เมื่อวันที่ 1 กรกฎาคม 2568 ที่ทำเนียบรัฐบาล นายวราวุธ ศิลปอาชา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ (รมว.พม.) เปิดเผยว่า กระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ (พม.) ตระหนักถึงความสำคัญในการสร้างโอกาสให้กับประชาชนได้เข้าถึงที่อยู่อาศัยในราคาที่เหมาะสม โดยเฉพาะกลุ่มเปราะบางและผู้มีรายได้น้อย ที่ได้รับผลกระทบจากภาวะเศรษฐกิจชะลอตัว ถือเป็นกลุ่มที่มีความเสี่ยงในการดำรงชีวิตอย่างมั่นคงทั้งด้านเศรษฐกิจและสังคม จึงได้มอบนโยบายให้การเคหะแห่งชาติ (กคช.) เร่งดำเนินมาตรการเชิงรุกในการลดภาระค่าใช้จ่ายให้กับกลุ่มเปราะบางและผู้มีรายได้น้อย พร้อมขับเคลื่อนโครงการที่อยู่อาศัยเพื่อสังคมให้เกิดผลเป็นรูปธรรมอย่างชัดเจน โดยจัดโปรโมชั่นพิเศษ ด้วยการนำโครงการอาคารเช่า 30 โครงการทั่วประเทศ จำนวน 3,339 หน่วย มาลดค่าเช่าลง 200 – 500 บาทต่อเดือน จากปกติค่าเช่าเดือนละ 1,200 – 2,500 บาท เป็นระยะเวลา 6 เดือน ตั้งแต่วันที่ 1 กรกฎาคม 2568 – 31 ธันวาคม 2568 โดยต้องทำสัญญา ภายในวันที่ 1 กรกฎาคม 2568 – 30 สิงหาคม 2568 แล้วจะได้รับส่วนลดค่าเช่าถึงวันที่ 31 ธันวาคม 2568
สำหรับโครงการอาคารเช่า ที่เข้าร่วมโปรโมชั่นพิเศษนี้ มีทั้งพื้นที่กรุงเทพมหานครและปริมณฑล จำนวน 5 โครงการ รวม 541 หน่วย รวมถึงพื้นที่ภูมิภาคทั่วประเทศ จำนวน 25 โครงการ รวม 2,798 หน่วย ได้แก่ จ.พระนครศรีอยุธยา , จ.กาญจนบุรี, จ.สระบุรี, จ.ชลบุรี , จ.ระยอง, จ.อุดรธานี , จ.อุบลราชานี, จ.มหาสารคาม , จ.ลำปาง, จ.นครสวรรค์, จ. สุราษฎร์ธานี และ จ.สงขลา
กลุ่มเป้าหมายที่จะได้รับส่วนลดค่าเช่ามีด้วยกัน 4 กลุ่ม ได้แก่ 1) กลุ่มผู้สูงอายุที่มีอายุตั้งแต่ 60 ปีขึ้นไป และคนพิการที่มีบัตรประจำตัวคนพิการ มีรายได้ไม่เกิน 30,000 บาทต่อเดือน 2) กลุ่มผู้ถือบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ มีรายได้ไม่เกิน 100,000 บาทต่อปี 3) กลุ่มผู้จบการศึกษาใหม่ (First Jobber) อายุตั้งแต่ 18 – 29 ปี มีรายได้ไม่เกิน 30,000 บาทต่อเดือน และ 4) กลุ่มประชาชนทั่วไปที่มีอายุตั้งแต่ 20 ปีบริบูรณ์ขึ้นไป หรือบรรลุนิติภาวะโดยการแต่งงาน มีรายได้ไม่เกิน 30,000 บาทต่อเดือน ทั้งนี้ผู้เช่าต้องเป็นผู้มีสัญชาติไทยและบรรลุนิติภาวะแล้ว และไม่เป็นคู่สัญญาเดิมกับ กคช. เป็นระยะเวลา 6 เดือน
สำหรับการเช่า จะให้สิทธิเช่า 1 คนต่อ 1 ห้องต่อสัญญา มีขนาดครอบครัวไม่เกิน 4 คนต่อห้อง โดยวางเงินประกันการเช่าเพียง 1 เดือนของค่าเช่ารายเดือน และห้ามมิให้นำห้องไปเช่าช่วง หากพบภายหลังจะยกเลิกสิทธิและให้คืนห้อง แล้วทาง กคช. จะพิจารณาคุณสมบัติของผู้เช่าช่วงดังกล่าว ก่อนทำสัญญาต่อไป
ส่วนหลักฐานในการทำสัญญาเช่า ประกอบด้วย บัตรประจำตัวประชาชน (ตัวจริง) เพื่อใช้ยืนยันตัวบุคคลและใช้เป็นข้อมูลในการทำสัญญาตามข้อมูลทะเบียนราษฎร์ , ทะเบียนบ้านปัจจุบัน , หนังสือรับรองรายได้ , หนังสือมอบอำนาจ (กรณีทำการแทน) , หนังสือการเปลี่ยนชื่อ-สกุล (ถ้ามี) , หนังสือยินยอมจากผู้ปกครอง (กรณี First Jobber อายุ 18 – 19 ปี) หรือทะเบียนสมรส
ประชาชนผู้สนใจสามารถติดต่อและทำสัญญาเช่าได้ที่ สำนักงานใหญ่ การเคหะแห่งชาติ ถนนนวมินทร์ เขตบางกะปิ กรุงเทพฯ , สำนักงานเคหะนครหลวง และสำนักงานเคหะจังหวัดทั่วประเทศ หรือสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ Call Center โทร. 1615 , เว็บไซต์ : www.nha.co.th และ https://house.nha.co.th/ , แฟนเพจเฟซบุ๊ก : การเคหะแห่งชาติ และ เฟซบุ๊ก: ฝ่ายทรัพย์สินและอาคารเช่า
#ข่าวพม #พม #ศรส #esshelpme #5×5ฝ่าวิกฤติประชากร #พมหนึ่งเดียว #วราวุธศิลปอาชา #ศบปภ #พันธกิจสำคัญ9ด้าน #กคช #การเคหะแห่งชาติ #ห้องเช่า