วันที่ 25 พฤศจิกายน 2564 เวลา 15.30 น.นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ นายวัฒนศักย์ เสือเอี่ยม อธิบดีกรมการค้าภายใน นายกีรติ รัชโน อธิบดีกรมการค้าต่างประเทศ นายมนัส แก้วศรีงาม อุปนายกสมาคมโรงสีข้าวไทยนายบุญธรรม อร่ามศิริวัฒน์ เลขาธิการสมาคมผู้ผลิตอาหารสัตว์ไทย นายสุรชัย สุทธิธรรม นายกสมาคมผู้เลี้ยงสุกรแห่งชาติ และนายบุญเสริม เจริญวัฒน์ รองกรรมการผู้จัดการอาวุโสบริษัทเจริญโภคภัณฑ์อาหารสัตว์จำกัด(มหาชน) ร่วมพิธีลงนามบันทึกข้อตกลงความร่วมมือ MoU โครงการพาณิชย์จับคู่ช่วย “หมู-ข้าว” ปีการผลิต 2564/65 ณ ห้องประชุมบุรฉัตรไชยากร ชั้น 4 สำนักงานปลัดกระทรวงพาณิชย์
นายจุรินทร์ กล่าวว่า วันนี้เป็นอีกความคืบหน้าหนึ่งที่กระทรวงพาณิชย์เข้ามาช่วยดูแลภาคการเกษตรอย่างบูรณาการ เป็นรูปธรรม มีผลสัมฤทธิ์เกิดขึ้นได้จริง โดยมีเป้าหมาย คือ การดูแลยกระดับราคาข้าวให้สูงขึ้น เพื่อช่วยเหลือเกษตรกรผู้ปลูกข้าว ขณะเดียวกันช่วยดูแลเกษตรกรผู้ประกอบอาชีพปศุสัตว์ในการเลี้ยงสุกรให้สามารถลดต้นทุนการผลิตโดยเฉพาะอาหารสัตว์ให้ลดลง โครงการพาณิชย์จับคู่ช่วย “หมู-ข้าว” จะเป็นโครงการตัวอย่างที่เป็นรูปธรรมที่สุดที่นำข้าวกับหมูมาชนกันอย่างเป็นประโยชน์ทั้ง 2 ฝ่าย ฝ่าย
1.เอาข้าวมาขายทำอาหารสัตว์ในราคาที่เป็นธรรม หรือยกระดับราคาที่ดีกว่าการขายในตลาดปกติ
2.เกษตรกรผู้เลี้ยงสุกรสามารถนำข้าวคุณภาพอาหารสัตว์ราคาพิเศษ มาใช้ทำอาหารสุกร เพื่อลดต้นทุนการเลี้ยงสุกร เป็นโครงการที่ win-win ทั้ง 2 ฝ่าย โครงการนี้จึงเกิดขึ้นภายใต้ความพยายามช่วยดำเนินการของกรมการค้าภายในและเป็นนโยบายที่ตนมอบให้ไปดำเนินการซึ่งจะไม่มีเฉพาะวันนี้ แต่จะมีวันต่อไปด้วย ตราบที่ราคาข้าวต้องการให้สูงขึ้น เพื่อช่วยให้เกษตรกรผู้ปลูกข้าวให้ขายข้าวราคาดีขึ้นและลดต้นทุนเลี้ยงสุกรด้วย
โดยมีข้าว 2 ประเภท
1.ข้าวเปลือก ความชื้นไม่เกิน 15% ในราคากิโลกรัมละไม่ต่ำกว่า 8 บาท
2.ข้าวสาร ประกอบด้วย ข้าวกล้องปลายข้าวคุณภาพอาหารสัตว์และข้าวหักความชื้นที่ไม่เกิน 15% ขายในราคากิโลกรัมละไม่ต่ำกว่า 11 บาท ซึ่งถือว่าช่วยลดต้นทุนมากกว่าการนำพืชเกษตรตัวอื่นมาทำอาหารสัตว์
“วันนี้ทำ MoU ทั้งหมด 50,199 ตัน เป็นโรงสี จำนวน 49,500 ตัน และสหกรณ์อีก 4 ราย จำนวน 699 ตัน รวม 50,199 ตัน มูลค่ารวม 535 ล้านบาท โดยเริ่มส่งตั้งแต่วันที่ 25 พฤศจิกายน ถึงวันที่ 28 กุมภาพันธ์ 2565 และตั้งเป้าว่าจะไม่ขายเฉพาะ 50,000 นี้ กรมการค้าภายในจะพยายามเจรจาทำให้ได้ 150,000 ตัน ซึ่งจะช่วยดึงราคาข้าวปลายฤดูขึ้นได้อีก และขอขอบคุณผู้ซื้อทุกราย”รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์กล่าว
สำหรับผู้ซื้อข้าว 5 ราย ประกอบด้วย
1.ไทยฟู้ดส์ กรุ๊ป
2.ไทยรุ่งเรืองกิจการ จังหวัดนครปฐม
3.อาร์ เอ็ม ซี ฟาร์ม จังหวัดบุรีรัมย์
4.จงเจริญฟาร์ม จังหวัดนครนายก
5.เกษมชัยฟาร์มกรุ๊ป จังหวัดนครปฐม
รวมจำนวนทั้งสิ้น 50,199 ตัน