“ชัยชนะ” รุกปั้น “หมอนวดแผนไทย” นำทีมกรมแพทย์แผนไทยฯ MOU ร่วมกับ 3 อปท.ใน 2 จังหวัดภาคใต้ตอนบน ช่วงวันที่ 18-21 ก.ค.นี้ ประเดิมเทศบาลเมืองปากพนังเป็นแห่งแรก ต่อด้วย อบต.ท่าศาลา และเทศบาลเมืองท่าข้าม เพื่อเฟ้นหาผู้เข้าฝึกอบรมหลักสูตรนวดไทยเพื่อสุขภาพ 150 ชั่วโมง ช่วยยกระดับมาตรฐานวิชาชีพนวดไทย สร้างงานสร้างรายได้ให้แก่ชุมชน พร้อมส่งออกหมอนวดสู่ต่างแดน
วันที่ 18 กรกฎาคม 2568 ที่เทศบาลเมืองปากพนัง จ.นครศรีธรรมราช นายชัยชนะ เดชเดโช รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงสาธารณสุข เป็นประธานพิธีลงนามบันทึกความเข้าใจ (MOU) เรื่องความร่วมมือในการฝึกอบรมเชิงปฏิบัติการนวดไทยเพื่อสุขภาพ 150 ชั่วโมง ระหว่าง นพ.เทวัญ ธานีรัตน์ รองอธิบดีกรมการแพทย์แผนไทยและการแพทย์ทางเลือก และนายขวัญชัย รอดมณี นายกเทศมนตรีเมืองปากพนัง โดยมีพยานร่วมลงนามคือ ดร.รัชนี จันทร์เกษ ผู้อำนวยการวิทยาลัยการนวดไทยแห่งประเทศไทย และ นพ.ดุษฎี คงตระกูลทรัพย์ นายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดนครศรีธรรมราช
นายชัยชนะกล่าวว่า การนวดไทยถือเป็นมรดกทางวัฒนธรรมที่ทรงคุณค่า สะท้อนภูมิปัญญาด้านสุขภาพของบรรพบุรุษไทย และได้รับการยอมรับระดับนานาชาติ ช่วยส่งเสริมการท่องเที่ยวเชิงสุขภาพ สร้างรายได้ให้แก่ประเทศและสร้างงานเพิ่มขึ้นให้แก่ประชาชนตามนโยบายเศรษฐกิจสุขภาพ ซึ่งปัจจุบันหลายประเทศมีความต้องการหมอนวดจากไทย เช่น อินโดนีเซีย มาเลเซีย ซาอุดีอาระเบีย เป็นต้น ทำให้ต้องมีการผลิตหมอนวดเพิ่มขึ้นเพื่อรองรับ ดังนั้น วิทยาลัยการนวดไทยแห่งประเทศไทย กรมการแพทย์แผนไทยและการแพทย์ทางเลือก จึงได้ MOU กับองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น (อปท.) เพื่อสนับสนุนให้คนในพื้นที่ได้เข้ามาเรียนอบรมหลักสูตรนวดไทยเพื่อสุขภาพ 150 ชั่วโมงและขึ้นทะเบียนเป็นหมอนวด ซึ่งสามารถส่งไปยังร้านนวดแผนไทยและส่งออกไปต่างประเทศได้ โดยเริ่มนำร่องลงนามกับ 3 อปท.ใน 2 จังหวัดภาคใต้ตอนบนก่อน โดยวันนี้ได้ทำ MOU กับเทศบาลเมืองปากพนัง จ.นครศรีธรรมราช เป็นแห่งแรก จากนั้นวันที่ 19 กรกฎาคม 2568 จะทำ MOU กับองค์การบริหารส่วนตำบล (อบต.) ท่าศาลา จ.นครศรีธรรมราช และวันที่ 21 กรกฎาคม 2568 ทำ MOU กับเทศบาลเมืองท่าข้าม จ.สุราษฎร์ธานี หลังจากนี้จะมีการทยอย MOU กับ อปท.ในพื้นที่จังหวัดต่างเพิ่มเติมต่อไป
“ความร่วมมือนี้เป็นการช่วยสนับสนุนการจัดอบรมหลักสูตรนวดไทยเพื่อสุขภาพ 150 ชั่วโมง ยกระดับมาตรฐานวิชาชีพการนวดไทยในชุมชน ส่งเสริมเศรษฐกิจชุมชนจากการประกอบอาชีพด้านการนวดไทย และสร้างเครือข่ายความร่วมมือระหว่างหน่วยงานภาครัฐกับท้องถิ่นในการพัฒนาด้านสุขภาพระดับประเทศ ที่สำคัญช่วยให้คนในชุมชนเข้าถึงบริการนวดไทยเพิ่มมากขึ้น” นายชัยชนะกล่าว
ด้าน นพ.เทวัญ กล่าวว่า วิทยาลัยการนวดไทยแห่งประเทศไทย กรมการแพทย์แผนไทยฯ มีบทบาทสำคัญในการพัฒนานวดไทยและสมุนไพรไทยให้มีคุณภาพและมาตรฐาน รับรองคุณภาพ และออกมาตรฐานการนวดไทย ส่งเสริมให้นวดไทยเป็นที่ยอมรับในประเทศและระดับสากล เพื่อเสริมภาพลักษณ์และสร้างความมั่นใจแก่ผู้รับบริการ สำหรับความร่วมมือในครั้งนี้มีเป้าหมายเพื่อส่งเสริมผู้เข้ารับการอบรมภายใต้หลักสูตร “การนวดไทยเพื่อสุขภาพ 150 ชั่วโมง” ให้มีความรู้ความสามารถในการให้บริการนวดไทยได้อย่างถูกต้องตามหลักวิชาการ มีคุณธรรม จริยธรรม และสามารถนำไปใช้ประกอบอาชีพได้อย่างยั่งยืน ครอบคลุมด้านการสนับสนุนสถานที่ อาจารย์ผู้สอน การจัดทำหลักสูตร ตลอดจนการรับรองผลการอบรม ซึ่งจะส่งผลดีต่อทั้งผู้เรียน ชุมชน และระบบสุขภาพโดยรวม และเป็นก้าวสำคัญในการส่งเสริมการพัฒนาอาชีพ กระตุ้นเศรษฐกิจของชุมชนต่อไป