วันที่ 3 สิงหาคม 2568 นายจตุพร บุรุษพัฒน์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ นำคณะผู้บริหารระดับสูงของกระทรวงพาณิชย์ ได้แก่ นายฉันทวิชญ์ ตัณฑสิทธิ์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงพาณิชย์ ร้อยตรีจักรา ยอดมณี รองปลัดกระทรวงพาณิชย์ นางอารดา เฟื่องทอง อธิบดีกรมการค้าต่างประเทศ นายวิทยากร มณีเนตร อธิบดีกรมการค้าภายใน พร้อมด้วยผู้บริหารที่เกี่ยวข้อง ลงพื้นที่จังหวัดอุบลราชธานี เพื่อประชุมติดตามสถานการณ์การค้าชายแดนและหารือแนวทางช่วยเหลือผู้ประกอบการที่ได้รับผลกระทบ ณ ห้องประชุมพรหมวรราช ชั้น 4 ศาลากลางจังหวัดอุบลราชธานี
การประชุมครั้งนี้มีการรายงานสถานการณ์การค้าชายแดนจากด่านศุลกากรช่องเม็ก อำเภอสิรินธร ด่านศุลกากรเขมราฐ อำเภอเขมราฐ และจุดผ่อนปรนช่องอ้านม้า อำเภอน้ำยืน รวมถึงข้อเสนอแนะจากภาคเอกชน โดยมีประธานหอการค้าจังหวัดอุบลราชธานี และประธานสภาอุตสาหกรรมจังหวัดอุบลราชธานี ร่วมนำเสนอความคิดเห็นเพื่อแก้ไขปัญหาและส่งเสริมการค้าชายแดน
นายจตุพร ให้สัมภาษณ์ภายหลังการประชุมว่า การลงพื้นที่ครั้งนี้เพื่อรับฟังปัญหาและเร่งรัดการแก้ไขปัญหาที่กระทบต่อผู้ประกอบการและประชาชน โดยเน้นย้ำให้กระทรวงพาณิชย์ดูแลราคาสินค้าอุปโภคบริโภค “ห้ามขาด ห้ามแพง”พร้อมทั้งสั่งการให้เร่งหาตลาดรองรับผลผลิตทางการเกษตรในพื้นที่ที่ประสบปัญหา
นอกจากนี้ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ได้หารือเกี่ยวกับเส้นทางการค้าผ่าน สปป.ลาว ไปยังกัมพูชา โดยพบว่ามีอุปสรรคด้านการเก็บภาษีที่แตกต่างกัน จึงสั่งการให้กรมการค้าต่างประเทศเจรจากับฝ่าย สปป.ลาว เพื่อหาทางออกและเปิดเส้นทางการส่งออกใหม่ให้กับผู้ประกอบการ
ในประเด็นปัญหามันสำปะหลังที่ราคาตกต่ำ นายจตุพรยืนยันว่ากระทรวงพาณิชย์จะร่วมมือกับกระทรวงเกษตรฯ ตรวจสอบคุณภาพผลผลิต รวมถึงดูแลต้นทุนการผลิต โดยเฉพาะปัจจัยสำคัญอย่างปุ๋ยและยาฆ่าแมลง เพื่อให้เกษตรกรสามารถแข่งขันในตลาดโลกได้ดียิ่งขึ้น พร้อมเตรียมเปิดตัวโครงการ “สินค้าธงเขียว” ที่จังหวัดฉะเชิงเทรา เพื่อช่วยลดต้นทุนการเกษตรของเกษตรกร
และนายจตุพร ได้กล่าวถึง มาตรการสร้างความเชื่อมั่นทั้งในประเทศและต่างประเทศ โดยรัฐบาลจะสื่อสารเชิงรุกเพื่อสร้างการรับรู้เมื่อสถานการณ์กลับสู่ภาวะปกติ อันจะส่งผลให้การท่องเที่ยวและการใช้จ่ายของประชาชนกลับมาฟื้นตัว ขณะเดียวกันจะมีมาตรการช่วยเหลือผู้ประกอบการและเกษตรกรที่ได้รับผลกระทบจากปัญหาการค้าชายแดนและมาตรการภาษีของสหรัฐฯ โดยภายใต้การกำกับดูแลของนายพิชัย ชุณหวชิร รองนายกรัฐมนตรี จะดำเนินการอย่างเต็มที่ และพาณิชย์จะเร่งแก้ไขปัญหา ลดต้นทุนการผลิต และสร้างโอกาสใหม่ให้เกษตรกรและผู้ประกอบการ เพื่อให้สามารถแข่งขันได้และมีรายได้เพิ่มขึ้น