กรมตรวจบัญชีสหกรณ์ ยกระดับระบบบัญชีและการตรวจสอบสหกรณ์ไทยสู่ยุคดิจิทัล

นายวิณะโรจน์ ทรัพย์ส่งสุข อธิบดีกรมตรวจบัญชีสหกรณ์ กล่าวว่า กรมตรวจบัญชีสหกรณ์ ในฐานะหน่วยงานกำกับดูแลด้านบัญชีของสหกรณ์และกลุ่มเกษตรกรทั่วประเทศ ได้มุ่งมั่นพัฒนาระบบบัญชีและการตรวจสอบให้มีความถูกต้อง โปร่งใส และตรวจสอบได้อย่างมีประสิทธิภาพ ด้วยการนำนวัตกรรมและเทคโนโลยีสารสนเทศมาใช้ในการยกระดับการทำงานอย่างต่อเนื่อง

เริ่มต้นตั้งแต่ช่วงปี พ.ศ. 2540–2545  กรมฯ นำระบบคอมพิวเตอร์มาใช้ในการปฏิบัติงาน และพัฒนาสู่ โปรแกรมระบบบัญชีสหกรณ์ครบวงจร (FAS) ซึ่งรองรับการจัดการด้านบัญชี การเงิน สมาชิก และสินเชื่อในระบบเดียว (One Stop Service) และกรมฯ ได้ต่อยอดพัฒนา CAD Innovations ซึ่งเป็นนวัตกรรมดิจิทัลที่สนับสนุนการบริหารจัดการข้อมูลทางบัญชี โดยมีระบบสำคัญคือ Smart4M 4 Application เพื่อให้กลุ่มเป้าหมายเข้าถึงข้อมูลได้อย่างสะดวก รวดเร็ว และโปร่งใส ได้แก่

SmartMe “เรารู้” Application สำหรับประชาชนทั่วไป ใช้บันทึกบัญชีรายรับ รายจ่ายในครัวเรือน และบัญชีต้นทุนอาชีพ เพื่อเสริมสร้างวินัยทางการเงิน

SmartMember “สมาชิกรู้” Application สำหรับสมาชิกสหกรณ์ ใช้ตรวจสอบข้อมูลทางการเงินของตนเอง และทำธุรกรรมกับสหกรณ์ ผ่าน Smartphone ของตนเอง เพื่อสร้างการมีส่วนร่วมและลดความเสี่ยงในการทุจริต

SmartManage “คณะกรรมการรู้” Application สำหรับคณะกรรมการสหกรณ์ ใช้ติดตามผลการดำเนินงานสถานะทางการเงิน สนับสนุนข้อมูลประกอบการตัดสินใจบริหารความเสี่ยงได้อย่างทันท่วงที

SmartMonitor “ผู้ตรวจสอบกิจการรู้” Application สำหรับผู้ตรวจสอบกิจการ ใช้ในการติดตาม ตรวจสอบและวิเคราะห์ความเคลื่อนไหวทางการเงิน รวมถึงที่มาและใช้ไปของเงินทุน

นอกจากนี้ กรมฯ ยังได้พัฒนา ระบบเฝ้าระวังและเตือนภัยทางการเงินของสหกรณ์และกลุ่มเกษตรกร (CFSAWS:ss V.2) ซึ่งเป็นเครื่องมือสำคัญในการเฝ้าระวังสถานะทางการเงินของสหกรณ์อย่างใกล้ชิด และสนับสนุนการวางแผนบริหารจัดการเชิงกลยุทธ์อย่างทันเวลาและแม่นยำ

อธิบดีกรมตรวจบัญชีสหกรณ์  กล่าวอีกว่า จากความก้าวหน้าเหล่านี้นำไปสู่การริเริ่มพัฒนา ระบบ Co-operative Core System (CCS)  ในปี 2569 ซึ่งเป็นระบบกลางที่เชื่อมโยงข้อมูลธุรกิจหลักของสหกรณ์แบบ Real-Time รองรับการติดตาม วิเคราะห์ และกำกับดูแลในระดับองค์กรจนถึงระดับประเทศ โดยมีเป้าหมายเพื่อยกระดับมาตรฐานการบริหารจัดการข้อมูลทางบัญชีภาคสหกรณ์ให้เทียบเท่าสากล ซึ่งสอดคล้องกับ วิสัยทัศน์ของกรมตรวจบัญชีสหกรณ์ ที่มุ่งสู่การเปลี่ยนผ่านสหกรณ์ไทยสู่ระบบเศรษฐกิจดิจิทัล เสริมสร้างความมั่นคงอย่างยั่งยืน ให้แก่ภาคการเกษตรและสหกรณ์ทั่วประเทศอย่างเป็นรูปธรรม