โรงพยาบาลบางคล้า จ.ฉะเชิงเทรา พัฒนานวัตกรรมตัวล็อกเครื่องช่วยหายใจฉุกเฉินแบบพกพา(OXYLATOR) จากท่อ PVC ตัดปัญหาท่อช่วยหายใจเลื่อนหลุดขณะส่งต่อผู้ป่วย เจ้าหน้าที่ไม่ต้องช่วยจับเครื่องตลอดเวลา ทำให้สามารถทำหัตถการอื่นระหว่างส่งต่อได้ และยังลดความเสี่ยงสัมผัสสิ่งคัดหลั่งจากผู้ป่วย ขยายผลนำไปใช้ในตึกผู้ป่วยใน รวมถึงโรงพยาบาลใกล้เคียง
นายสมศักดิ์ เวชสกล พนักงานฉุกเฉินการแพทย์ โรงพยาบาลบางคล้า จังหวัดฉะเชิงเทรา กล่าวถึงนวัตกรรม “Locker Oxylator Transfer ไม่เลื่อนหลุด” ซึ่งนำเสนอในงานประชุมวิชาการกระทรวงสาธารณสุขประจำปี พ.ศ. 2568 ว่า โรงพยาบาลบางคล้าเป็นโรงพยาบาลชุมชน หากมีผู้ป่วยใส่ท่อช่วยหายใจจำเป็นต้องส่งต่อไปยังโรงพยาบาลแม่ข่าย โดยระหว่างส่งต่อต้องใช้ชุดช่วยหายใจชนิดมือบีบ (AMBU Bag) หรือใช้เครื่องช่วยหายใจฉุกเฉินแบบพกพา (OXYLATOR) ซึ่งต้องจับยึดตลอดเวลา การใช้เชือกผูกแทนการจับเพื่อให้เจ้าหน้าที่สามารถทำหัตถการอื่นขณะอยู่บนรถพยาบาลได้ พบว่ามีความเสี่ยงท่อช่วยหายใจเลื่อนหรือหลุดจากการแกว่งไปมาของเครื่อง OXYLATOR ขณะรถวิ่ง โดยในปีงบประมาณ 2565 ส่งผู้ป่วย 110 ราย ท่อช่วยหายใจเลื่อนหลุด 3 ราย ปีงบประมาณ 2566 ส่งผู้ป่วย 149 ราย ท่อช่วยหายใจเลื่อนหลุด 2 ราย และปีงบประมาณ 2567 ส่งผู้ป่วย 153 ราย ท่อช่วยหายใจเลื่อนหลุด 1 ราย ซึ่งแม้จะมีจำนวนไม่มาก แต่ถือเป็นความเสี่ยงต่อผู้ป่วยในระดับรุนแรง
นายสมศักดิ์กล่าวต่อว่า โรงพยาบาลบางคล้า ได้พัฒนานวัตกรรมช่วยล็อกเครื่อง OXYLATOR ขณะส่งต่อผู้ป่วย โดยนำเศษท่อ PVC เหลือใช้ ซึ่งทำความสะอาดได้เมื่อเปื้อนสิ่งคัดหลั่ง มีน้ำหนักเบา แข็งแรง คงทน มาประดิษฐ์เป็นแท่นยึดเครื่อง OXYLATOR มีค่าใช้จ่าย 44 บาท ต่อ 1 ชิ้นงาน และหากซื้อท่อ PVC ใหม่จะอยู่ที่ 100 บาท ต่อ 1 ชิ้นงาน จากการนำมาใช้งานพบว่าช่วยป้องกันไม่ให้เครื่อง OXYLATOR และท่อช่วยหายใจแกว่งไปมาจากการผูกยึดด้วยเชือก ตัวนวัตกรรมสามารถปรับระดับขึ้นลงตามตำแหน่งท่อช่วยหายใจของผู้ป่วยแต่ละราย และปรับเลื่อนซ้ายขวาได้อย่างอิสระหากผู้ป่วยหันหน้าไปมา ทำให้สามารถตรึงเครื่อง OXYLATOR ไว้โดยไม่ดึงรั้งท่อช่วยหายใจให้เลื่อนหรือหลุดจากตำแหน่งที่ใส่ไว้ โดยผู้ป่วยที่ใช้นวัตกรรมนี้ 98 ราย ไม่พบการเลื่อนหลุดของท่อช่วยหายใจขณะส่งต่อเลย
“นวัตกรรมล็อกเครื่อง OXYLATOR ยังช่วยไม่ให้ต้องเสียกำลังคนไปจับเครื่อง เจ้าหน้าที่สามารถไปทำหัตถการอื่นกับผู้ป่วยบนรถได้ง่าย ช่วยลดความเสี่ยงในการสัมผัสสิ่งคัดหลั่งจากผู้ป่วย ซึ่งได้มีการต่อยอดนำไปใช้ในตึกผู้ป่วยในของโรงพยาบาลบางคล้า และโรงพยาบาลใกล้เคียงที่ใช้ OXYLATOR รุ่นเดียวกัน ได้แก่ โรงพยาบาลราชสาส์น โรงพยาบาลสนามชัย โรงพยาบาลบ้านโพธิ์ โรงพยาบาลนิคมพัฒนา (ระยอง) โรงพยาบาลพนมสารคาม และโรงพยาบาลพระปกเกล้า โดยจะมีการรวบรวมข้อมูลและข้อเสนอแนะจากผู้ใช้นวัตกรรม เพื่อนำมาพัฒนาและปรับปรุงให้ดียิ่งขึ้นต่อไป” นายสมศักดิ์กล่าว