อย. ย้ำดูแลคุณภาพ “นมโรงเรียน” เพื่อสุขภาพที่ดีของเด็กไทย มั่นใจปลอดภัย ได้มาตรฐาน ส่งเสริมการเติบโตและพัฒนาการสมวัย พร้อมแนะวิธีดื่มและเก็บรักษาอย่างถูกต้อง
เภสัชกรเลิศชาย เลิศวุฒิ รองเลขาธิการคณะกรรมการอาหารและยา เปิดเผยว่า โครงการอาหารเสริม (นม) โรงเรียนเป็นโครงการสำคัญที่รัฐบาลจัดตั้งขึ้นเพื่อส่งเสริมโภชนาการและแก้ปัญหาภาวะทุพโภชนาการในเด็ก รวมทั้งช่วยเหลือเกษตรกรผู้เลี้ยงโคนมให้มีรายได้มั่นคง โดยมีการแจกนมฟรีให้เด็กตั้งแต่ระดับก่อนวัยเรียนจนถึงประถมศึกษาปีที่ 6 รวม 260 วันต่อปี เพื่อให้เด็กได้รับสารอาหารครบถ้วน โดยเฉพาะแคลเซียมและโปรตีนที่จำเป็นต่อการเสริมสร้างกระดูกและฟันให้แข็งแรง สำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา (อย.) ให้ความสำคัญกับคุณภาพของนมโรงเรียนเพื่อให้มั่นใจว่าเด็ก ๆ ได้รับนมที่ปลอดภัยและมีคุณค่าทางโภชนาการครบถ้วน โดยนมที่แจกจ่าย ไม่ว่าจะเป็นนมพาสเจอไรซ์หรือนมยูเอชที (UHT) ต้องผลิตจากน้ำนมโคแท้ 100% และที่ผ่านมา อย. ร่วมกับสำนักงานสาธารณสุขจังหวัดทั่วประเทศ กำกับดูแลคุณภาพนมโรงเรียนอย่างเข้มงวด และควบคุมการผลิตเป็นไปตามหลักเกณฑ์วิธีการผลิตที่ดี (Good Manufacturing Practice; GMP) มีการตรวจโรงงานอย่างน้อยปีละ 2 ครั้ง ควบคุมการเก็บรักษาและการขนส่งถูกสุขลักษณะ ควบคุมอุณหภูมิเพื่อป้องกันการบูดเสีย นอกจากนี้ ยังมีการเก็บตัวอย่างผลิตภัณฑ์ ทั้งนมพาสเจอไรซ์ และนมยูเอชที ส่งตรวจวิเคราะห์ปริมาณจุลินทรีย์ทุกเดือน และตรวจวิเคราะห์ปริมาณสารอาหาร ปีละ 2 ครั้ง ซึ่งหากตรวจพบผลิตภัณฑ์ไม่ผ่านมาตรฐาน หรือสถานที่ผลิตไม่ผ่านเกณฑ์ จะมีโทษตามกฎหมาย และถูกตัดสิทธิการจำหน่ายนมโรงเรียนด้วย
ทั้งนี้ โครงการนมโรงเรียนอยู่ระหว่างการพิจารณาเพิ่มจำนวนวันแจกจ่าย เพื่อให้เด็กไทยได้รับโภชนาการที่ต่อเนื่องตลอดปี สะท้อนถึงความมุ่งมั่นของภาครัฐในการดูแลสุขภาพและพัฒนาการของเยาวชนไทยให้เติบโตอย่างแข็งแรงและมีคุณภาพชีวิตที่ดีในอนาคต
รองเลขาธิการฯ อย. กล่าวต่อไปว่า เด็กในวัยเจริญเติบโตควรดื่มนมวันละ 1–2 กล่อง และควรดื่มให้หมดทันทีหลังเปิดกล่อง ไม่ควรเก็บข้ามวัน โดยนมพาสเจอไรซ์ต้องเก็บในอุณหภูมิต่ำกว่า 8 องศาเซลเซียสส่วน นมยูเอชทีสามารถเก็บในอุณหภูมิห้องได้ แต่ต้องหลีกเลี่ยงแสงแดดหรือความร้อนโดยตรง หากพบกลิ่น สี หรือรสผิดปกติ ควรหยุดดื่มทันทีและแจ้งสายด่วน อย. โทร. 1556

