วันที่ 26 สิงหาคม 2562 ณ ห้องประชุมไชยานุกิจ ชั้น 3 คณะทำงานติดตามความรับผิดชอบของการลงทุนข้ามพรหมแดน (ETO Watch) พร้อมด้วยผู้ได้รับผลกระทบจากโครงการท่าเรือน้ำลึกและเขตเศรษฐกิจพิเศษทวาย ได้ขอเข้าพบพร้อมยื่นข้อเรียกร้องและข้อเสนอแนะกรณีการละเมิดสิทธิมนุษยชนบริเวณโครงการท่าเรือน้ำลึกและเขตเศรษฐกิจพิเศษทวาย ต่อนายสามารถ เจนชัยจิตรวนิช ผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำกระทรวงยุติธรรม พร้อมด้วยนายเกิดโชค เกษมวงศ์จิตร รองอธิบดีกรมคุ้มครองสิทธิและเสรีภาพ และนางสาวนรีลักษณ์ แพไชยภูมิ ผู้อำนวยการกองสิทธิมนุษยชนระหว่างประเทศ โดยขอให้กระทรวงยุติธรรม ในฐานะหน่วยงานหลักรับผิดชอบการขับเคลื่อนการดำเนินงานตามหลักการชี้แนะของสหประชาชาติว่าด้วยธุรกิจกับสิทธิมนุษยชนและการจัดทำแผนปฏิบัติการระดับชาติว่าด้วยธุรกิจกับสิทธิมนุษยชน พิจารณาแนวการแก้ไขปัญหาผลกระทบด้านสิทธิมนุษยชนจากโครงการท่าเรือน้ำลึกและเขตเศรษฐกิจพิเศษทวาย พร้อมทั้งเรียกร้องให้บรรจุกรณีโครงการท่าเรือน้ำลึกและเขตเศรษฐกิจพิเศษทวาย ลงในแผนปฏิบัติการระดับชาติว่าด้วยธุรกิจกับสิทธิมนุษยชนเป็นกรณีเร่งด่วน เพื่อให้ภาคส่วนต่างๆ ที่เกี่ยวข้องได้พิจารณาหาแนวทางแก้ไขร่วมกัน และจะได้เป็นกรณีตัวอย่างในการกำกับดูแลการลงทุนต่างประเทศของผู้ลงทุนสัญชาติไทยต่อไป
ในการนี้ กระทรวงยุติธรรม ได้แจ้งให้กลุ่มผู้ได้รับผลกระทบฯ ทราบถึงความคืบหน้าของการจัดทำแผนปฏิบัติการระดับชาติว่าด้วยธุรกิจกับสิทธิมนุษยชน ซึ่งปัจจุบันอยูระหว่างการนำเสนอรัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรมพิจารณาก่อนจะนำเสนอต่อคณะรัฐมนตรีเพื่อให้ความเห็นชอบและประกาศใช้อย่างเป็นทางการต่อไปในเร็ววันนี้ โดยประเด็นการลงทุนระหว่างประเทศและบรรษัทข้ามชาติเป็นหนึ่งในประเด็นหลักที่ได้รับการบรรจุไว้ในแผนปฏิบัติการฯ เรียบร้อยแล้ว ซึ่งในเบื้องต้น กระทรวงยุติธรรม โดยกรมคุ้มครองสิทธิและเสรีภาพ จะได้ดำเนินการ (1) จัดเวทีหารือระหว่างผู้มีส่วนเกี่ยวข้องทุกฝ่ายเพื่อหาทางแก้ปัญหาผลกระทบด้านสิทธิมนุษยชนจากการดำเนินโครงการฯ (2) จัดอบรมความรู้ในประเด็นธุรกิจกับสิทธิมนุษยชนให้กับเจ้าหน้าที่การทูตเพื่อจะได้ช่วยเฝ้าระวังการลงทุนของนักลงทุนไทยในต่างประเทศ (3) หารือร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเพื่อพิจารณาจัดตั้งกลไกกำกับดูแลการลงทุนของนักลงทุนไทยในต่างประเทศต่อไป
ทั้งนี้ การขับเคลื่อนงานด้านธุรกิจกับสิทธิมนุษยชนเป็นหนึ่งในนโยบายสำคัญภายใต้กรอบวาระแห่งชาติด้านสิทธิมนุษยชน อีกทั้งยังสอดคล้องกับนโยบายรัฐบาลในการส่งเสริมให้ภาคธุรกิจเคารพสิทธิมนุษยชนเพื่อสนับสนุนการขับเคลื่อนเศรษฐกิจทั้งในและต่างประเทศอย่างยั่งยืน ตลอดจนสอดคล้องกับนโยบายของนายสมศักดิ์ เทพสุทิน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม ในการอำนวยความยุติธรรมเพื่อให้ประชาชนทุกคน ทุกชนชั้น ทุกเชื้อชาติ เข้าถึงความยุติธรรมอย่างเสมอภาคและเท่าเทียมกัน