พังงา-จัดทีมกู้เรือสนับสนุน อช.หมู่เกาะสุรินทร์ กู้เรือเกยตื้นทับแนวปะการัง

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ทาง พลเรือโท สุวัจดอนสกุล ผอ.ศรชล.ภาค 3 สั่งการด่วนให้ ศรชล.ภาค 3 จัดทีมกู้เรือ MV. AYAR LINN สัญชาติ เมียนมา เกยตื้นทับแนวปะการัง บริเวณเกาะสุรินทร์ ออกจากแนวปะการังก่อนที่เรือจะสร้างความเสียหายให้กับปะการังให้เสียหายมากไปกว่าเดิม จากเหตุการณ์ เรือ MV.AYAR LINN เรือขนส่งสินค้าสัญชาติเมียนมาได้เกยตื้นทับแนวปะการังบริเวณอ่าวจาก หมู่เกาะสุรินทร์ เมื่อวันที่ 1 มิ.ย.68 ซึ่งปัจจุบันยังไม่สามารถกู้เรือได้ เนื่องจากสภาพอากาศไม่เอื้ออำนวยและยังมีปูนอยู่ในเรืออีกจำนวนมาก พลเรือโทสุวัจ ดอนสกุล ผอ.ศรชล.ภาค 3 จึงสั่งการให้เชิญหน่วยงานที่เกี่ยวข้องร่วมประชุมหารือกำหนดแนวทางการกู้เรือและฟื้นฟูปะการังที่ได้รับความเสียหาย 16 มิ.ย.68 ศรชล.ภาค 3 ได้ดำเนินการจัดประชุมติดตามความก้าวหน้าการดำเนินการกู้เรือ และกำหนดแนวทางการฟื้นฟูแนวปะการังที่เสียหาย ร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องประกอบด้วย ทรภ.3 จว.พังงา อุทยานแห่งชาติหมู่เกาะสุรินทร์ สำนักงานเจ้าท่าภูมิภาคสาขาพังงา มูลนิธิอนุรักษ์แนวปะการังและสิ่งมีชีวิตใต้ทะเลไทยในสมเด็จพระเจ้าลูกเธอเจ้าฟ้าสิริวัณณวลี นารีรัตน์ราชกัญญา โดยสรุปผลการประชุมดังนี้

สถานภาพของเรือ MV.AYAR LINN ปัจจุบันอยู่ในลักษณะอับปาง ตัวเรือจมนั่งแท่นทับอยู่หินปะการัง ด้วยน้ำหนักปูนถุงที่บรรทุกมาภายในเรือจำนวนประมาณ 3,000 ถุง ซึ่งอุทยานแห่งชาติหมู่เกาะสุรินทร์ได้ร่วมกับ นรภ.ทร.เกาะสุรินทร์ และชาวมอแกน (ชนพื้นเมือง) ขนย้ายถุงปูนดังกล่าว และพยายามสร้างแรงพยุงเรือด้วยบอลลูน ถังน้ำมัน 200 ลิตรจำนวน 100 ถัง แต่ยังไม่สามารถเคลื่อนย้ายเรือดังกล่าวได้ อุทยานแห่งชาติหมู่เกาะสุรินทร์ได้ร่วมกับนักวิชาการจากมหาลัยราชภัฎ จว.ภูเก็ต ดำน้ำสำรวจความเสียหายซึ่งมีความเสียหายเป็นแนวยาวประมาณ 75 เมตรสรุปดังนี้
1 ปะการังสีน้ำเงิน (Porites lutea): ได้รับความเสียหายมากที่สุด ประมาณร้อย 80 ของที่มีอยู่ในพื้นที่ ซึ่งปะการังชนิดนี้เติบโตช้ามาก (0.5 ซม./ปี) และฟื้นตัวตามธรรมชาติใช้เวลานาน (4-7 ปี)
2 ปะการังเขากวาง เสียหายประมาณร้อยละ 15 ของที่มีอยู่ในพื้นที่
3 ปะการังโชติเสียหายประมาณร้อยละ 15 ของที่มีอยู่ในพื้นที่
4 ปะการังสมองร่องสาร ปะการังดอกกะหล่ำ และปะการังดาวเหลี่ยมเสียหายน้อย

ที่ประชุมมีมติให้เร่งรัดการกู้เรือขึ้นไปเกยบริเวณชายหาดที่ใกล้เคียงไม่มีปะการังโดยเร็วที่สุด เมื่อกู้เรือเรียบร้อยจะร่วมกันสำรวจความเสียหายอีกครั้งและปลูกปะการังทดแทนในส่วนที่สามารถดำเนินการได้ และพิจารณาดำเนินการจัดทำโครงการปลูกปะการังสีน้ำเงินซึ่งเติบโตช้ามาก และการฟื้นตัวตามธรรมชาติใช้เวลานาน

ล่าสุดในวันที่ 18 – 20 มิ.ย.68 พลเรือโทสุวัจ ดอนสกุล ศรชล.ภาค 3 ได้สั่งการให้ ศรชล.ภาค 3 จัดทีมกู้เรือ ประกอบด้วย ร.ล.มันนอก ชปพ. และ จนท.ประดาน้ำ จำนวน 1 ชุด และ กำลังพลจำนวน 50 นาย จาก พัน สอ.22 และ พัน รฝ.11 เดินทางไปให้การสนับสนุน อุทยานแห่งชาติหมู่เกาะสุรินทร์ ในการขนย้ายถุงปูน และกู้เรือไปไว้บริเวณที่เหมาะสม

สำหรับการปฏิบัติงานในวันแรก 18 มิ.ย.68 ทีมกู้เรือที่เดินทางไปกับเรือหลวงมันนอก ได้สนับสนุนการปฏิบัติงานของ อช. หมู่เกาะสุรินทร์ ภายใต้สภาพอากาศที่มีคลื่นลมแรงพอสมควร สามารถขนถุงปูนออกจากเรือได้ 160 ถุง และสามารถผูกถัง 200 ลิตรพยุงตัวเรือได้จำนวน 40 ถัง และหยุดปฏิบัติภารกิจในวันนี้เมื่อเวลา 18:30 น.

ทางด้าน พลเรือเอกไพโรจน์ เฟื่องจันทร์ เลขาธิการ ศรชล. ได้ติดตามการปฏิบัติงานของทีมกู้เรือที่เดินทางไปกลับเรือหลวงบ้านนอกอย่างต่อเนื่อง กล่าวชื่นชมทีมกู้เรือว่ามีความเสียสละทำงานด้วยความเข้มแข็ง แต่อย่างไรก็ตามเนื่องจากต้องปฏิบัติงานภายใต้สภาพอากาศที่ค่อนข้างเลวร้าย มีคลื่นลมแรง จึงสั่งการให้ พลเรือโทสุวัจ ดอนสกุล ผอ.ศรชล.ภาค 3 กำกับดูแลการปฏิบัติงานของทีมกู้เรือให้เป็นไปด้วยความเรียบร้อย เน้นความปลอดภัยของชีวิตกำลังพล หากครบกำหนดถึงวันที่ 20 มิ.ย.68 แล้ว ยังไม่สามารถกู้เรือได้สำเร็จและยังต้องดำเนินการต่อให้ทำการสับเปลี่ยนกำลังพลชุดใหม่เข้าไปปฏิบัติงานทดแทน

ภาพข่าว
นายพงษ์ศักดิ์ ประทีป /โกอู๋@ผู้สื่อข่าวจังหวัดพังงา