สคทช. ลงพื้นที่ตรวจสอบข้อเท็จจริง เพื่อเร่งรัดแก้ไขปัญหาความเดือดร้อนของประชาชนจากการตรวจสอบและพิสูจน์สิทธิที่ในดิน พื้นที่จังหวัดกาญจนบุรี

วันที่ 7 มิถุนายน 2568 ดร.รวีวรรณ ภูริเดช ผู้อำนวยการสำนักงานคณกรรมการนโยบายที่ดินแห่งชาติ (ผอ.สคทช.) มอบหมายให้ นายณัฐวุฒิ เปลื้องทุกข์ ผู้ช่วย ผอ.สคทช. พร้อมด้วย นายมูฮัมหมาด ยังหะสัน ผู้อำนวยการกองที่ดินของรัฐ นางสาวภทรกช เหนือเกตุ ผู้อำนวยการศูนย์บริหารจัดการและแก้ไขปัญหาเรื่องร้องทุกข์ที่ดินและทรัพยากรดิน เข้าร่วมการประชุมและลงพื้นที่ร่วมกับคณะทำงานจากสำนักนายกรัฐมนตรีและหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เพื่อติดตามสถานการณ์ข้อพิพาทเกี่ยวกับสิทธิในที่ดินในพื้นที่อำเภอศรีสวัสดิ์ จังหวัดกาญจนบุรี ซึ่งส่งผลกระทบกับประชาชนที่ได้รับผลกระทบจากการสร้างเขื่อนศรีนครินทร์และอพยพย้ายที่อยู่อาศัยและที่ดินทำกินตามมติคณะรัฐมนตรี และประชาชนในพื้นที่กว่า 80,000 ไร่ โดยประชาชนจำนวนมากได้อาศัยและใช้ประโยชน์จากพื้นที่มาอย่างต่อเนื่อง แต่ยังไม่ได้รับการรับรองสิทธิอย่างถูกต้องตามกฎหมาย ส่งผลให้เกิดปัญหาข้อพิพาทกับหน่วยงานรัฐที่มีหน้าที่ดูแลพื้นที่ป่าอนุรักษ์และที่ดินสาธารณะ อันนำไปสู่ผลกระทบด้านที่อยู่อาศัย การประกอบอาชีพ และการเข้าถึงสวัสดิการของรัฐ โดยมี นายสมคิด เชื้อคง รองเลขาธิการนายกรัฐมนตรีฝ่ายการเมือง เป็นประธานการประชุมและการลงพื้นที่ครั้งนี้

นายสมคิด เชื้อคง รองเลขาธิการนายกฯ และคณะ พร้อมด้วยสำนักงานคณะกรรมการนโยบายที่ดินแห่งชาติ ได้ลงพื้นที่ตรวจสอบข้อเท็จจริง ร่วมกับหน่วยงานระดับจังหวัดและท้องถิ่น ได้แก่ สำนักงานที่ดินจังหวัด กรมการปกครอง กรมธนารักษ์ กรมป่าไม้ กรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืช รวมทั้งองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น เพื่อรวบรวมข้อมูลในเชิงประจักษ์ ตรวจสอบสภาพพื้นที่ เอกสารประกอบการครอบครองที่ดิน และรับฟังความคิดเห็นจากประชาชนในพื้นที่ที่ได้รับผลกระทบโดยตรง

ภายหลังจากการลงพื้นที่คณะได้ประชุมร่วมกัน ณ ห้องประชุมมุกดา 1 เขื่อนศรีนครินทร์ อำเภอศรีสวัสดิ์ จังหวัดกาญจนบุรี เพื่อสรุปผลการลงพื้นที่ วิเคราะห์ข้อมูลที่ได้รับ และพิจารณาแนวทางแก้ไขปัญหาทั้งในเชิงนโยบายและทางกฎหมาย โดยมีข้อเสนอเบื้องต้น ดังนี้

1.เพื่อให้เป็นไปตามเจตนารมณ์ของการเพิกถอนพื้นที่หวงห้ามเมื่อปี 2529 เห็นควรปรับแนวเขตอุทยานแห่งชาติเขื่อนศรีนครินทร์ ด้านทิศตะวันออกให้ชัดเจนยิ่งขึ้น

2. มอบหมายให้กรมที่ดินดำเนินการพิสูจน์สิทธิและออกเอกสารสิทธิให้กับประชาชน ในพื้นที่ที่ได้รับการเพิกถอนจากการเป็นที่หวงห้าม โดยผ่านความเห็นชอบจากคณะกรรมการนโยบายที่ดินแห่งชาติ (คทช.) ซึ่งครอบคลุมถึง
2.1 ราษฎรที่ได้รับผลกระทบจากการสร้างเขื่อนฯ
2.2 ราษฎรที่ตั้งถิ่นฐานในพื้นที่ก่อนประกาศเป็นที่หวงห้าม

ทั้งนี้ ให้สงวนพื้นที่ป่าที่สมบูรณ์ประมาณ 30,000 ไร่ ไว้เป็นสมบัติของชาติ

3. เสนอให้นำพื้นที่ที่เหลือจากการปรับแนวเขตอุทยานฯ ประมาณ 22,000 ไร่ ซึ่งมีลักษณะเป็นป่าราว 18,000 ไร่ มาพิจารณาประกาศเป็นเขตห้ามล่าสัตว์ป่าศรีสวัสดิ์ โดยผ่านการยินยอมของหน่วยงานที่มีอำนาจหน้าที่ตามกฎหมาย

4. มอบหมายให้สำนักงานคณะกรรมการนโยบายที่ดินแห่งชาติ (สคทช.) เป็นหน่วยงานหลักในการบูรณาการข้อมูล จัดทำแผนที่พื้นที่เป้าหมายและจัดทำรายงานเสนอคณะรัฐมนตรีเพื่อพิจารณาในขั้นตอนต่อไป

การประชุมและการลงพื้นที่ครั้งนี้สะท้อนถึงบทบาทเชิงรุกของรัฐบาลในการบูรณาการความร่วมมือทุกภาคส่วนเพื่อแก้ไขปัญหาความเดือดร้อนของประชาชนอย่างเป็นระบบโดยยึดหลักการมีส่วนร่วมของชุมชน สิทธิมนุษยชน และหลักนิติธรรม ซึ่ง สำนักงานคณะกรรมการนโยบายที่ดินแห่งชาติ ยืนยันเดินหน้าขับเคลื่อนนโยบายการจัดการที่ดินเพื่อความเป็นธรรม ลดความเหลื่อมล้ำ และสร้างหลักประกันในที่ดินทำกินและที่อยู่อาศัยของประชาชนอย่างยั่งยืน