมูลฝนจากกรมอุตุนิยมวิทยา กรณีใช้ค่าปริมาณน้ำไหลลงอ่างฯ เฉลี่ย คาดว่าปริมาณน้ำในเขื่อนป่าสักชลสิทธิ์ ณ วันที่ 1 พ.ย. 66 จะมีปริมาณน้ำเต็มเขื่อน 100 % หรือเต็มความจุอ่างฯที่ 960 ล้าน ลบ.ม. ซึ่งเพียงพอ ต่อความต้องการใช้น้ำในฤดูแล้งปีหน้า