สธ. เตรียม OPEN HOUSE เส้นทางความก้าวหน้าสายวิชาชีพแพทย์ สร้างแรงจูงใจให้ทำงานในระบบราชการ ลดปัญหาการขาดแคลน

ปลัดกระทรวงสาธารณสุข เผย โรงพยาบาลหนองคายและโรงพยาบาลมุกดาหารผ่านการประเมินเป็นสถาบันหลักร่วมผลิตแพทย์จากแพทยสภาแล้ว เตรียมเปิดเวทีวิชาการเส้นทางความก้าวหน้าในสายวิชาชีพแพทย์ สร้างแรงจูงใจให้เห็นคุณค่าและความสำคัญของการทำงานในระบบราชการ ลดปัญหาการขาดแคลนบุคลากรแพทย์ในพื้นที่ห่างไกล และเปิดตัวหมอพร้อม SUPER APP พร้อมแคมเปญ HEALTHY LIFE ส่งเสริมสุขภาพผ่านการใช้แอปพลิเคชันในเดือนมกราคม 2569

วันที่ 23 ธันวาคม 2568 ที่สำนักงานปลัดกระทรวงสาธารณสุข นพ.สมฤกษ์ จึงสมาน ปลัดกระทรวงสาธารณสุข เป็นประธานพิธีลงนามคำรับรองการปฏิบัติราชการ (Performance Agreement : PA) ของผู้บริหารสำนักงานปลัดกระทรวงสาธารณสุข ประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2569 เพื่อขับเคลื่อนนโยบายกระทรวงสาธารณสุขไปสู่การปฏิบัติ บริหารจัดการทรัพยากรและจัดบริการสุขภาพให้เกิดประโยชน์สูงสุดแก่ประชาชน และประชุมสำนักงานปลัดกระทรวงสาธารณสุข ร่วมกับรองปลัดกระทรวง ผู้ตรวจราชการ สาธารณสุขนิเทศก์ และผู้อำนวยการกอง/สำนักต่างๆ เพื่อติดตามการดำเนินงานตามนโยบาย

นพ.สมฤกษ์กล่าวว่า ความคืบหน้าการพัฒนาบุคลากรทางการแพทย์ ล่าสุด โรงพยาบาลสังกัดสำนักงานปลัดกระทรวงสาธารณสุข 2 แห่ง ผ่านการประเมินในการเป็นสถาบันหลักร่วมผลิตแพทย์จากแพทยสภาแล้ว จะเริ่มรับนักศึกษาแพทย์ในปีการศึกษา 2569 นี้ ได้แก่ โรงพยาบาลหนองคาย คู่ความร่วมมือกับมหาวิทยาลัยวงษ์ชวลิตกุล รับนักศึกษาแพทย์ 30 คน และ โรงพยาบาลมุกดาหาร คู่ความร่วมมือกับมหาวิทยาลัยอุบลราชธานี รับนักศึกษาแพทย์ 16 คน โดยในเดือนมกราคม 2569 จะมีการจัดกิจกรรมใหญ่ 2 กิจกรรม คือ 1) การประชุมวิชาการเส้นทางความก้าวหน้าในสายวิชาชีพแพทย์ สังกัดสํานักงานปลัดกระทรวงสาธารณสุข หรือกิจกรรม OPEN HOUSE เพื่อเสริมสร้างแรงจูงใจให้นักศึกษาแพทย์เห็นคุณค่าและความสำคัญของการทำงานในระบบราชการ สร้างความเชื่อมั่นเรื่องความก้าวหน้า สวัสดิการ สิทธิประโยชน์และคุณภาพชีวิต รวมทั้งสร้างเครือข่ายและเปิดโอกาสให้แลกเปลี่ยนประสบการณ์อย่างใกล้ชิดร่วมกับแพทย์รุ่นพี่ ผู้บริหาร และผู้มีประสบการณ์ ซึ่งจะช่วยสนับสนุนกลไกการกระจายแพทย์ให้เกิดความทั่วถึงและเป็นธรรม ลดปัญหาการขาดแคลนบุคลากรทางการแพทย์ในพื้นที่ห่างไกลหรือพื้นที่ขาดแคลน และ 2) การเปิดตัวหมอพร้อม SUPER APP ที่รวมทุกบริการสุขภาพไว้ในแอปพลิเคชันเดียว มีการเชื่อมโยงข้อมูลสุขภาพเป็นระบบเดียวทั้งประเทศ ภายใต้มาตรฐานความปลอดภัยทางไซเบอร์ พร้อมเปิดแคมเปญ HEALTHY LIFE จูงใจการปรับเปลี่ยนพฤติกรรมสุขภาพผ่านการใช้แอปพลิเคชันด้วยการให้รางวัล

นพ.สมฤกษ์ กล่าวต่อว่า สำหรับความก้าวหน้าการดำเนินงานที่สำคัญ อาทิ การลงทะเบียน HEALTH ID – ระบบ CARE GIVER ได้กำชับให้เร่งรัดการลงทะเบียน HEALTH ID ในเด็กอายุ 0-7 ปี เพื่อให้มีฐานข้อมูลในการดูแลสุขภาพที่ครอบคลุมมากขึ้น, การดำเนินงาน ROAD TO ZERO ANEMIA เด็กฉลาดด้วยธาตุเหล็ก ตั้งเป้าหมายคัดกรองภาวะซีดในเด็ก 6-12 เดือน ให้ได้ 100% ดำเนินการไปแล้ว 19% ได้รับยาน้ำเสริมธาตุเหล็กเพื่อป้องกันภาวะโลหิตจางแล้ว 68% จากเป้าหมายมากกว่า 80% ซึ่งได้กำชับผู้ตรวจราชการกระทรวงสาธารณสุข นายแพทย์สาธารณสุขจังหวัด และหน่วยบริการทั่วประเทศ ดำเนินการตามประกาศ สปสช. PP-Fee schedule ปี 2568 รายการจ่ายยาน้ำเสริมธาตุเหล็ก และคัดกรองภาวะโลหิตจางในเด็ก พร้อมสนับสนุนการจัดหายาน้ำเสริมธาตุเหล็กและอุปกรณ์เจาะเลือดสำหรับหน่วยบริการที่ยังไม่มี พร้อมทั้งกำกับติดตามการดำเนินงานให้บรรลุตามเป้าหมาย