วันที่ 8 สิงหาคม 2568 เวลา 14.00 น. นายสุรสิทธิ์ นิธิวุฒิวรรักษ์ เลขานุการรัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงาน เป็นประธานในพิธีลงนามบันทึกความเข้าใจความร่วมมือการพัฒนาบุคลากรด้านการท่องเที่ยวกลุ่มธุรกิจการท่องเที่ยวสำราญทางน้ำ ระหว่างนายสมชาติ สุภารี รองอธิบดีกรมพัฒนาฝีมือแรงงาน นายจาตุรนต์ ภักดีวานิช อธิบดีกรมการท่องเที่ยว ดร.อภิเทพ แซ่โค้ว รักษาการอธิการบดี ประจำมหาวิทยาลัยนานาชาติแสตมฟอร์ด นายดิฐพงศ์ ฐิตะดิลก ประธานกรรมการบริหาร บริษัท ภูเก็ต ซุปเปอร์ยอร์ช มารีน่า จำกัด นอกจากนี้ยังมีนายฐากูร บุญมาก ผู้บริหารบริษัท ภูเก็ต ซุปเปอร์ยอร์ช มารีน่า จำกัด นายสัญญา จันทร์โท ผู้อำนวยการนิคมอุตสาหกรรมปิ่นทอง และผู้บริหารระดับสูงกระทรวงแรงงาน ร่วมงาน ณ ห้องประชุมมหาวิทยาลัยนานาชาติแสตมฟอร์ด วิทยาเขตอโศก เอ็กเช็นท์ทาวเวอร์ ชั้น LG กรุงเทพมหานคร
นายสุรสิทธิ์ นิธิวุฒิวรรักษ์ เลขานุการรัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงาน กล่าวภายหลังเป็นประธานในพิธีลงนามดังกล่าวว่า ผมรู้สึกยินดีและเป็นเกียรติอย่างยิ่งที่ได้เป็นประธานในพิธีลงนามในครั้งนี้ ซึ่งความร่วมมือในครั้งนี้ตอบโจทย์อุตสาหกรรมท่องเที่ยวและบริการซึ่งมีอัตราการเติบโตอย่างต่อเนื่อง สร้างรายได้เป็น 1 ใน 10 ของงานทั่วโลก หรือประมาณ 330 ล้านบาท โดยเฉพาะการท่องเที่ยวสำราญทางน้ำ (Marine Tourism) เป็นการท่องเที่ยวอีกรูปแบบหนึ่งที่ขยายตัวอย่างรวดเร็ว จังหวัดฝั่งทะเลอันดามันอย่างภูเก็ต พังงา กระบี่ ต่างมีความต้องการแรงงานเป็นจำนวนมาก จึงจำเป็นที่จะต้องมีการพัฒนาบุคลากรรองรับการท่องเที่ยวสำราญทางน้ำ ซึ่งเป็นกลุ่มแรงงานที่มีมูลค่าสูง ความร่วมมือในครั้งนี้มีเป้าหมาย ในการจัดทำและพัฒนาหลักสูตรฝึกอบรมให้สอดคล้องกับมาตรฐานวิชาชีพด้านการท่องเที่ยวสำราญทางน้ำ และเชื่อมโยงมาตรฐานอาเซียนกับมาตรฐานฝีมือแรงงานแห่งชาติ รวมทั้งพัฒนาด้านภาษา ทักษะวิชาชีพให้แก่นักศึกษา แรงงานในสถานประกอบกิจการ และประชาชนทั่วไปให้มีทักษะตรงกับความต้องการของสถานประกอบกิจการ และสนับสนุนการดำเนินงานตามโครงการ “มัจฉานุ Academy”
นายสมชาติ สุภารี รองอธิบดีกรมพัฒนาฝีมือแรงงาน เปิดเผยว่า ที่ผ่านมาได้มีความร่วมมือกันจัดฝึกอบรมวิทยากรต้นแบบ สาขาภาษาอังกฤษ สำหรับการสอบ Marlins Test สำหรับผู้ทำงานบนเรือสำราญ และจัดฝึกอบรมหลักสูตรต่าง ๆ เช่น การติดตั้งนั่งร้านสำหรับงานสีเรือยอร์ช และเทคนิคการติดตั้งฉนวนความเย็นบนเรือสำราญ พนักงานต้อนรับบนเรือท่องเที่ยว บาร์เทนเดอร์มืออาชีพ และช่างเชื่อมไทยสู่ระดับสากล มีผู้ผ่านการฝึกอบรม 175 คน และเพื่อการต่อยอดความสำเร็จที่ผ่านมาความร่วมมือในครั้งนี้ จึงมีการจัดทำหลักสูตรฝึกอบรมเพิ่มเติมอีก 5 หลักสูตร ได้แก่ 1. การเป็นผู้บังคับเรือเดินทะเลขั้นสูง 2. การควบคุมเรือขนาดเล็กและเรือยางแข็งสำหรับใช้งานส่วนตัวหรือเชิงพาณิชย์ 3. การใช้งานวิทยุสื่อสารทางทะเลแบบ VHF 4. การซ่อมและบำรุงรักษาเครื่องยนต์ดีเซลระบบไฟฟ้าเรือเดินทะเล และ 5. ความปลอดภัยในการทำงานของอุตสาหกรรมเดินเรือทางทะเล รวมทั้งหลักสูตรด้านภาษาอังกฤษและภาษาจีนที่เกี่ยวข้องกับการเดินเรือทางทะเล
นายสมชาติ กล่าวต่อไปว่า สำหรับแผนการจัดฝึกอบรมภายใต้โครงการ “มัจฉานุ Academy” ซึ่งเป็นโครงการจัดตั้งขึ้นในการพัฒนาทักษะฝีมือแรงงานที่อยู่ในอุตสาหกรรมการท่องเที่ยวสำราญทางน้ำ ดำเนินการโดยสถาบันพัฒนาฝีมือแรงงาน 21 ภูเก็ต ในการจัดฝึกอบรมให้แก่แรงงานในสถานประกอบกิจการจำนวน 4 หลักสูตร ได้แก่ การติดตั้งนั่งร้านสำหรับงานสีเรือยอร์ช ภาษาอังกฤษสำหรับพนักงานบริการบนเรือสำราญ การตัดโลหะด้วยแก๊ส และการพ่นสีและซ่อมสีเรือยอร์ช ตั้งเป้ามีผู้เข้ารับการฝึกอบรมไม่น้อยกว่า 80 คน และจัดทดสอบมาตรฐานฝีมือแรงงานแห่งชาติให้แก่นักศึกษาหรือแรงงานให้ได้รับค่าจ้างตามมาตรฐานฝีมือแรงงานเชื่อมโยงมาตรฐานวิชาชีพด้านการท่องเที่ยวกับมาตรฐานอาเซียน รวมทั้งเชิญชวนนักศึกษาที่กำลังจบการศึกษาเข้ารับการฝึกอบรม สร้างโอกาสเข้าทำงานกับสถานประกอบกิจการกลุ่มธุรกิจการท่องเที่ยวสำราญทางน้ำ เป็นต้น
“ขอขอบคุณ กรมการท่องเที่ยว มหาวิทยาลัยนานาชาติแสตมฟอร์ด และบริษัท ภูเก็ต ซุปเปอร์ยอร์ช มารีน่า จำกัด ที่ร่วมมือกับกรมพัฒนาฝีมือแรงงาน ในการถ่ายทอดองค์ความรู้ในการพัฒนาทักษะฝีมือแรงงานในกลุ่มอุตสาหกรรมการท่องเที่ยวสำราญทางน้ำ ทำให้แรงงานมีทักษะตรงกับความต้องการของสถานประกอบกิจการ มุ่งแก้ปัญหาขาดแคลนแรงงานได้เป็นอย่างดี” รองอธิบดีกรมพัฒนาฝีมือแรงงาน กล่าวทิ้งท้าย