กระทรวงสาธารณสุข บูรณาการทีมปฏิบัติการดูแลเฝ้าระวังป้องกันควบคุมโรคในศูนย์พักพิงเข้มข้น ปรับปรุงอนามัยสิ่งแวดล้อม ย้ำประชาชนให้ดื่มน้ำสะอาด กินอาหารอุ่นร้อน สวมหน้ากากอนามัย ล้างมือสม่ำเสมอ หลีกเลี่ยงการสัมผัสใกล้ชิดผู้ป่วยระบบทางเดินหายใจ พร้อมแยกกักผู้ป่วยระบบทางเดินหายใจเพื่อป้องกันการแพร่เชื้อระหว่างกัน พร้อมส่งทีม MCATT เข้าดูเยียวยาจิตใจครอบครัวทหารกล้าใกล้ชิด
วันที่ 19 ธันวาคม 2568 ที่กระทรวงสาธารณสุข นพ.เอกชัย เพียรศรีวัชรา รองปลัดกระทรวงสาธารณสุขและโฆษกกระทรวงสาธารณสุข กล่าวภายหลังการประชุมศูนย์ปฏิบัติการฉุกเฉินด้านการแพทย์และสาธารณสุข กรณีชายแดนไทย – กัมพูชา โดยมี นพ.สมฤกษ์ จึงสมาน ปลัดกระทรวงสาธารณสุข เป็นประธาน ว่า ภาพรวมโรงพยาบาลในพื้นที่เสี่ยง 7 จังหวัด ยังปิดให้บริการ 12 แห่งเท่าเดิม ส่วน รพ.สต. กลับมาเปิดบริการได้แล้ว 17 แห่ง ยังคงเหลือปิด 194 แห่ง สำหรับศูนย์พักพิงลดลงเหลือ 985 จุด มีผู้เข้าพักรวม 251,222 คน เป็นกลุ่มเปราะบาง 66,970 คน มีคัดกรองสุขภาพจิตเชิงรุก ประชาชนไปแล้ว 199,185 ราย พบเครียดสูงสะสม 1,495 ราย และเสี่ยงทำร้ายตนเองสะสม 269 ราย ขณะที่บุคลากรทางการแพทย์ 9,557 ราย พบเครียดสูงสะสม 570 ราย เสี่ยงทำร้ายตนเองสะสม 164 ราย ทั้งหมดได้รับการปฐมพยาบาลทางจิตใจ และดำเนินการติดตามในกลุ่มที่มีความเครียดสูงและเสี่ยงทำร้ายตัวเองอย่างต่อเนื่อง
นพ.เอกชัย กล่าวต่อว่า นอกจากการดูแลสุขภาพจิตให้กับประชาชน และบุคลากรในศูนย์พักพิงแล้ว ทีมเยียวยาจิตใจ MCATT ได้ทำงานเชิงรุก ดูแลสภาพจิตใจครอบครัวและญาติของทหารที่สละชีพ 8 ครอบครัว โดยเข้าไปประเมินสุขภาพจิตเบื้องต้น ปฐมพยาบาลทางจิตใจ รับฟัง ให้กำลังใจ และวางแผนติดตามต่อเนื่องร่วมกับเครือข่ายในพื้นที่ รวมทั้งมอบหมายหน่วยงานด้านสุขภาพจิตเข้าเยียวยาจิตใจครอบครัวทหารที่เสียชีวิตซึ่งอาศัยอยู่ในพื้นที่ต่างๆ ให้ได้รับการดูแลทุกราย ด้านการเฝ้าระวังควบคุมโรคในศูนย์พักพิงฯ มีการบูรณาการทีมปฏิบัติการจากกรมวิชาการต่างๆ ที่ประจําในศูนย์อพยพขนาดใหญ่ เข้าดูแลและประเมินความเสี่ยงด้านสาธารณสุขใน 5 มิติ ได้แก่ อนามัยสิ่งแวดล้อม การรักษาพยาบาล เฝ้าระวังโรคประชากรในศูนย์พักพิงและประชากรเสี่ยง รวมถึงสอบสวนควบคุมโรค โดยพบว่ามีโรคติดต่อประปราย เช่น กลุ่มโรคจากการสัมผัส/แมลงกัดต่อย กลุ่มโรคทางเดินหายใจ และกลุ่มโรคติดเชื้อทางเดินอาหาร ทีม SRRT ร่วมกับทีม SehRT ได้เข้าปรับปรุงอนามัยสิ่งแวดล้อม เน้นย้ำเรื่องการดื่มน้ำสะอาด และกินอาหารที่อุ่นร้อน แยกกักผู้ป่วยที่มีอาการระบบทางเดินหายใจให้ทันเวลา และเน้นมาตรการสวมหน้ากากอนามัย ล้างมือสม่ำเสมอ และหลีกเลี่ยงการสัมผัสใกล้ชิดผู้ป่วยที่มีอาการระบบทางเดินหายใจ เพื่อป้องกันการแพร่เชื้อระหว่างกัน

