PM Awards 2025 รางวัลแห่งปีด้านความมั่นคงไซเบอร์ เชิดชูองค์กรไทยต้นแบบ ย้ำพลังความร่วมมือทุกภาคส่วนคือกุญแจสู่ความปลอดภัยดิจิทัลของประเทศ

รัฐบาลภายใต้การนำของ นายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย เดินหน้าขับเคลื่อนนโยบายด้านความมั่นคงปลอดภัยไซเบอร์อย่างเข้มข้น โดยประกาศให้ การปราบปราม สแกมเมอร์และอาชญากรรมทางเทคโนโลยีเป็น “วาระแห่งชาติ” สะท้อนถึงความมุ่งมั่นของรัฐบาลในการปกป้องประชาชนจากการหลอกลวงออนไลน์ทุกรูปแบบ เพื่อแสดงพลังความร่วมมือของทุกภาคส่วน และพร้อมให้การสนับสนุนการพัฒนาศักยภาพด้านไซเบอร์ของทุกภาคส่วนอย่างเป็นรูปธรรม ผ่านการผลักดันกิจกรรมสำคัญระดับประเทศอย่าง Prime Minister Awards: Thailand Cybersecurity Excellence Awards 2025 ที่จัดโดย สำนักงานคณะกรรมการการรักษาความมั่นคงปลอดภัยไซเบอร์แห่งชาติ (สกมช.) เพื่อเชิดชูองค์กรที่มีผลงานโดดเด่นด้านความมั่นคงปลอดภัยไซเบอร์ และร่วมสร้างภูมิคุ้มกันดิจิทัลให้กับประเทศไทยอย่างยั่งยืน

วันที่ 20 พฤศจิกายน 2568 สำนักงานคณะกรรมการการรักษาความมั่นคงปลอดภัยไซเบอร์แห่งชาติ (สกมช.) จัดพิธีมอบรางวัล Prime Minister Awards: Thailand Cybersecurity Excellence Awards 2025 เพื่อยกย่ององค์กรภาครัฐและภาคเอกชนที่มีผลงานโดดเด่นด้านการบริหารจัดการความมั่นคงปลอดภัยไซเบอร์ตามมาตรฐานสากล ถือเป็นเวทีสำคัญที่แสดงให้เห็นถึงความร่วมแรงร่วมใจของทุกภาคส่วนในการสร้างภูมิคุ้มกันดิจิทัลให้ประเทศไทยแข็งแกร่ง ทันสมัย และรับมือกับภัยคุกคามออนไลน์ได้อย่างยั่งยืน ณ โรงแรม
แกรนด์ ริชมอนด์ สไตลิช คอนเวนชั่น จังหวัดนนทบุรี โดยมี นายพิพัฒน์ รัชกิจประการ เป็นประธานมอบโล่เกียรติยศแก่หน่วยงานที่ผ่านการประเมินตามเกณฑ์มาตรฐานด้านความมั่นคงปลอดภัยไซเบอร์ในสาขาต่าง ๆ พร้อมด้วย พลอากาศตรี อมร ชมเชย เลขาธิการคณะกรรมการการรักษาความมั่นคงปลอดภัยไซเบอร์แห่งชาติ และผู้แทนจากหน่วยงานต่างๆ ซึ่งในปีนี้ มีองค์กรสมัครเข้าร่วมการประเมินกว่า 200 หน่วยงานทั่วประเทศ สะท้อนการตื่นตัวและความตระหนักรู้ต่อความสำคัญของการปกป้องระบบสารสนเทศจากภัยคุกคามในยุคดิจิทัล

นายพิพัฒน์ รัชกิจประการ รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม ในฐานะประธานพิธีมอบโล่รางวัลเกียรติยศ กล่าวแสดงความยินดีกับทุกหน่วยงานที่ได้รับรางวัล พร้อมย้ำว่า “รัฐบาลให้ความสำคัญอย่างสูงต่อการสร้างระบบความมั่นคงปลอดภัยไซเบอร์ที่แข็งแกร่งรองรับอนาคตดิจิทัลของประเทศ เพราะภัยคุกคามออนไลน์ในปัจจุบันมีความซับซ้อนและส่งผลกระทบโดยตรงต่อประชาชน เศรษฐกิจ และความเชื่อมั่นของประเทศ การมอบรางวัลในครั้งนี้จึงไม่ใช่เพียงการเชิดชูเกียรติ แต่เป็นสัญลักษณ์ของความมุ่งมั่นร่วมกันของทุกภาคส่วนในการยกระดับมาตรฐานการป้องกันภัยไซเบอร์อย่างเป็นระบบตามมาตรฐานสากล พร้อมชื่นชมองค์กรที่ได้รับรางวัลว่าเป็นแบบอย่างสำคัญในการเสริมสร้างภูมิคุ้มกันดิจิทัลของประเทศ ซึ่งจะช่วยให้ประเทศไทยสามารถรับมือความท้าทายทางเทคโนโลยีได้อย่างมีประสิทธิภาพ และก้าวสู่การเป็นสังคมดิจิทัลที่มั่นคง ปลอดภัย และยั่งยืนในระยะยาว”

การประเมินรางวัลประจำปีนี้มีการปรับเกณฑ์การประเมินที่เข้มข้นทันสมัย สอดคล้องกับสถานการณ์ไซเบอร์ปัจจุบันมากยิ่งขึ้น โดยมุ่งเน้นให้หน่วยงานดำเนินงานตามมาตรฐานสากล และเป็นไปตาม พระราชบัญญัติการรักษาความมั่นคงปลอดภัยไซเบอร์ พ.ศ. 2562 ซึ่งครอบคลุมทั้งภาครัฐและเอกชน ผลจากการประเมินตามเกณฑ์มาตรฐานด้านความมั่นคงปลอดภัยไซเบอร์ มีหน่วยงานได้รับโล่รางวัลจำนวน 29 รางวัล และได้รับใบประกาศเกียรติคุณรวม 166 หน่วยงาน โดยแบ่งหมวดรางวัลออกเป็น 2 กลุ่มใหญ่ รวม 10 ประเภทรางวัล ครอบคลุมองค์กรทั้งภาครัฐและภาคเอกชน โดยรางวัลที่สะท้อนความเป็นเลิศด้านความมั่นคงปลอดภัยไซเบอร์อย่างแท้จริง ประกอบด้วยรางวัลสำคัญ 2 ประเภท ได้แก่

1. Best Performance Award — มอบให้แก่องค์กรที่มีผลงานโดดเด่นในการป้องกัน รับมือ และบริหารจัดการภัยคุกคามไซเบอร์อย่างมีประสิทธิภาพ

2. Most Contributions Award — มอบให้หน่วยงานที่มีบทบาทสำคัญในการผลักดันความร่วมมือ พัฒนาศักยภาพ และยกระดับระบบความมั่นคงปลอดภัยไซเบอร์ของประเทศ องค์กรที่ได้รับรางวัลนี้ ถือเป็นกำลังสำคัญในการยกระดับศักยภาพระบบความมั่นคงปลอดภัยไซเบอร์ของประเทศให้เดินหน้าอย่างเป็นรูปธรรม

พลอากาศตรี อมร ชมเชย เลขาธิการฯ กล่าวทิ้งทายว่า “PM Awards 2025 เป็นส่วนสำคัญในการผลักดันการดำเนินงานตาม พระราชบัญญัติการรักษาความมั่นคงปลอดภัยไซเบอร์ พ.ศ. 2562 และ นโยบายและแผนปฏิบัติการด้านความมั่นคงปลอดภัยไซเบอร์ (พ.ศ. 2565–2570) เพื่อยกระดับมาตรฐานการบริหารจัดการความมั่นคงปลอดภัยไซเบอร์ของประเทศให้มีความรวดเร็ว มีประสิทธิภาพ และสอดคล้องกับกรอบมาตรฐานด้านไซเบอร์ในระดับสากล งานนี้มีบทบาทสำคัญในการส่งเสริมให้องค์กรทั้งภาครัฐและเอกชนเพิ่มขีดความสามารถในการป้องกันและรับมือภัยคุกคามไซเบอร์อย่างเป็นระบบ ตลอดจนสร้างการตระหนักรู้และภูมิคุ้มกันดิจิทัลในวงกว้าง เพื่อให้ประเทศไทยมีระบบความมั่นคงปลอดภัยไซเบอร์ที่เข้มแข็งและพร้อมรับมือกับความท้าทายทางเทคโนโลยีในอนาคต”

ภายในงานยังมีการจัดเวทีเสวนาจากผู้เชี่ยวชาญทั้งในประเทศและต่างประเทศ โดยนำเสนอประเด็นสำคัญด้านทิศทางเทคโนโลยีและความมั่นคงไซเบอร์ของโลก อาทิ “ขับเคลื่อนภูมิคุ้มกันไซเบอร์ไทยด้วย AI: ความร่วมมือไทยเพื่ออนาคตดิจิทัลที่มั่นคง” และ “ก้าวใหม่ของประเทศไทยในความมั่นคงปลอดภัยไซเบอร์ เตรียมพร้อมสู่ความสำเร็จระดับโลก” ซึ่งสะท้อนแนวคิดในการพัฒนาระบบ Cybersecurity ให้มีความยืดหยุ่น ทันสมัย และเพิ่มขีดความสามารถของทุกภาคส่วนในการปกป้องตนเองบนโลกดิจิทัลที่เปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว

การจัดงาน Prime Minister Awards ในทุกปี ถือเป็นการยืนยันบทบาทสำคัญของ สกมช. ในฐานะหน่วยงานหลักด้านความมั่นคงไซเบอร์ของประเทศ ที่ทำหน้าที่ส่งเสริมความร่วมมือทุกภาคส่วน พัฒนาโครงสร้างพื้นฐานและศักยภาพบุคลากร และยกระดับมาตรฐานความปลอดภัยไซเบอร์ของไทยให้ก้าวทันระดับสากล ทั้งนี้ รัฐบาลและ สกมช. จะมุ่งมั่นสร้างรากฐานด้านความมั่นคงดิจิทัลที่แข็งแรง เพื่อขับเคลื่อนประเทศไทยไปสู่การเป็น “สังคมดิจิทัลที่มั่นคง ปลอดภัย และยั่งยืน” ที่สามารถปกป้องประชาชน องค์กร และระบบเศรษฐกิจดิจิทัลจากภัยคุกคามออนไลน์ทุกรูปแบบได้อย่างมีประสิทธิภาพและยั่งยืนอย่างแท้จริง