วันที่ 2 สิงหาคม 2568 นายประเสริฐ จันทรรวงทอง รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม ในฐานะประธานกรรมการทรัพยากรน้ำแห่งชาติ (กนช.) เปิดเผยว่า ได้รับรายงานจากสำนักงานทรัพยากรน้ำแห่งชาติ (สทนช.) ว่า จากการลงพื้นที่ตรวจสอบสถานการณ์น้ำใน 4 จังหวัดริมแม่น้ำโขง ได้แก่ จังหวัดนครพนม หนองคาย มุกดาหาร และบึงกาฬ พบว่า แต่ละจังหวัดได้มีการเตรียมความพร้อมรับมือกับสถานการณ์น้ำตามแผนที่วางไว้เป็นอย่างดี อย่างไรก็ตาม เพื่อไม่ให้เป็นการประมาทจึงได้สั่งการให้เพิ่มประสิทธิภาพการเตรียมพร้อมในด้านต่างๆ ให้ดียิ่งขึ้นเพื่อรับมือกับสถานการณ์น้ำล้นตลิ่งที่อาจจะเกิดขึ้นในห้วงถัดไปเนื่องจากยังอยู่ในช่วงฤดูฝน ทั้งการเสริมเครื่องสูบน้ำและเครื่องผลักดันน้ำในจุดต่าง ๆ เพิ่มเติมเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการระบายน้ำ รวมถึงการพิจารณาแนวทางปิดกั้นลำน้ำสาขาที่มีความเสี่ยงได้รับผลกระทบจากระดับน้ำในแม่น้ำโขงที่หนุนสูงขึ้น เช่น จังหวัดนครพนม บริเวณท้ายเขื่อนน้ำอูนจนบรรจบลำน้ำสงคราม จังหวัดบึงกาฬ บริเวณห้วยผาคาง ตำบลไคสี อำเภอเมืองบึงกาฬ เป็นต้น รวมทั้งให้เฝ้าระวังแนวกั้นน้ำชั่วคราวที่ได้ดำเนินการแล้วให้มีความมั่นคงเพื่อป้องกันพื้นที่ได้อย่างมีประสิทธิภาพ เตรียมความพร้อมทรัพยากร เช่น เรือท้องแบน เครื่องสูบน้ำ และชุดปฐมพยาบาล พร้อมจัดชุดเคลื่อนที่เร็วเพื่อเข้าช่วยเหลือและอพยพประชาชนได้ทันที รวมถึงการใช้ระบบแจ้งเตือนภัย เช่น Cell Broadcast (CB) ควบคู่กับช่องทางอื่น ๆ เพื่อให้ประชาชนได้รับข้อมูลที่ถูกต้องและทันสถานการณ์ และให้ใช้ศูนย์บริหารจัดการน้ำส่วนหน้า (ชั่วคราว) ในพื้นที่เสี่ยงอุทกภัยลุ่มน้ำโขงตะวันออกเฉียงเหนือ ณ จังหวัดหนองคาย เป็นศูนย์กลางบูรณาการข้อมูลสถานการณ์น้ำ และการประสานงานร่วมกับ สปป.ลาว อย่างต่อเนื่อง นอกจากนี้ ได้สั่งการให้ดำเนินการตามมาตรการรับมือฤดูฝน ปี 2568 อย่างเคร่งครัด เพื่อลดผลกระทบต่อประชาชนให้ได้มากที่สุด
ในส่วนของสถานการณ์น้ำในลุ่มน้ำยมและลุ่มน้ำน่าน ได้รับรายงานว่า ปัญหาอุทกภัยในจังหวัดสุโขทัยเริ่มคลี่คลายลงแล้ว โดยในภาพรวมมีแนวโน้มปริมาณน้ำลดลงเกือบทุกจุด แม้บางจุดยังอยู่ในเกณฑ์น้ำมากวิกฤตแต่ระดับน้ำกำลังลดลงอย่างต่อเนื่อง ซึ่งเป็นผลมาจากการบูรณาการทำงานร่วมกันของหน่วยงานที่เกี่ยวข้องตามข้อสั่งการที่ได้มอบหมายไว้ในการลงพื้นที่ตรวจราชการ เมื่อวันที่ 31 กรกฎาคม 2568 โดยกรมชลประทาน กรมทรัพยากรน้ำ และองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น ได้เร่งระบายน้ำท่วมขังออกจากพื้นที่ชุมชนและพื้นที่การเกษตรลงสู่คลองยม-น่าน พร้อมกันนี้ กรมชลประทานได้พิจารณาปรับลดการระบายน้ำในคลองยม-น่าน ให้สอดคล้องกับปริมาณการระบายน้ำจากพื้นที่ที่ได้รับผลกระทบ เพื่อให้สามารถดำเนินการซ่อมแซมคันคลองที่ชำรุดเสียหายได้แล้วเสร็จตามแผน ซึ่งขณะนี้บางจุดดำเนินการเสร็จเรียบร้อยแล้ว และจะมีการพิจารณาปรับเพิ่มปริมาณน้ำผ่านคลองยม-น่าน อีกครั้งหลังมีการซ่อมแซมครบทุกจุด เพื่อลดปริมาณน้ำที่ไหลผ่านประตูระบายน้ำหาดสะพานจันทร์ ช่วยบรรเทาสถานการณ์อุทกภัยในเขตตัวเมืองสุโขทัยให้ฟื้นฟูกลับสู่ภาวะปกติโดยเร็ว