นายธีทัต พิมพา รองอธิบดีกรมการศาสนา ผู้แทนอธิบดีกรมการศาสนา เปิดเผยว่า เมื่อวันที่ 6 – 8 พฤษภาคม 2568 (ที่ผ่านมา) กรมการศาสนาได้ร่วมกับวัดสังเวชวิศยาราม จัดอบรมมัคคุเทศก์น้อย ภายใต้โครงการจาริกเส้นทางบุญในมิติทางศาสนา ประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2568 โดยได้รับความเมตตาจากพระธรรมวชิโรดม (พล อาภากโร) เจ้าคณะภาค ๖ เจ้าอาวาสวัดสังเวชวิศยาราม ให้การสนับสนุนสถานที่ในการจัดกิจกรรม ณ วัดสังเวชวิศยาราม เขตพระนคร กรุงเทพมหานคร ซึ่งมีนักเรียนในระดับชั้นมัธยมศึกษา จากโรงเรียนสวนกุหลาบวิทยาลัย โรงเรียนมัธยมวัดมกุฏกษัตริย์ โรงเรียนปัญญาวรคุณ โรงเรียนวัดสังเวช และวิทยาลัยเทคโนโลยีตั้งตรงจิตรพณิชยการ เข้าร่วมกิจกรรม รวมจำนวน 50 คน
นายธีทัต พิมพา รองอธิบดีกรมการศาสนา กล่าวต่อไปว่า การจัดกิจกรรมได้มุ่งเน้นให้เด็ก ๆ ได้เรียนรู้เรื่องราวเกี่ยวกับประวัติศาสตร์ ความเป็นมา และความสำคัญของสถานที่ในย่านบางลำพู ได้แก่ วัดบวรนิเวศวิหาร วัดชนะสงคราม มัสยิดจักรพงษ์ พิพิธบางลำพู ป้อมพระสุเมรุ ซึ่งเป็นแหล่งท่องเที่ยวและเรียนรู้ทางประวัติศาสตร์ วิถีพหุวัฒนธรรมที่สำคัญของพื้นที่กรุงเทพมหานคร การจัดอบรมในครั้งนี้ได้เปิดโอกาสให้นักเรียนได้ฝึกทักษะด้านการพูด และการจัดทำสื่อเพื่อการประชาสัมพันธ์แหล่งท่องเที่ยวโดยใช้สื่อที่อยู่ในความนิยม เช่น TikTok
นายธีทัต พิมพา รองอธิบดีกรมการศาสนา กล่าวเพิ่มเติมว่า กิจกรรมอบรมมัคคุเทศก์น้อย ดำเนินงานตามนโยบายรัฐบาลและกระทรวงวัฒนธรรม ที่ต้องการส่งเสริมสถาบันศาสนาให้เป็นกลไกในการสร้างคุณธรรมและจริยธรรมในการดำเนินชีวิต ส่งเสริมให้ชุมชนนำทุนทางศาสนาและวัฒนธรรมมาสร้างอาชีพและรายได้ เพื่อให้เศรษฐกิจฐานรากเกิดความเข้มแข็ง รวมทั้งสร้าง “คน” ให้เป็นปัจจัยสำคัญในการขับเคลื่อนเศรษฐกิจวัฒนธรรมและสังคม ผ่านการบ่มเพาะคุณลักษณะของความสร้างสรรค์และต้นทุนชีวิตให้แก่เด็กและเยาวชน โดยมุ่งเน้นชูอัตลักษณ์วัฒนธรรมท้องถิ่น นำเสนอมุมมองที่น่าสนใจ ผ่านเรื่องเล่าของท้องถิ่นที่มีคุณค่าและลุ่มลึก รวมทั้งสร้าง Influencer ทูตวัฒนธรรมเยาวชนในท้องถิ่น การเป็นเจ้าบ้านที่ดีและสนับสนุนการท่องเที่ยวเชิงศาสนาและจิตวิญญาณ (Spiritual Tourism) นอกจากนี้ยังต้องการพัฒนาศักยภาพเด็กและเยาวชนในฐานะกลุ่มคนรุ่นใหม่ให้เกิดความรู้สึกผูกพันในชุมชน ได้เรียนรู้ประวัติความเป็นมาและความสำคัญของศาสนสถานและสถานที่สำคัญในชุมชน มีส่วนร่วมในการอนุรักษ์และพัฒนาแหล่งท่องเที่ยวในมิติทางศาสนาและวัฒนธรรม ฝึกฝนให้เด็กและเยาวชนได้รับการพัฒนาทักษะการสื่อสาร ความมั่นใจ และความเป็นผู้นำ ให้สามารถแนะนำประวัติความเป็นมา ความสำคัญของศาสนสถาน และแหล่งท่องเที่ยวที่สำคัญต่าง ๆ ในชุมชนได้อย่างถูกต้อง จะช่วยสร้างความประทับใจให้กับผู้มาเยือน อันจะนำไปสู่การพัฒนาการท่องเที่ยวในมิติทางศาสนาและวัฒนธรรมที่เข้มแข็งและยั่งยืนต่อไป