ผอ.สรพ. บรรยายด้านภาวะผู้นำเพื่อความปลอดภัยผู้ป่วย ในเวที KoSQua Annual Conference ณ สาธารณรัฐเกาหลี

เมื่อวันที่ 26- 27 พฤศจิกายน 2568 ณ สาธารณรัฐเกาหลี พญ.ปิยวรรณ ลิ้มปัญญาเลิศ ผู้อำนวยการสถาบันรับรองคุณภาพสถานพยาบาล ได้รับเชิญบรรยายพิเศษในหัวข้อ “Thailand Experience: The Role of Leadership in Improving Healthcare Systems for Patient Safety” ในการประชุม KoSQua Annual Conference ในฐานะ President of ASQua และผู้อำนวยสถาบันรับรองคุณภาพสถานพยาบาล (องค์การมหาชน) เพื่อเป็นการสร้างความสัมพันธ์ในการทำงานร่วมกันระหว่างประเทศสมาชิกในการผลักดันการขับเคลื่อนเรื่อง Quality, Safety and Hospital Accreditation ในภูมิภาคเอเชีย

สำหรับการบรรยายพิเศษในหัวข้อ “Thailand Experience: The Role of Leadership in Improving Healthcare Systems for Patient Safety” นี้เพื่อเชื่อมโยงความร่วมมือระดับภูมิภาค และผลักดันการยกระดับคุณภาพ ความปลอดภัย และระบบการรับรองโรงพยาบาลในเอเชียให้เข้มแข็งยิ่งขึ้นโดยมีเนื้อหาการบรรยายแบ่งเป็น 3 ประเด็นสำคัญ คือ
1.แนะนำบริบทระบบสุขภาพของประเทศไทย
2.อธิบายเหตุผลว่าทำไมภาวะผู้นำจึงเป็นหัวใจของ Patient Safety และ
3.แบ่งปันประสบการณ์ 25 ปีของไทยในการขับเคลื่อนนโยบายและระบบ เพื่อยกระดับความปลอดภัยผู้ป่วยระดับชาติ

“ความปลอดภัยผู้ป่วยเป็น “คุณสมบัติของระบบ” ไม่อาจสำเร็จได้ด้วยความพยายามของบุคคลหรือองค์กรใดองค์กรหนึ่ง แต่ต้องอาศัยการขับเคลื่อนเชิงระบบ ซึ่ง บทบาทผู้นำ คือสิ่งที่ทำให้ทุกส่วนเชื่อมโยงและเดินหน้าไปสู่เป้าหมายเดียวกัน “Leadership is the essential function that aligns policies, resources, behaviors, and culture toward the shared goal of safe care.” ซึ่งบทบาทหลักของผู้นำ 5 ประการต่อการขับเคลื่อน Patient Safety ประกอบด้วย Align the System การเชื่อมโยงระบบที่ซับซ้อนให้เดินหน้าในทิศทางเดียวกัน, Set Direction การสร้างวิสัยทัศน์ตามกรอบมาตรฐานระดับโลก เช่น WHO GPSAP และ ISQua, Build Culture การสร้างวัฒนธรรมความปลอดภัยและความไว้วางใจในองค์กร, Mobilize People & Resources การบริหารและประสานคน ทรัพยากร และภาคีเครือข่าย และ Strengthen Accountability การสร้างธรรมาภิบาล มาตรฐาน และระบบรับรองที่เชื่อถือได้” พญ.ปิยวรรณ กล่าว

พญ.ปิยวรรณ กล่าวต่อว่า ประเทศไทยมีกระบวนการขับเคลื่อน Patient Safety ผ่านการนำ 4 มิติ ได้แก่
1) Strategic Leadership – นำเชิงยุทธศาสตร์ ผลักดันนโยบาย 2P และ 3P Safety ผ่านการประกาศนโยบายระดับรัฐมนตรี และจัดตั้งคณะกรรมการขับเคลื่อนระดับชาติ
2) Operational Leadership – นำสู่การปฏิบัติในองค์กร ผู้นำโรงพยาบาลทั่วประเทศร่วมประกาศนโยบายและขับเคลื่อน 2P Safety Hospital กว่า 1,000 แห่ง
3) Innovation Leadership – นำนวัตกรรมเพื่ออนาคต สร้างระบบ NRLS, Community of Practice, แพลตฟอร์มแลกเปลี่ยนเรียนรู้ และโครงการ 2P Safety Tech โดยอาศัยหลัก Human Factors Engineering
4) People-Centered Leadership – นำด้วยหัวใจและวัฒนธรรมปลูกฝังความตระหนัก เข้าใจธรรมชาติของความผิดพลาด (Human is Err) สร้างพื้นที่รับฟัง และร่วมกันเปลี่ยนแปลงแบบ Co-production การขับเคลื่อนตลอด 25 ปีพัฒนาควบคู่ไปกับระบบ Hospital Accreditation ทำให้เกิดความยั่งยืนและสร้างวัฒนธรรมความปลอดภัยทั่วประเทศ

ซึ่งการร่วมบรรยายครั้งนี้ช่วยสร้างเวทีความร่วมมือระหว่างประเทศสมาชิกในเอเชีย และตอกย้ำบทบาทของประเทศไทยในฐานะผู้นำการพัฒนาคุณภาพและความปลอดภัยระดับภูมิภาค