สถานการณ์น้ำภาพรวมของประเทศ วันที่ 5 ส.ค. 68 เวลา 7.00 น.

1. ปริมาณฝนสะสม 24 ชม. สูงสุด ได้แก่ ภาคเหนือ : จ.เชียงใหม่ (56 มม.) ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ : จ.อุดรธานี(16 มม.) ภาคตะวันตก : จ.กาญจนบุรี(9 มม.) ภาคกลาง : กรุงเทพมหานคร(9 มม.) ภาคตะวันออก : จ.ฉะเชิงเทรา(3 มม.) ภาคใต้ : จ.สงขลา(95 มม.)

สภาพอากาศวันนี้ : มรสุมตะวันตกเฉียงใต้กำลังอ่อนยังคงพัดปกคลุมทะเลอันดามัน ประเทศไทย และอ่าวไทย ในขณะที่มีหย่อมความกดอากาศต่ำปกคลุมบริเวณประเทศเวียดนามตอนบน ทำให้ประเทศไทยตอนบนมีฝนน้อย

คาดการณ์ : ในช่วงวันที่ 6 -8 ส.ค. 68 ภาคเหนือ ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ จะมีฝนเพิ่มขึ้นและมีฝนตกหนักบางแห่งส่วนมากทางตอนบนของภาค เนื่องจากร่องมรสุมพาดผ่านตอนบนของภาคเหนือ ประเทศลาวตอนบนเข้าสู่หย่อมความกดอากาศต่ำบริเวณประเทศเวียดนามตอนบน ในขณะที่มรสุมตะวันตกเฉียงใต้ยังคงพัดปกคลุมทะเลอันดามัน ประเทศไทย และอ่าวไทย

2. สถานการณ์น้ำอ่างเก็บน้ำในภาพรวม : ปริมาณน้ำรวม 65% ของความจุเก็บกัก (52,285ล้าน ลบ.ม.) ปริมาณน้ำใช้การ 48% (28,167 ล้าน ลบ.ม.)

3. พื้นที่ประสบอุทกภัย : สถานการณ์อุทกภัย วันที่ 4 ส.ค. 68 ในพื้นที่ 4 จ. 9 อ. ได้แก่ จ.เชียงราย (อ. เชียงของ และขุนตาล) จ.น่าน (อ.เวียงสา) จ.สุโขทัย (อ.เมืองสุโขทัย ศรีสำโรง สวรรคโลก และศรีนคร) และ จ.พิษณุโลก (อ.บางระกำ และนครไทย)

4.ข่าวประชาสัมพันธ์ : เมื่อวันที่ 4 สิงหาคม 2568 นายประเสริฐ จันทรรวงทอง รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม ในฐานะประธานกรรมการทรัพยากรน้ำแห่งชาติ (กนช.) เปิดเผยว่า ได้รับรายงานข้อมูลสถานการณ์ระดับน้ำในแม่น้ำน่าน จังหวัดน่าน จากสถานีตรวจวัด 3 แห่ง ได้แก่ สถานี N.64 และสถานี N.1 อำเภอเมืองน่าน รวมถึงสถานี N.13A อำเภอเวียงสา ซึ่งเป็นพื้นที่ลำดับสุดท้ายก่อนปริมาณน้ำไหลเข้าสู่เขื่อนสิริกิติ์ พบว่า ขณะนี้ทุกจุดระดับน้ำได้ลดลงต่ำกว่าตลิ่งเกิน 2 เมตรแล้ว และแนวโน้มภาพรวมของสถานการณ์ดีขึ้นตามลำดับ จึงได้สั่งการให้สำนักงานทรัพยากรน้ำแห่งชาติ (สทนช.) ประสานทุกหน่วยงานเร่งสำรวจและซ่อมแซมอาคารชลศาสตร์ คันกั้นน้ำ ทำนบ พนังกั้นน้ำ และเครื่องมือการบริหารจัดการน้ำที่ชำรุดเสียหาย พร้อมทั้งเร่งระบายน้ำท่วมขัง ฟื้นฟูพื้นที่ที่ได้รับผลกระทบ และดูแลสุขอนามัยของประชาชนให้สถานการณ์กลับคืนสู่ภาวะปกติโดยเร็ว อีกทั้งได้กำชับศูนย์บริหารจัดการน้ำส่วนหน้า (ชั่วคราว) ในพื้นที่เสี่ยงอุทกภัยลุ่มน้ำยม-น่าน ให้ปฏิบัติหน้าที่อย่างเต็มขีดความสามารถเพื่อเตรียมพร้อมรับมือกับฝนที่คาดว่าจะตกหนักในช่วงต่อไป ในส่วนของพื้นที่อำเภอแม่สาย จังหวัดเชียงราย หลังจากสถานการณ์อุทกภัยคลี่คลายลงแล้ว กรมการทหารช่าง กองทัพบก และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ได้เร่งดำเนินการซ่อมแซมพนังกั้นน้ำชั่วคราวและจุดอ่อนรูรั่วในแม่น้ำสาย รวมถึงเสริมความมั่นคงแข็งแรงในจุดต่าง ๆ เพื่อป้องกันน้ำไหลทะลักเข้าท่วมพื้นที่ คาดว่าจะดำเนินการแล้วเสร็จภายในวันที่ 10 สิงหาคม นี้ โดยได้มอบหมาย สทนช. ติดตามความก้าวหน้าการดำเนินงานอย่างใกล้ชิด เพื่อให้สามารถดำเนินการได้ตามแผนที่วางไว้ ทั้งนี้ แม้ปัจจุบันสถานการณ์จะมีแนวโน้มดีขึ้นในหลายพื้นที่ แต่ยังคงสั่งการให้มีการเฝ้าระวังอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะจุดที่มีความเสี่ยง โดยขอให้มั่นใจว่ารัฐบาลได้ดำเนินการอย่างเต็มกำลังเพื่อดูแลชีวิตและทรัพย์สินของพี่น้องประชาชน รวมถึงให้ความช่วยเหลือผู้ได้รับผลกระทบให้สามารถกลับมาดำรงชีวิตตามปกติได้โดยเร็วที่สุด