รมช.สธ. “ชัยชนะ” ประเดิมงานแรก เยี่ยมชมมหกรรมสมุนไพรแห่งชาติ ครั้งที่ 22 พร้อมร่วม เป็นประธานและสักขีพยานงาน MOU ระหว่าง กรมการแพทย์แผนไทยฯ กับ ม.หัวเฉียวเฉลิมพระเกียรติ

กรมการแพทย์แผนไทยและการแพทย์ทางเลือก จับมือ มหาวิทยาลัยหัวเฉียวเฉลิมพระเกียรติ ลงนามบันทึก ความเข้าใจ MOU พัฒนาหลักสูตร วิทยาศาสตร์สุขภาพ การแพทย์แผนไทยและจีน ชี้เป็นก้าวสำคัญในด้านบูรณาการทรัพยากร – วิชาการ – การบริการสุขภาพ โดยมี รมช.สธ.ชัยชนะ ให้เกียรติร่วมเป็นประธานและสักขีพยานในงาน พร้อมมอบใบประกาศนียบัตรรับรองศูนย์เวลเนสอัตลักษณ์ไทย

วันที่ 4 กรกฎาคม 2568 ที่เวทีกลาง ในงานมหกรรมสมุนไพรแห่งชาติ ครั้งที่ 22 (Thailand Herbal Expo 2025) ภายใต้แนวคิด “ภูมิปัญญาไทย ซอฟต์พาวเวอร์ไทย สร้างเศรษฐกิจไทย” อิมแพ็ค เมืองทองธานี จัดขึ้นระหว่างวันที่ 2 – 6 กรกฎาคม 2568 โดยกรมการแพทย์แผนไทยและการแพทย์ทางเลือก ร่วมกับภาคีเครือข่าย โดยวันนี้ นายชัยชนะ เดชเดโช รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงสาธารณสุข ได้เดินทางมาเยี่ยมชมงานดังกล่าว พร้อมทั้งร่วม เป็นประธานและ สักขีพยานในพิธีลงนามบันทึกความเข้าใจ MOU ระหว่าง กรมการแพทย์แผนไทยและการแพทย์ทางเลือก กับ มหาวิทยาลัย หัวเฉียวเฉลิมพระเกียรติ พร้อมมอบใบประกาศนียบัตรรับรองศูนย์เวลเนสอัตลักษณ์ไทย นับเป็นการออกงานครั้งแรก หลังเข้ารับตำแหน่งรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงสาธารณสุข อย่างเป็นทางการ โดยมี นายแพทย์สมฤกษ์ จึงสมาน อธิบดีกรมการแพทย์แผนไทยและการแพทย์ทางเลือก พร้อมด้วยผู้บริหารกระทรวงสาธารณสุข และภาคีเครือข่ายการจัดงาน ให้การต้อนรับ

นายชัยชนะ กล่าวแสดงความยินดีในพิธีลงนามบันทึกความเข้าใจครั้งนี้ ว่า รู้สึกยินดีอย่างยิ่ง ที่ได้มีโอกาสร่วมเป็นประธานและสักขีพยาน ในพิธีลงนามบันทึกความเข้าใจ ระหว่างกรมการแพทย์แผนไทยและการแพทย์ทางเลือก กับมหาวิทยาลัยหัวเฉียวเฉลิมพระเกียรติในวันนี้ ซึ่งถือเป็นอีกหนึ่งก้าวสำคัญ ของการพัฒนาทางวิชาการด้านการแพทย์ แผนไทยและการแพทย์ทางเลือกของประเทศไทย ที่จะเป็นรากฐานที่มั่นคง ในการส่งเสริมการศึกษาวิจัยเชิงวิชาการ การแลกเปลี่ยนองค์ความรู้ และการพัฒนาศักยภาพบุคลากรในระดับที่ลึกซึ้งและยั่งยืนยิ่งขึ้น โดยเฉพาะอย่างยิ่ง ในยุคที่วิทยาศาสตร์สุขภาพแบบองค์รวม มีบทบาทสำคัญในการดูแลสุขภาพประชาชนความร่วมมือครั้งนี้ ไม่เพียงแต่จะช่วยขับเคลื่อนองค์ความรู้ ด้านการแพทย์แผนไทยและการแพทย์แผนจีน ให้มีหลักฐานเชิงประจักษ์และทันสมัย หากยังจะช่วยสร้างเวทีให้นักศึกษา นักวิจัย และบุคลากรด้านสุขภาพ ได้มีโอกาสพัฒนาอย่างเป็นระบบ อันจะนำไปสู่การยกระดับมาตรฐานทางวิชาการของประเทศในระดับสากล “ในนามกระทรวงสาธารณสุข กระผมขอแสดงความยินดีกับ ทั้งสองหน่วยงาน และขออวยพรให้ความร่วมมือทางวิชาการครั้งนี้ ประสบความสำเร็จอย่างดียิ่ง และเป็นประโยชน์ต่อระบบสุขภาพของประเทศโดยรวม”นายชัยชนะกล่าว

ทางด้าน นายแพทย์สมฤกษ์ จึงสมาน อธิบดีกรมการแพทย์แผนไทยและการแพทย์ทางเลือก กล่าวว่า การลงนามบันทึกความเข้าใจ ระหว่าง กรมการแพทย์แผนไทยและการแพทย์ทางเลือก กับ มหาวิทยาลัยหัวเฉียว เฉลิมพระเกียรติครั้งนี้ เชื่อว่าจะเป็นจุดเริ่มต้นของความร่วมมือที่ยั่งยืน เกิดประโยชน์อย่างแท้จริงแก่ทั้งสองหน่วยงาน และ ที่สำคัญ คือเป็นประโยชน์ต่อสุขภาพ และคุณภาพชีวิตของประชาชน โดยจะส่งเสริมความร่วมมือระหว่างกันทั้งในด้าน การพัฒนางานวิจัย การเรียนการสอน การบริการวิชาการ รวมถึง การยกระดับคลินิกการแพทย์แผนจีน และสถานบริการสุขภาพ ด้วยศาสตร์การแพทย์แผนไทยและแผนจีนให้มีมาตรฐาน และได้รับการยอมรับมากยิ่งขึ้น ทั้งยัง มุ่งเน้นการพัฒนาหลักสูตร ที่เกี่ยวข้องกับวิทยาศาสตร์สุขภาพ การแพทย์แผนไทยและจีน ตลอดจนวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี ที่สนับสนุนการแพทย์ทางเลือก และถือเป็นก้าวสำคัญในการบูรณาการทรัพยากร วิชาการ และองค์ความรู้ จากทั้งสองหน่วยงาน เพื่อสร้างประโยชน์แก่ประชาชนและสังคม โดยครอบคลุมถึงด้านวิชาการ งานวิจัย การบริการสุขภาพ การจัดกิจกรรมส่งเสริมสุขภาพและการแลกเปลี่ยนองค์ความรู้ รวมถึงการขยายผลสู่การพัฒนาเชิงพาณิชย์อย่างเหมาะสม ภายใต้กรอบ ของกฎหมายและจริยธรรม