โอกาสสุดท้าย อีกแค่เดือนเดียว รมว.ทส. “ดร.เฉลิมชัย” เตือนดังถึงทุกหน่วยงานที่ได้เข้าทำประโยชน์ในพื้นที่ป่าไม้ ก่อนได้รับอนุญาต และยังไม่ได้ยื่นคำขออนุญาต ต้องยื่นภายใน 25 ส.ค.68 กำชับให้รีบดำเนินการ ไม่มีผ่อนอีกแล้ว พร้อมชี้ต้องเป็นโครงการที่ได้เข้าทำประโยชน์ในพื้นที่ป่าไม้ก่อน 23 มิ.ย.63 เท่านั้น
ดร.เฉลิมชัย ศรีอ่อน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม (รมว.ทส.) เปิดเผยว่า ในวันที่ 25 สิงหาคม 2568 จะเป็นวันครบกำหนด 180 วัน ในการยื่นขอคำอนุญาต ตามมติคณะรัฐมนตรี เมื่อวันที่ 25 กุมภาพันธ์ 2568 เกี่ยวกับการผ่อนผันให้ส่วนราชการหรือหน่วยงานของรัฐที่ได้เข้าทำประโยชน์ในพื้นที่ป่าไม้ ก่อนได้รับอนุญาต และยังไม่ได้ยื่นคำขออนุญาตในระยะเวลาที่กำหนดตามมติคณะรัฐมนตรี ดังนั้น จึงขอให้ทุกส่วนราชการหรือหน่วยงานของรัฐที่เกี่ยวข้อง เร่งรัดดำเนินการยื่นคำขออนุญาตให้แล้วเสร็จโดยเร็ว ภายในวันที่ 25 สิงหาคม 2568 อย่างเคร่งครัด และโครงการที่ขอยื่นคำขออนุญาตได้ ต้องเป็นโครงการที่ได้เข้าทำประโยชน์ในพื้นที่ป่าไม้ ก่อนวันที่ 23 มิถุนายน 2563 เท่านั้น
ดร.เฉลิมชัย กล่าวต่อไปว่า ทั้งนี้ ในวันที่ 29 ก.ค. 2568 กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมโดยกรมป่าไม้ ได้จัดให้มีการประชุมเร่งรัดการดำเนินการ ตามมติคณะรัฐมนตรี เมื่อวันที่ 23 มิ.ย. 2563 มติคณะรัฐมนตรี เมื่อวันที่ 11 พ.ค. 2564 และมติคณะรัฐมนตรี เมื่อวันที่ 25 ก.พ. 2568 ขึ้นที่ โรงแรมอัศวิน แกรนด์ คอนเวนชั่น กรุงเทพมหานคร เพื่อเร่งรัด และชี้แจงขั้นตอนตลอดจนช่วยลดปัญหาความล่าช้า ในการนี้ได้เชิญผู้แทนส่วนราชการระดับกระทรวง กรม จังหวัด องค์การบริหารส่วนจังหัวด สันนิบาตเทศบาล สมาคมองค์การบริหารส่วนตำบล และผู้บริหารกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมเข้าร่วม
“ขอเรียนว่า กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม จะเปิดโอกาสเป็นครั้งสุดท้าย และคงไม่มีการผ่อนผันอีก และเมื่อยื่นคำขอแล้ว ส่วนราชการ ต้องประสานกับเจ้าหน้าที่กรมป่าไม้ในพื้นที่ จัดทำเอกสารที่เกี่ยวข้องให้ครบถ้วน จนได้รับอนุญาตแล้ว ถูกต้องตามระเบียบ พร้อมกันนี้ ขอให้ส่วนราชการต่าง ๆ ช่วยกันชี้แจง และประชาสัมพันธ์ให้ส่วนราชการหน่วยงานท้องถิ่น ที่ยังไม่ได้ยื่นคำขอการใช้พื้นที่ในเขตป่า เร่งดำเนินการให้ทันก่อนวันที่ 25 ส.ค. 2568 ตามที่กำหนด” ดร.เฉลิมชัย กล่าว
ดร.เฉลิมชัย กล่าวอีกว่า หลังจากวันที่ ๑๖ ธันวาคม ๒๕๖๗ กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ให้ส่วนราชการหรือหน่วยงานของรัฐ หรือองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น ดำเนินการสำรวจและรวบรวมข้อมูลโครงการที่ดำเนินการในเขตพื้นที่ป่าไม้ก่อนได้รับอนุญาต ทั้งนี้ ในวันที่ 23 มิถุนายน 2563 และวันที่ 11 พฤษภาคม 2564 มีส่วนราชการมายื่นขอ จำนวน 137,444 คำขอ และยังมีตกค้างอีกเป็นจำนวนมาก
“ดังนั้น เพื่อให้ส่วนราชการ หรือหน่วยงานของรัฐ ปฏิบัติงานได้เป็นไปตามระเบียบและกฎหมายกำหนด และประชาชนจะได้รับการพัฒนาสาธารณูปโภคขั้นพื้นฐานอย่างเท่าเทียมและเสมอภาค พร้อมลดขั้นตอนและเพิ่มประสิทธิภาพการให้บริการ ตลอดจนส่วนราชการหรือหน่วยงานของรัฐ ปฏิบัติภารกิจเป็นไปตามเป้าหมายของกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม จึงเห็นสมควรให้กรมป่าไม้ ดำเนินการขอขยายระยะเวลา ครม. โดยได้เสนอเรื่องผ่านไปยังเลขาธิการคณะรัฐมนตรี เพื่อนำเสนอเข้าที่ประชุมคณะรัฐมนตรีพิจารณาเกี่ยวกับการขอผ่อนผันการเข้าทำประโยชน์ในพื้นที่ป่าไม้ก่อนได้รับอนุญาตและยังไม่ได้ยื่นคำขออนุญาตในระยะเวลาตามมติคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่ 23 มิ.ย. 2563 และเมื่อวันที่ 11 พ.ค. 2564 และมติคณะรัฐมนตรีที่เกี่ยวข้อง และคณะรัฐมนตรีได้มีมติเมื่อวันที่ 25 ก.พ. 2568” ดร.เฉลิมชัย กล่าว
รมว.ทส. กล่าวเพิ่มเติมถึง 4 ประเด็นที่คณะรัฐมนตรีได้มีมติเมื่อวันที่ 25 ก.พ. 2568
“1. ผ่อนผันให้ส่วนราชการหรือหน่วยงานของรัฐ ที่ยื่นคำขอใน 2 รอบแรกไม่ทัน (7 ก.ย. 2564) ให้มายื่นคำขอภายใน 180 วัน นับจากวันที่ ครม. มีมติ (หมดเขตวันที่ 25 ส.ค. 2568) โดยได้รับการยกเว้นค่าปลูกป่าทดแทนตามมติคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่ ๒๙ ม.ค. ๒๕๕๖
2. ผ่อนผันให้ คณะกรรมการพิจารณาการใช้ประโยชน์ในเขตป่าสงวนแห่งชาติ เป็นผู้อนุมัติการใช้พื้นที่ป่าสงวนแห่งชาติที่อยู่ในเขตป่าเพื่อการอนุรักษ์เพิ่มเติม (Zone C) เฉพาะคำขอตามมติ ครม. เมื่อวันที่ 23 มิ.ย. 2563 มติ ครม. เมื่อวันที่ 11 พ.ค. 2564 และมติ ครม. เมื่อวันที่ 25 ก.พ. 2568 เท่านั้น
3. ผ่อนผันให้ใช้พื้นที่ลุ่มน้ำชั้น 1 เฉพาะคำขอตามมติ ครม. เมื่อวันที่ 23 มิ.ย. 2563 มติ ครม. เมื่อวันที่ 11 พ.ค. 2564 และมติ ครม. เมื่อวันที่ 25 ก.พ. 2568 โดยส่วนราชการฯ ผู้ขออนุญาตไม่ต้องเสนอคณะรัฐมนตรีเป็นรายกรณีอีก แต่ต้องจัดทำรายงานข้อมูลด้านสิ่งแวดล้อม (Environmental Accounting Report : EAR) กำหนด และต้องปฏิบัติตามมาตรการการใช้ที่ดินในพื้นที่ลุ่มน้ำชั้นที่ 1 เอ อย่างเคร่งครัด
4. ผ่อนผันให้ส่วนราชการหรือหน่วยงานของรัฐที่ได้ยื่นคำขออนุญาตตามมติ ครม. เมื่อวันที่ 23 มิ.ย. 2563 มติ ครม. เมื่อวันที่ 11 พ.ค. 2564 และมติ ครม. เมื่อวันที่ 25 ก.พ. 2568 ที่มีความจำเป็นเร่งด่วนที่จะต้องเข้าไปปรับปรุง ซ่อมแซม และบำรุงรักษาสิ่งปลูกสร้างในพื้นที่ ตามคำขออนุญาตที่ได้ยื่นไว้ตามแต่กรณี สามารถของบประมาณและเข้าไปดำเนินการดังกล่าวได้”
“ส่วนความคืบหน้าในการพิจารณาคำขออนุญาตเข้าทำประโยชน์ในเขตพื้นที่ป่าไม้ก่อนได้รับอนุญาต ตามมติคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่ 23 มิ.ย. 2563 และเมื่อวันที่ 11 พ.ค. 2564 ได้สั่งการให้กรมป่าไม้เร่งรัดการดำเนินการให้รวดเร็วและถูกต้องตามระเบียบ และที่กฎหมายกำหนดต่อไป” ดร.เฉลิมชัย กล่าว