สถานการณ์น้ำภาพรวมของประเทศ วันที่ 24 มิ.ย. 68 เวลา 7.00 น.

1. ปริมาณฝนสะสม 24 ชม. สูงสุด ได้แก่ ภาคเหนือ : จ.เชียงราย (100 มม.) ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ : จ.หนองคาย (76 มม.) ภาคตะวันตก : จ.กาญจนบุรี (26 มม.) ภาคกลาง : กรุงเทพมหานคร (23 มม.) ภาคตะวันออก : จ.ตราด (62 มม.) ภาคใต้ : จ.สุราษฎร์ธานี (97 มม.)

วันนี้ : มรสุมตะวันตกเฉียงใต้กำลังปานกลางพัดปกคลุมทะเลอันดามัน ประเทศไทย และอ่าวไทย ประกอบกับมีหย่อมความกดอากาศต่ำปกคลุมบริเวณประเทศลาวและเวียดนามตอนบน”ทำให้ประเทศไทยมีฝนฟ้าคะนองกระจายและมีฝน
ตกหนักบางแห่ง

คาดการณ์ : ช่วงวันที่ 25 – 27 มิ.ย. 68 ร่องมรสุมจะพาดผ่านภาคเหนือและภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ประกอบกับมรสุมตะวันตกเฉียงใต้ที่พัดปกคลุมทะเลอันดามัน ประเทศไทย และอ่าวไทยมีกำลังปานกลาง จะทำให้ประเทศไทยมีฝนเพิ่มขึ้นและมีฝนตกหนักบางแห่ง โดยมีฝนตกหนักมากในบางพื้นที่ของภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนบน ภาคตะวันออก และภาคใต้ฝั่งตะวันตก

2. คุณภาพน้ำ ณ จุดเฝ้าระวัง แม่น้ำสายหลัก :
น้ำเพื่อการอุปโภคบริโภค แม่น้ำเจ้าพระยา ณ สถานีสูบน้ำสำแล จ.ปทุมธานี อยู่ใน เกณฑ์มาตรฐาน
น้ำเพื่อการเกษตร แม่น้ำท่าจีน แม่น้ำแม่กลอง และแม่น้ำบางปะกง อยู่ใน เกณฑ์มาตรฐาน

3. สถานการณ์น้ำอ่างเก็บน้ำในภาพรวม : ปริมาณน้ำรวม 56% ของความจุเก็บกัก (45,209 ล้าน ลบ.ม.) ปริมาณน้ำใช้การ 36% (21,100 ล้าน ลบ.ม.)
สทนช. ขอให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องติดตามสถานการณ์น้ำอย่างใกล้ชิด และบริหารจัดการน้ำอย่างบูรณาการ เพื่อรองรับปริมาณน้ำที่อาจเพิ่มขึ้นในช่วงฤดูฝน โดยเน้นการลดความเสี่ยงจากอุทกภัยและเตรียมความพร้อมในทุกภาคส่วน พร้อมทั้งสร้างการรับรู้แก่ประชาชน ประชาสัมพันธ์การแจ้งเตือน และจัดเตรียมมาตรการช่วยเหลือผ่านช่องทางต่าง ๆ อย่างทั่วถึงและทันท่วงที

4. ข่าวประชาสัมพันธ์ : วานนี้ (23 มิ.ย. 68) ดร.สุรสีห์ กิตติมณฑล เลขาธิการสำนักงานทรัพยากรน้ำแห่งชาติ (สทนช.) เข้าร่วมการประชุมคณะทำงานเฉพาะกิจเพื่อประสานงานด้านอุทกภัยและโครงการเขื่อนไฟฟ้าพลังน้ำ (Ad-Hoc Joint Flood and Hydropower Coordination) ครั้งที่ 1 ร่วมกับผู้แทนจาก สปป.ลาว และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องณ โรงแรมเลอ เมอริเดียน จังหวัดเชียงราย จากนั้นได้ลงพื้นที่เยี่ยมชมโครงการความร่วมมือไทย-เมียนมาเพื่อบรรเทาอุทกภัยข้ามพรมแดนบริเวณแม่น้ำแม่สาย–น้ำรวก เพื่อแลกเปลี่ยนความคิดเห็นเกี่ยวกับโครงการและมาตรการบรรเทาอุทกภัยข้ามพรมแดน ตามลำดับ

การประชุมในครั้งนี้เป็นการประชุมครั้งแรกของคณะทำงานเฉพาะกิจฯ ระหว่างไทยและสปป.ลาว เพื่อให้เกิดการบริหารจัดการน้ำในแม่น้ำโขงช่วงฤดูฝนปี 2568”นี้ เนื่องจากสำนักงานเลขาธิการคณะกรรมการแม่น้ำโขง (MRCS)”คาดการณ์ว่าในช่วงเดือนกรกฎาคมจะมีปริมาณน้ำเพิ่มขึ้นในแม่น้ำโขง ส่งผลให้มีความเสี่ยงต่อการเกิดน้ำล้นตลิ่ง และอาจจะกระทบต่อประชาชนที่อาศัยอยู่บริเวณริมแม่น้ำโขงใน 4 จังหวัดของไทย ได้แก่ จังหวัดนครพนม จังหวัดหนองคาย จังหวัดมุกดาหาร และจังหวัดบึงกาฬ และในพื้นที่ของ สปป.ลาว เช่น เมืองเวียงจันทน์ เมืองปากเซ เป็นต้น คณะทำงานฯร่วมกันกำหนดแนวทางการดำเนินงาน รวมถึงแนวทางการบูรณาการบริหารจัดการน้ำกับโครงการไฟฟ้าพลังน้ำ ของสปป.ลาว เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการควบคุมระดับน้ำในแม่น้ำโขง การคาดการณ์พื้นที่เสี่ยงอุทกภัย โดยผนวกข้อมูลด้านสภาพอากาศ ทรัพยากรน้ำ และพลังงาน โดยคำนึงถึงความถูกต้องและแม่นยำมากที่สุด รวมถึงหารือแผนการสำรวจรูปตัดลำน้ำของแม่น้ำโขง และการสำรวจพื้นที่ลุ่มต่ำ เพื่อให้ได้ข้อมูลที่เป็นปัจจุบันสำหรับใช้ในการวางแผนและกำหนดมาตรการป้องกันน้ำท่วมที่เหมาะสม ซึ่งในการประชุม ฝ่ายไทยได้นำเสนอประเด็นเกี่ยวกับการบริหารจัดการทรัพยากรน้ำช่วงฤดูฝนของประเทศไทย ในหัวข้อ “Best Practices of Flood Management in Thailand” เพื่อแบ่งปันองค์ความรู้และประสบการณ์ในการบริหารจัดการน้ำเพื่อลดผลกระทบและความสูญเสีย