กรมบัญชีกลางมอบรางวัลคณะผู้บริหารการคลังประจำจังหวัด (คบจ.) ดีเด่น ประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2565

นางสาวกุลยา ตันติเตมิท อธิบดีกรมบัญชีกลาง เปิดเผยภายหลังพิธีมอบรางวัลคณะผู้บริหารการคลังประจำจังหวัด (คบจ.) ดีเด่น ประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2565 ว่า กรมบัญชีกลางจัดงานมอบรางวัล คบจ. ดีเด่น เป็นประจำ
ทุกปีมาอย่างต่อเนื่อง โดยในปีนี้ได้รับเกียรติจากนายบุญชัย จรัสแสงสมบูรณ์ รองปลัดกระทรวงการคลัง หัวหน้ากลุ่มด้านรายจ่ายและหนี้สิน เป็นประธานมอบรางวัล คบจ. ดีเด่น ในวันศุกร์ที่ 15 กันยายน 2566 ณ ห้อง Grand Ballroom ชั้น 1 โรงแรมรามา การ์เด้นส์ กรุงเทพมหานคร เป็นการมอบรางวัลให้แก่คณะผู้บริหารการคลังประจำจังหวัด ประกอบด้วย หัวหน้าส่วนราชการ รัฐวิสาหกิจ และหน่วยงานในกำกับของกระทรวงการคลังในส่วนภูมิภาค

โดยมีคลังจังหวัดเป็นประธาน ด้วยการทำงานแบบบูรณาการในนามกระทรวงการคลังทั้งในส่วนของภารกิจหน่วยงาและภารกิจเชิงพื้นที่ไว้ด้วยกัน มุ่งหวังแก้ไขปัญหาระดับพื้นที่เป็นหลัก ซึ่งเป็นการนำนโยบายของกระทรวงการคลังสู่การปฏิบัติในส่วนภูมิภาคจนเกิดผลเป็นรูปธรรม เช่น การแก้ไขเศรษฐกิจฐานราก โครงการ National e-Payment การเร่งรัดการเบิกจ่ายงบประมาณภาครัฐ และการจัดทำโครงการที่สอดรับกับยุทธศาสตร์ของจังหวัดหรือความต้องการของพื้นที่ ตลอดจนนโยบายเร่งด่วนของรัฐบาล โดยการขับเคลื่อนของทีมเฉพาะกิจวายุภักษ์เพื่อการแปลงยุทธศาสตร์กระทรวงการคลังสู่ภูมิภาค ซึ่งมีปลัดกระทรวงการคลังเป็นประธาน หัวหน้าหน่วยงาน ในสังกัดกระทรวงการคลัง ผู้แทนจากธนาคารแห่งประเทศไทย สำนักงานสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ ผู้ทรงคุณวุฒิ เป็นกรรมการ และมีที่ปรึกษาด้านพัฒนาระบบการเงินการคลังของกรมบัญชีกลาง เป็นกรรมการและเลขานุการ

อธิบดีกรมบัญชีกลาง กล่าวเพิ่มเติมว่า ในปีงบประมาณ พ.ศ. 2565 ทีมเฉพาะกิจวายุภักษ์เพื่อการแปลงยุทธศาสตร์กระทรวงการคลังสู่ภูมิภาค ได้สนับสนุนและติดตามการทำงานของ คบจ. เพื่อส่งเสริมการปฏิบัติงานด้านการเงินการคลังของส่วนราชการและรัฐวิสาหกิจใน คบจ. ที่ได้รับมอบหมาย ให้มีประสิทธิภาพและประสิทธิผล โดยกำหนดหลักเกณฑ์การพิจารณาการประเมินผลการดำเนินงาน แบ่งออกเป็น 3 ด้าน ได้แก่

1. ด้านนโยบายการดำเนินงานที่สอดรับกับนโยบายรัฐบาล/กระทรวงการคลัง (Top down/Agenda Based)

2. ด้านนโยบายการดำเนินงานที่สอดรับกับยุทธศาสตร์จังหวัดหรือความต้องการของพื้นที่ (Area Based)

3. งานตามภารกิจหลัก (Function Based) ของหน่วยงาน

ซึ่งจากเกณฑ์การพิจารณา คบจ. ดีเด่น ได้แสดงให้เห็นว่า คบจ. สามารถดำเนินภารกิจได้อย่างมีประสิทธิภาพ และสามารถดำเนินนโยบายรัฐบาลต่าง ๆ ให้บรรลุตามวัตถุประสงค์ จึงเห็นสมควรมอบรางวัลเพื่อเป็นการเชิดชูเกียรติและขวัญกำลังใจแก่ คบจ.ที่มีผลการดำเนินงานในปีงบประมาณ พ.ศ. 2565 ผ่านเกณฑ์การประเมิน คบจ. ดีเด่น แบ่งเป็น 2 ประเภทรางวัล ได้แก่ รางวัล คบจ. ดีเด่น และรางวัลพิเศษเฉพาะด้าน ซึ่งในปีงบประมาณ พ.ศ. 2565 มี คบจ. ที่ผ่านเกณฑ์การพิจารณา จำนวน76 จังหวัด ได้แก่ รางวัลที่ 1 จำนวน 14 จังหวัด ได้แก่ คบจ. ชัยนาท สุรินทร์ อำนาจเจริญ นครพนม มหาสารคาม ร้อยเอ็ด สกลนคร น่าน ลำปาง ลำพูน อุตรดิตถ์ ปัตตานี พัทลุง และยะลา และรางวัลพิเศษเฉพาะด้าน จำนวน 62 จังหวัด ได้แก่คบจ. นนทบุรี ปทุมธานี พระนครศรีอยุธยา ลพบุรี สระบุรี สิงห์บุรี อ่างทอง จันทบุรี ฉะเชิงเทรา ชลบุรี ตราด นครนายก ปราจีนบุรี ระยอง สมุทรปราการ สระแก้ว ชัยภูมิ นครราชสีมา บุรีรัมย์ ยโสธร ศรีสะเกษ อุบลราชธานี กาฬสินธุ์ ขอนแก่นบึงกาฬ มุกดาหาร เลย หนองคาย หนองบัวลำภู อุดรธานี เชียงราย เชียงใหม่ พะเยา แพร่ แม่ฮ่องสอน กำแพงเพชร ตาก นครสวรรค์ พิจิตร พิษณุโลก เพชรบูรณ์ สุโขทัย อุทัยธานี กาญจนบุรี นครปฐม ประจวบคีรีขันธ์ เพชรบุรี ราชบุรี สมุทรสงคราม สมุทรสาคร สุพรรณบุรี กระบี่ ชุมพร นครศรีธรรมราช พังงา ภูเก็ต ระนอง สุราษฎร์ธานี ตรัง นราธิวาส สงขลา และสตูล

“การมอบรางวัลในครั้งนี้ เป็นการเชิดชูเกียรติและขวัญกำลังใจให้แก่ คบจ. รวมทั้งเผยแพร่บทบาทและหน้าที่ของ คบจ. ให้หน่วยงานภาครัฐ รัฐวิสาหกิจ และประชาชนได้รับทราบ เพื่อเป็นต้นแบบในการปฏิบัติงานให้กับ คบจ. อื่น ๆ นำไปประพฤติปฏิบัติตาม เนื่องจาก คบจ. เป็นฟันเฟืองที่สำคัญในการขับเคลื่อนนโยบายของกระทรวงการคลังและรัฐบาลลงสู่ภูมิภาค และเป็นกลไกในการบริหารงานของส่วนราชการ รวมทั้งสามารถบริหารจัดการ การใช้จ่ายเงินของส่วนราชการให้เกิดประโยชน์ต่อประเทศและประชาชนสูงสุด” อธิบดีกรมบัญชีกลาง กล่าว