สคทช. เดินหน้า Kickoff มาตรการพิสูจน์สิทธิที่ดินของวัด ช่วยแก้ปัญหาเชิงโครงสร้าง เสริมความมั่นคงสืบสานพระพุทธศาสนา

วันที่ 8 ธันวาคม 2568 ดร.ชญานันท์ ภักดีจิตต์ ผู้อำนวยการสำนักงานคณะกรรมการนโยบายที่ดินแห่งชาติ ร่วมพิธีเปิดงาน Kickoff Meeting ขับเคลื่อนมาตรการพิสูจน์สิทธิการครอบครองที่ดินของวัดในเขตที่ดินของรัฐ ตามมติคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่ 5 สิงหาคม 2568 เพื่อเป็นของขวัญปีใหม่ตามนโยบายเร่งด่วนของรัฐบาล (Quick Win) เพื่อให้การแก้ไขปัญหาการครอบครองและทำประโยชน์ที่ดินของวัดในเขตที่ดินของรัฐ ที่มีมาก่อนการเป็นที่ดินของรัฐดำเนินการได้อย่างรวดเร็ว และเพื่อให้มาตรการดังกล่าวมีผลใช้บังคับอันจะเป็นประโยชน์ต่อวัดในทางพระพุทธศาสนาต่อไป โดยมีนางสาวศุภมาส อิสรภักดี รัฐมนตรีว่าการประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เป็นประธานในพิธีฯ พร้อมด้วย ที่ปรึกษา สคทช. ผู้ตรวจราชการ และผู้ทรงคุณวุฒิจากสำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ กรมที่ดิน กรมการปกครอง เจ้าหน้าที่ สคทช. และผู้แทนจากหน่วยงานราชการที่เกี่ยวข้องทั่วประเทศ จำนวนกว่า 350 คน เข้าร่วมงาน ณ ห้องแกรนด์บอลรูมซี ชั้น 4 โรงแรม อัศวิน แกรนด์ คอนเวนชั่น กรุงเทพฯ และผ่านระบบออนไลน์

ดร.ชญานันท์ฯ ผอ.สคทช. กล่าวว่า จากการรายงานของ สคทช. วัดจำนวนไม่น้อยทั่วประเทศก่อสร้างหรือใช้พื้นที่มาก่อนการประกาศเป็นที่ดินของรัฐ ทำให้ไม่สามารถออกเอกสารสิทธิได้ ส่งผลให้วัดขาดความมั่นคงในการบริหารจัดการทรัพย์สิน บูรณะวัดไม่ได้เต็มที่ และเกิดข้อพิพาทกับหน่วยงานรัฐในหลายพื้นที่ เพื่อแก้ไขปัญหาเชิงโครงสร้างนี้ คณะกรรมการนโยบายที่ดินแห่งชาติ (คทช.) ได้จัดทำมาตรการพิสูจน์สิทธิการครอบครองที่ดินของวัดในเขตที่ดินของรัฐ ซึ่งคณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบเมื่อวันที่ 5 สิงหาคม 2568 โดยมอบหมายให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องปฏิบัติตามแนวทางเดียวกันทั่วประเทศ และให้ทุกหน่วยงานที่เกี่ยวข้องบูรณาการทำงานร่วมกันอย่างใกล้ชิด

“ดิฉันเชื่อมั่นว่า การดำเนินโครงการในวันนี้ จะเป็นจุดเริ่มที่สำคัญในการขับเคลื่อนมาตรการพิสูจน์สิทธิที่ดินของวัดที่มีมาตรฐาน ชัดเจน และยั่งยืน ลดข้อพิพาท สร้างความเป็นธรรมแก่พระพุทธศาสนา และเสริมสร้างความมั่นคงของวัด ในฐานะศูนย์กลางศรัทธาและประโยชน์สาธารณะของชุมชน” ดร.ชญานันท์ฯ กล่าวย้ำ

นางสาวศุภมาสฯ รัฐมนตรีว่าการสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวมอบนโยบายว่า ทุกท่านทราบดีว่าสังคมไทยของเรา มีวัดเป็นศูนย์รวมความศรัทธา ทั้งในด้านการศึกษา ศิลปวัฒนธรรม และเป็นที่พึ่งทางจิตใจของประชาชน แต่ปัญหาการไม่สามารถออกเอกสารสิทธิในที่ดินได้ ส่งผลให้วัดหลายแห่งขาดความมั่นคงในการบริหารจัดการพื้นที่ และขาดความคล่องตัวในการบูรณะและพัฒนา นี่จึงนับเป็นก้าวสำคัญในการสร้างความชัดเจนด้านการคุ้มครองสิทธิประโยชน์ของวัด เพื่อเป็นหลักประกันระยะยาวต่อพระพุทธศาสนา ให้สามารถปฏิบัติศาสนกิจได้อย่างราบรื่นต่อไป

“ดิฉันขอชื่นชมการบูรณาการความร่วมมือของทุกภาคส่วน ทั้ง สำนักงานคณะกรรมการนโยบายที่ดินแห่งชาติ สำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ กรมที่ดิน และหน่วยงานของรัฐที่เกี่ยวข้อง ตลอดจนเจ้าหน้าที่ผู้ปฏิบัติงานในพื้นที่ ที่มีบทบาทสำคัญในการทำให้มาตรการนี้ประสบความสำเร็จในทางปฏิบัติต่อไป ซึ่งความสำเร็จจักต้องเกิดจากการร่วมแรงร่วมใจกันทุก ๆฝ่าย เพื่อประชาชน และ วัดอันเป็นศาสนสถานสำคัญของประเทศไทย” นางสาวศุภมาส กล่าว

ทั้งนี้ ภายในงาน ยังจัดให้มีการบรรยายและปาฐกถาพิเศษจากวิทยากรผู้ทรงคุณวุฒิด้านต่างๆ เพื่อสร้างความรู้ความเข้าใจที่ถูกต้อง รวมถึงปิดท้ายด้วยเวทีเสวนา ในหัวข้อ “ความร่วมมือของทุกภาคส่วนในการบูรณาการแก้ไขปัญหาที่ดินของวัด เพื่อสืบสานพระพุทธศาสนา” เพื่อนำเสนอการแก้ไขปัญหาเกี่ยวกับการพิสูจน์สิทธิการครอบครองและทำประโยชน์ที่ดินของวัดในเขตที่ดินของรัฐที่มีมาก่อนการเป็นที่ดินของรัฐอย่างเป็นรูปธรรม รวมถึงไม่เป็นการสร้างภาระเกินสมควรแก่วัดที่จะพิสูจน์สิทธิในที่ดินของวัด และโฉนดที่จะออกให้กับวัดจะเป็นโฉนดเพื่อธรณีสงฆ์ ซึ่งวัดไม่สามารถเปลี่ยนมือหรือดำเนินการด้านนิติกรรมได้อย่างปกติ ซึ่งจะเป็นประโยชน์สูงสุดต่อวัดต่อไป