นางสาวทิวาพร ผาสุข รองอธิบดีกรมบัญชีกลาง ในฐานะโฆษกกรมบัญชีกลาง เปิดเผยว่า โครงการลงทะเบียนเพื่อสวัสดิการแห่งรัฐ ปี 2565 ผู้มีสิทธิสามารถใช้สิทธิผ่านบัตรประจำตัวประชาชนแบบสมาร์ทการ์ด ซึ่งในเดือนมิถุนายน 2567 จะได้รับสิทธิ ดังนี้
วันที่ 1 มิถุนายน 2567 (เป็นวงเงินสิทธิไม่สามารถถอนเป็นเงินสดได้ และไม่สะสมในเดือนถัดไป)
– วงเงินซื้อสินค้า 300 บาทต่อคนต่อเดือน
(สำหรับผู้มีสิทธิที่ยืนยันตัวตน 27 เม.ย. – 26 พ.ค. 67 และเริ่มใช้สิทธิได้ 1 มิ.ย. 67 จะไม่ได้รับสิทธิย้อนหลัง)
– วงเงินส่วนลดค่าซื้อก๊าซหุงต้ม 80 บาทต่อคนต่อ 3 เดือน (เม.ย. – มิ.ย. 67)
– วงเงินค่าเดินทางผ่านระบบขนส่งสาธารณะ 750 บาทต่อคนต่อเดือน
(ประกอบด้วย บขส. รถไฟ ขสมก. รถไฟฟ้า และรถโดยสารเอกชนที่เข้าร่วมโครงการ)
วันที่ 11 – 13 มิถุนายน 2567
– เงินสงเคราะห์เพื่อการยังชีพแก่ผู้สูงอายุที่มีรายได้น้อยที่ได้รับสิทธิในโครงการลงทะเบียนเพื่อสวัสดิการ
แห่งรัฐ ปี 2565 ประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2567 อัตรา 100 บาทต่อเดือน (เม.ย. – มิ.ย. 67)
วันเดือนปีเกิด | เดือนที่มีสิทธิ | จำนวนเงิน (บาท) |
เกิด ก่อน 1 เม.ย. 2507 | เม.ย. – มิ.ย. 67 | 300 |
เกิด ระหว่าง 1 – 30 เม.ย. 2507 | พ.ค. – มิ.ย. 67 | 200 |
เกิด ระหว่าง 1 – 31 พ.ค. 2507 | มิ.ย. 67 | 100 |
วันที่ 11 มิถุนายน 2567 สำหรับผู้มีสิทธิที่เกิดก่อนวันที่ 1 มกราคม 2495
วันที่ 12 มิถุนายน 2567 สำหรับผู้มีสิทธิที่เกิดระหว่างวันที่ 1 มกราคม 2495 – 31 ธันวาคม 2501
วันที่ 13 มิถุนายน 2567 สำหรับผู้มีสิทธิที่เกิดระหว่างวันที่ 1 มกราคม 2501 – 31 พฤษภาคม 2507
สำหรับผู้มีสิทธิที่ได้ทำการยืนยันตัวตน (e-KYC) แล้ว ภายในวันที่ 26 พฤษภาคม 2567 จะได้รับการโอนเงินผ่าน 2 ช่องทาง ดังนี้
(1) บัญชีร่วมกับบุคคลอื่นหรือบัญชีบุคคลอื่น ตามหนังสือให้ความยินยอมโอนเงินสวัสดิการเข้าบัญชีร่วมกับบุคคลอื่นสำหรับผู้ได้รับสิทธิโครงการลงทะเบียนเพื่อสวัสดิการแห่งรัฐ (เฉพาะกรณีผู้พิการ/ผู้ป่วยติดเตียง/และหรือผู้สูงอายุที่มีอายุเกิน 60 ปีขึ้นไป ที่ไม่สามารถเปิดบัญชีหรือผูกพร้อมเพย์ได้) หรือหนังสือให้ความยินยอมโอนเงินสวัสดิการเข้าบัญชีบุคคลอื่นสำหรับผู้ได้รับสิทธิโครงการลงทะเบียนเพื่อสวัสดิการแห่งรัฐ (เฉพาะกรณีผู้พิการ/ผู้ป่วย
ติดเตียง/และหรือผู้สูงอายุที่มีอายุเกิน 60 ปีขึ้นไปที่ไม่สามารถเปิดบัญชีหรือผูกพร้อมเพย์ได้) หรือ
(2) กรณีไม่มีบัญชีตาม (1) จะโอนเงินเข้าบัญชีพร้อมเพย์ที่ผูกกับเลขประจำตัวประชาชนของผู้มีสิทธิ
(ต้องผูกพร้อมเพย์ภายในวันที่ 5 มิ.ย. 67)
วันที่ 20 มิถุนายน 2567
– เงินเพิ่มเบี้ยความพิการ 200 บาทต่อเดือน
สำหรับผู้มีสิทธิที่เป็นคนพิการ ซึ่งมีบัตรประจำตัวคนพิการและได้รับเงินเบี้ยความพิการ 800 บาทต่อเดือน ที่ยืนยันตัวตน 27 เมษายน – 26 พฤษภาคม 2567 จะไม่ได้รับสิทธิย้อนหลัง (โอนเงินเข้าบัญชีเงินฝากธนาคารที่ผูกพร้อมเพย์ด้วยเลขประจำตัวประชาชน 13 หลักของผู้มีสิทธิหรือบัญชีเงินฝากธนาคารของผู้มีสิทธิหรือผู้รับมอบอำนาจที่ใช้รับเงินเบี้ยความพิการ 800 บาท)
กรมบัญชีกลางขอรายงานผลการจ่ายเงินสวัสดิการแห่งรัฐ ข้อมูลตั้งแต่วันที่ 1-31 พฤษภาคม 2567 ดังนี้
1. สวัสดิการที่ให้เป็นวงเงิน (บัตรประจำตัวประชาชน) | จำนวนเงิน (ล้านบาท) | |
1.1 | วงเงินค่าซื้อสินค้าอุปโภคบริโภค | 3,944.39 |
1.2 | วงเงินส่วนลดค่าซื้อก๊าซหุงต้ม | 35.49 |
1.3 | วงเงินค่าเดินทางผ่านระบบขนส่งสาธารณะ | 126.72 |
รวมจำนวนเงิน (1) | 4,106.60 | |
2. สวัสดิการที่ให้ผ่านระบบพร้อมเพย์ (บัตรประจำตัวประชาชน) | ||
2.1 | มาตรการเงินเพิ่มเบี้ยความพิการ ตามมติคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่ 28 ม.ค. 63 | 258.41 |
รวมจำนวนเงิน (2) | 258.41 | |
3. สวัสดิการที่จ่ายตรงผู้ให้บริการ | ||
3.1 | มาตรการบรรเทาภาระค่าไฟฟ้า | 147.57 |
3.2 | มาตรการบรรเทาภาระค่าน้ำประปา | 22.45 |
รวมจำนวนเงิน (3) | 170.02 | |
รวมจำนวนเงินทั้งสิ้น (1) + (2) + (3) | 4,535.04 |
“ทั้งนี้ สามารถสอบถามเพิ่มเติมได้ที่ Call Center ศูนย์ลูกค้าสัมพันธ์บัตรสวัสดิการแห่งรัฐ 0 2109 2345 หรือ Call บัญชีเงินสิทธิ Center กรมบัญชีกลาง 0 2270 6400 ในวัน เวลาราชการ” โฆษกกรมบัญชีกลาง กล่าว