
ดร.นพ.สราวุฒิ บุญสุข อธิบดีกรมวิทยาศาสตร์การแพทย์ กล่าวว่า กรมวิทยาศาสตร์การแพทย์ เฝ้าระวัง ตรวจติดตามคุณภาพนมโคของไทยมาอย่างต่อเนื่อง เพื่อยืนยันความปลอดภัยและคุณภาพมาตรฐานตามประกาศกระทรวงสาธารณสุข พบว่า “นมโคของไทยมีคุณภาพผ่านตามเกณฑ์มาตรฐาน” โดยในปีงบประมาณ 2566-2568 สำนักคุณภาพและความปลอดภัยอาหาร ตรวจวิเคราะห์คุณภาพทั้งทางเคมีและจุลชีววิทยาของนมพาสเจอร์ไรส์ และยูเอชที ที่จำหน่ายทั่วไปในท้องตลาดตามแผนเฝ้าระวังควบคุมคุณภาพมาตรฐานของนม ซึ่งเป็นความร่วมมือระหว่างสำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา และกรมวิทยาศาสตร์การแพทย์ เพื่อควบคุมดูแลคุณภาพมาตรฐานของนมระหว่างการวางจำหน่าย ให้กับผู้บริโภค จำนวนทั้งสิ้น 65 ตัวอย่าง พบว่าทุกตัวอย่างผ่านเกณฑ์มาตรฐานตามประกาศกระทรวงสาธารณสุข (ฉบับที่ 350) พ.ศ. 2556 เรื่อง นมโค ซึ่งกำหนดให้น้ำนมโคที่ได้จากการนำน้ำนมโคดิบมาผ่านกรรมวิธีฆ่าเชื้อ โดยการให้ความร้อนทั้งวิธีพาสเจอร์ไรส์ และยูเอชที ต้องปราศจากจุลินทรีย์ที่ทำให้เกิดโรค และมีปริมาณองค์ประกอบ ของนมในหน่วยร้อยละของน้ำหนัก ได้แก่ ไขมัน ไม่น้อยกว่า 3.2, เนื้อนมไม่รวมไขมัน ไม่น้อยกว่า 8.25 และโปรตีน ไม่น้อยกว่า 2.8 รวมถึงการตรวจวิเคราะห์รายการทดสอบอื่นๆ เพิ่มเติม โดยตรวจไม่พบ สารเคมีกำจัดศัตรูพืช (Aldrin and Dieldrin, Chlordane, DDT, Endrin, Heptachlor) และสารปฏิชีวนะ (กลุ่ม Penicillin, Tetracycline) ส่วนปริมาณ แอฟลาทอกซิน เอ็ม 1 (Aflatoxin M1) ผ่านตามเกณฑ์มาตรฐานตามประกาศกระทรวงสาธารณสุข (ฉบับที่ 414) พ.ศ. 2563 เรื่อง มาตรฐานอาหารที่มีสารปนเปื้อน ซึ่งกำหนดให้มีปริมาณแอฟลาทอกซินเอ็ม 1 สูงสุดได้ไม่เกิน 0.5 ไมโครกรัมต่อกิโลกรัม ทั้งนี้สำนักคุณภาพและความปลอดภัยอาหารได้รับการยอมรับเป็นหน่วยงานหลักในการให้บริการตรวจวิเคราะห์ทางห้องปฏิบัติการด้านอาหารของประเทศที่ได้รับการรับรองความสามารถตามมาตรฐานสากล ISO/IEC 17025:2017

ดังนั้น นมโคของไทยจึงปลอดภัย มีคุณค่าทางโภชนาการ มีสารอาหารครบถ้วน ไม่มีสารปนเปื้อนที่เป็นอันตราย ต่อสุขภาพ สามารถบริโภคได้อย่างมั่นใจ โดยผู้บริโภคควรตรวจสอบความสมบูรณ์ของบรรจุภัณฑ์ ต้องไม่รั่วซึม ไม่บวม ไม่บุบ ไม่มีรอยฉีกขาด ไม่มีรอยรั่วบริเวณที่เจาะหลอด และพิจารณาฉลากที่แสดงข้างบรรจุภัณฑ์ก่อนการเลือกซื้อทุกครั้ง ซึ่งจะระบุ ชนิดนม ส่วนประกอบ ผู้ผลิต เลขสารบบอาหาร ฉลากโภชนาการ เพื่อตรวจสอบให้ปลอดภัย มีคุณภาพตรงกับความต้องการบริโภค และมีประโยชน์เหมาะสมกับตนเองอย่างแท้จริง
นอกจากนี้ในกรณีสงสัยว่าเป็นนมจากโคจริงหรือไม่ สามารถส่งตรวจเอกลักษณ์ความเป็นนมโคได้ด้วยการตรวจ ดีเอ็นเอของสัตว์ที่สงสัยประกอบกับสัตว์ที่ระบุในฉลาก ซึ่งปัจจุบันสำนักคุณภาพและความปลอดภัยอาหาร สามารถตรวจสอบดีเอ็นเอของโค แพะ แกะ ม้า ในอาหารด้วยวิธี Real-Time PCR โดยส่งตัวอย่างตรวจวิเคราะห์ได้ที่ศูนย์รวมบริการ กรมวิทยาศาสตร์การแพทย์ และศูนย์วิทยาศาสตร์การแพทย์ทั่วประเทศ สอบถามรายละเอียดการส่งตัวอย่าง โทร. 0 2951 0000 หรือ 0 2589 9850-7 ต่อ 98150, 98152, 99968 มือถือ 0 98915 6809” ดร.นพ.สราวุฒิ กล่าว

