1. ผลการดำเนินงานตาม 12 มาตรการ รองรับฤดูฝน ปี 2566
กรมชลประทาน ลงพื้นที่ติดตามสถานการณ์น้ำและการบริหารจัดการน้ำในเขตพื้นที่คลองบางพระครูอำเภอนครหลวง จังหวัดพระนครศรีอยุธยา และคลองมะขามเฒ่า – อู่ทอง อำเภอ อําเภอดอนเจดีย์ จังหวัดสุพรรณบุรี เพื่อให้การบริหารจัดการน้ำมีประสิทธิภาพ และสอดคล้องกับสถานการณ์ปัจจุบัน
2. สภาพอากาศและการคาดการณ์
ในช่วงวันที่ 4 – 7 ส.ค. 66 มรสุมตะวันตกเฉียงใต้กำลังค่อนข้างแรงที่พัดปกคลุมทะเลอันดามัน ประเทศไทยและอ่าวไทยจะมีกำลังอ่อนลง ทำให้ประเทศไทยจะมีฝนลดลง แต่ยังคงมีฝนตกหนักบางแห่งในภาคเหนือ
ภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนบน ภาคตะวันออก และภาคใต้ฝั่งตะวันตก ส่วนในช่วงวันที่ 8 – 9 ส.ค. 66 ร่องมรสุมพาดผ่านประเทศเมียนมาตอนบน และประเทศลาวตอนบน เข้าสู่หย่อมความกดอากาศต่ำบริเวณชายฝั่งประเทศเวียดนามตอนบน ประกอบกับมรสุมตะวันตกเฉียงใต้กำลังปานกลางพัดปกคลุมทะเลอันดามัน ประเทศไทย ทำให้ประเทศไทยยังคงมีฝนตกหนักบางแห่ง โดยบริเวณภาคเหนือและภาคตะวันออกเฉียงเหนือมีฝนเพิ่มขึ้น
3. การบริหารจัดการน้ำ การสร้างการรับรู้และประชาสัมพันธ์
3.1 เมื่อวันที่ 3 สิงหาคม 2566 สำนักงานทรัพยากรน้ำแห่งชาติ (สทนช.) ในฐานะเลขานุการกองอำนวยการน้ำแห่งชาติ ได้จัดโครงการฝึกซ้อมแผนเผชิญเหตุตั้งศูนย์ส่วนหน้าฯ ณ โรงแรม โอทู ลพบุรี ตำบลท่าศาลา อำเภอเมืองลพบุรี จังหวัดลพบุรี ตามมาตรการที่ 8 ซักซ้อมแผนเผชิญเหตุ ตั้งศูนย์ส่วนหน้าก่อนเกิดภัยและฟื้นฟูสภาพให้กลับสู่สภาพปกติ (ตลอดช่วงฤดูฝน) ใน 12 มาตรการรับมือฤดูฝน ปี 2566 โดยมีผู้แทนจากหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเข้าร่วมการฝึกในครั้งนี้
3.2 เมื่อวันที่ 3 สิงหาคม 2566 ดร.สุรสีห์ กิตติมณฑล เลขาธิการสำนักงานทรัพยากรน้ำแห่งชาติ (สทนช.)ในฐานะรองผู้อำนวยการกองอำนวยการน้ำแห่งชาติ (กอนช.) เปิดเผยภายหลังเป็นประธานการประชุมการประเมินสถานการณ์น้ำ กอนช. ณ อาคารจุฑามาศ สำนักงานทรัพยากรน้ำแห่งชาติ ถ.วิภาวดีรังสิต โดยมีหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เข้าร่วมการประชุมผ่านสื่ออิเล็กทรอนิกส์ ว่า เนื่องจากในช่วงนี้มีร่องมรสุมพาดผ่านในพื้นที่ตอนบนของประเทศ
ส่งผลให้มรสุมตะวันตกเฉียงใต้มีกำลังแรงขึ้น ทำให้มีปริมาณฝนเพิ่มมากขึ้นในพื้นที่ภาคเหนือตอนบน ชายขอบของภาคตะวันออกเฉียงเหนือ รวมถึงภาคตะวันออก และภาคใต้ฝั่งตะวันตก
โดย กอนช. ได้มีการประกาศแจ้งเตือนพื้นที่เสี่ยงน้ำท่วมฉับพลัน น้ำป่าไหลหลาก และได้ประสานหน่วยงานที่เกี่ยวข้องในการให้ความช่วยเหลือประชาชนอย่างเต็มที่ โดยช่วงที่ผ่านมามีพื้นที่ประสบอุทกภัยใน 4 จังหวัด ได้แก่ จ.ตาก จ.อำนาจเจริญ จ.นครพนม จ.อุดรธานี ซึ่งคาดว่าสถานการณ์น้ำจะคลี่คลายกลับสู่ภาวะปกติในเร็ววันนี้
อย่างไรก็ตาม นับเป็นสัญญาณดีที่มีฝนตกมากขึ้นซึ่งช่วยเพิ่มความชุ่มชื้นให้หลายพื้นที่และเพิ่มปริมาณน้ำต้นทุนให้อ่างเก็บน้ำต่าง ๆ โดยเฉพาะอ่างฯ ที่มีปริมาณน้ำน้อย เช่น เขื่อนสิริกิติ์ เชื่อนภูมิพล เป็นต้น โดยในช่วงวันที่ 27 ก.ค. – 2 ส.ค. 66 มีปริมาณน้ำไหลเข้าอ่างฯ รวม 1,221ล้านลูกบาศก์เมตร (ลบ.ม.) แต่ยังคงต่ำกว่าที่คาดการณ์ไว้ ประกอบกับพื้นที่ตอนกลางของประเทศและ ภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนล่าง ยังคงมีฝนค่อนข้างน้อยกว่าปกติ และมีแนวโน้มประสบปัญหาภัยแล้ง จึงจำเป็นต้องติดตามเฝ้าระวังสถานการณ์อย่างใกล้ชิดเพื่อเตรียมพร้อมให้ความช่วยเหลือประชาชน