ประเทศไทยยังคงมีฝนฟ้าคะนอง และมีฝนตกหนักบางแห่งในภาคกลางรวมทั้งกรุงเทพมหานครและปริมณฑล และภาคตะวันออก โดยมีฝนตกหนักมากบริเวณภาคใต้
ปริมาณฝนตกใน 24 ชั่วโมงที่ผ่านมา มีฝนตกหนักถึงหนักมากบริเวณ จ.ภูเก็ต (127 มม.) จ.ชลบุรี (86 มม.) กรุงเทพมหานคร (76 มม.) จ.แพร่ (60 มม.) จ.ศรีสะเกษ (57 มม.) จ.กาญจนบุรี (38 มม.)
ปริมาตรแหล่งน้ำทุกขนาด 50,741 ล้าน ลบ.ม. (62%) แหล่งน้ำขนาดใหญ่ 45,434 ล้าน ลบ.ม. (64%)
คุณภาพน้ำในแม่น้ำสายหลัก อยู่ในเกณฑ์ปกติทุกสถานี
กรมทรัพยากรน้ำ ดำเนินการส่งน้ำจากแม่น้ำน่าน-บึง ในระหว่างวันที่ 20-30 กันยายน 2566 โดยเร่งสูบส่งน้ำจากแม่น้ำน่านเข้าบึงบอระเพ็ด จ.นครสวรรค์ เพื่อรักษาระบบนิเวศในบึงบอระเพ็ดที่อยู่ในภาวะวิกฤติ เนื่องจากภาวะฝนทิ้งช่วงซึ่งเกิดจากสถานการณ์เอลนีโญ โดยสามารถ
เพิ่มปริมาณน้ำให้กับบึงบอระเพ็ดได้ 5.7 ล้านลูกบาศก์เมตร
กอนช. ประกาศเฝ้าระวังน้ำท่วมฉับพลัน น้ำล้นตลิ่ง และอ่างเก็บน้ำที่มีความเสี่ยง ในช่วงวันที่ 25 – 30 ก.ย. 66
1. พื้นที่เสี่ยงน้ำท่วมฉับพลัน น้ำป่าไหลหลาก และดินถล่ม
1.1 ภาคตะวันออก จ.ระยอง (อ.เมืองระยอง แกลง ปลวกแดง และเขาชะเมา) จ.จันทบุรี (อ.เมืองจันทบุรี มะขาม ท่าใหม่ สอยดาว เขาคิชฌกูฏ แหลมสิงห์ และขลุง) จ.ตราด (อ.เมืองตราด เขาสมิง บ่อไร่ เกาะกูด และเกาะช้าง)
1.2 ภาคใต้ จ.ชุมพร (อ.ท่าแซะ และพะโต๊ะ) จ.ระนอง (อ.เมืองระนอง กะเปอร์ ละอุ่น สุขสำราญ และกระบุรี) จ.พังงา (อ.เมืองพังงา คุระบุรี ตะกั่วป่า กะปง และท้ายเหมือง) จ.ภูเก็ต (อ.เมืองภูเก็ต กะทู้ และถลาง) จ.กระบี่ (อ.เมืองกระบี่ เขาพนม อ่าวลึก คลองท่อม ปลายพระยา และเกาะลันตา) จ.สุราษฎร์ธานี (อ.เมืองสุราษฎร์ธานี พนม บ้านตาขุน และเกาะพะงัน) จ.สตูล (อ.เมืองสตูล ควนโดน ควนกาหลง ทุ่งหว้า และมะนัง) จ.ตรัง (อ.เมืองตรัง ปะเหลียน นาโยง กันตัง ห้วยยอด หาดสำราญ รัษฎา และวังวิเศษ) จ.พัทลุง (อ.ป่าบอน และตะโหมด) จ.สงขลา (อ.สะเดา) จ.นครศรีธรรมราช (อ.ช้างกลาง พิปูน ฉวาง ทุ่งใหญ่ และถ้ำพรรณรา)
2. พื้นที่เสี่ยงน้ำล้นตลิ่งและท่วมพื้นที่ลุ่มต่ำ ริมแม่น้ำแควน้อย จ.พิษณุโลก แม่น้ำเจ้าพระยา จ.ชัยนาท อ่างทอง และพระนครศรีอยุธยา ลำน้ำก่ำ จ.นครพนม ลำเซบาย จ.ยโสธร แม่น้ำลำปาว อ.ศรีธาตุ จ.อุดรธานี อ.เมืองกาฬสินธุ์ จ.กาฬสินธุ์ ลำน้ำยัง อ.โพนทอง อ.เสลภูมิ จ.ร้อยเอ็ด
แม่น้ำมูล จ.อุบลราชธานี แม่น้ำตรัง จ.ตรัง แม่น้ำตาปี จ.สุราษฎร์ธานี
3. เฝ้าระวังอ่างเก็บน้ำขนาดใหญ่ ที่มีปริมาตรน้ำสูงกว่าเกณฑ์ปฏิบัติการอ่างเก็บน้ำกักเก็บสูงสุด (Upper Rule Curve) จำนวน 6 แห่ง ได้แก่ อ่างเก็บน้ำแม่งัดสมบูรณ์ชล จ.เชียงใหม่ อ่างเก็บน้ำห้วยหลวง จ.อุดรธานี อ่างเก็บน้ำน้ำพุง อ่างเก็บน้ำน้ำอูน และหนองหาร จ.สกลนคร อ่างเก็บน้ำลำปาว จ.กาฬสินธุ์ อ่างเก็บน้ำขนาดกลางและขนาดเล็กที่มีปริมาตรน้ำมากกว่าร้อยละ 80 และมีแนวโน้มเพิ่มสูงขึ้น เสี่ยงน้ำล้นกระทบพื้นที่บริเวณท้ายอ่างเก็บน้ำ
เพื่อเป็นการเตรียมความพร้อม ขอให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องโปรดดำเนินการ ดังนี้
1. ติดตามสภาพอากาศและสถานการณ์น้ำอย่างต่อเนื่อง
2. ตรวจสอบความมั่นคงแข็งแรงและความสามารถใช้งานของอ่างเก็บน้ำ อาคารบังคับน้ำ ซ่อมแซมแนวคันบริเวณริมแม่น้ำและกำจัดสิ่งกีดขวางทางน้ำ
3. ปรับแผนบริหารจัดการน้ำ อ่างเก็บน้ำ เขื่อนระบายน้ำ ประตูระบายน้ำ ระบบชลประทาน เพื่อบริหารจัดการน้ำให้สอดคล้องกับสถานการณ์ รวมทั้งจัดจราจรทางน้ำเพื่อหน่วงน้ำลดผลกระทบทางด้านท้ายน้ำ และคำนึงถึงการเก็บกักน้ำไว้ให้มากที่สุดสำหรับฤดูแล้งที่กำลังจะถึงนี้ด้วย