ประเทศไทยมีฝนเพิ่มขึ้นและมีฝนตกหนักบางแห่ง โดยมีฝนตกหนักมากบริเวณภาคตะวันออกเฉียงเหนือ และภาคตะวันออก
ปริมาณฝนตกใน 24 ชั่วโมงที่ผ่านมา มีฝนตกปานกลางถึงหนักมากบริเวณ จ.บึงกาฬ (150) จ.กาญจนบุรี (115) จ.จันทบุรี (104) จ.สตูล (99) จ.เชียงราย (76) จ.ปทุมธานี (28)
ปริมาตรแหล่งน้ำทุกขนาด 40,929 ล้าน ลบ.ม. (50%) แหล่งน้ำขนาดใหญ่ 36,330 ล้าน ลบ.ม. (51%)
คุณภาพน้ำในแม่น้ำสายหลัก อยู่ในเกณฑ์ปกติทุกสถานี
กรมฝนหลวงและการบินเกษตร (29 ก.ค. 66) ปฏิบัติการฝนหลวง ทำให้มีฝนตกเล็กน้อยบริเวณ ในพื้นที่ จ.สุรินทร์ (อ.ท่าตูม และรัตนบุรี) จ.ยโสธร (อ.ป่าติ้ว และไทยเจริญ) จ.อำนาจเจริญ (อ.เมืองอำนาจเจริญ) และในพื้นที่ลุ่มรับน้ำอ่างเก็บน้ำประแสร์ อ่างเก็บน้ำคลองระโอก จ.ระยอง อ่างเก็บน้ำคลองศาลทราย จ.จันทบุรี
กอนช. ประกาศ เฝ้าระวังน้ำท่วมฉับพลัน น้ำป่าไหลหลาก ฉบับที่ 12/2566 ในช่วงวันที่ 29 ก.ค. – 2 ส.ค. 66 ดังนี้ ภาคเหนือ จ.ตาก และอุทัยธานี ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ จ.ชัยภูมิ หนองคาย บึงกาฬ นครพนม สกลนคร ร้อยเอ็ด บุรีรัมย์ สุรินทร์ ศรีสะเกษ และอุบลราชธานี ภาคตะวันออก จ.ฉะเชิงเทรา ชลบุรี ระยอง จันทบุรี และตราด ภาคใต้ จ.ระนอง พังงา ภูเก็ต กระบี่ สุราษฎร์ธานี และนครศรีธรรมราช
สทนช. ลงพื้นที่แก้ปัญหาน้ำท่วม จังหวัดสมุทรปราการ เพิ่มประสิทธิภาพการระบายน้ำเชื่อมต่อกรุงเทพมหานคร
วันที่ 30 กรกฎาคม 2566 ดร.สุรสีห์ กิตติมณฑล เลขาธิการ สทนช. ในฐานะรองผู้อำนวยการ กอนช. ลงพื้นที่ติดตามสถานการณ์น้ำพื้นที่คลองสำโรง ณ จ.สมุทรปราการ พร้อมด้วยหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ได้แก่ กรมชลประทาน จ.สมุทรปราการ กทม.และผู้แทนจาก ทต.สำโรงเหนือ ด่านสำโรง ปู่เจ้า และบางเมือง พบว่าในช่วงฤดูฝนแต่ละปีพื้นที่ จ.สมุทรปราการ มักประสบปัญหาน้ำท่วมขังรอการระบายจากฝนที่ตกในพื้นที่ แผ่นดินทรุด รวมถึงน้ำทะเลหนุนสูง โดยเฉพาะพื้นที่เศรษฐกิจ และเส้นทางคมนาคมหลัก จุดเชื่อมต่อการระบายน้ำต่างๆ ยังทำได้ไม่ดีหากมีปริมาณฝนตกมาก ซึ่งในส่วนแผนงานโครงการการพัฒนาแผนหลักการแก้ไขปัญหาน้ำท่วมพื้นที่ มีความเกี่ยวข้องกับหลายหน่วยงาน
ดังนั้น สทนช.จะเร่งบูรณาการหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเพื่อให้การบริหารจัดการน้ำและเร่งระบายน้ำของ จ.สมุทรปราการ ลงสู่แม่น้ำเจ้าพระยาออกสู่ทะเลให้เกิดประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น โดยเฉพาะการแก้ไขปัญหาระยะสั้น ซี่งในช่วงที่ผ่านมาในพื้นที่นี้ประสบปัญหาน้ำท่วมขัง เช่น ชุมชนย่านแบริ่ง ถ.ศรีนครินทร์ เป็นต้น ส่งผลกระทบกับพี่น้องประชาชนและการสัญจรเบื้องต้นได้มอบหมายให้กรมชลประทาน และจังหวัดร่วมกันพิจารณาการเพิ่มประสิทธิภาพการระบายน้ำคลองสำโรงเพื่อให้การระบายน้ำได้เร็วขึ้น ทั้งนี้ ยังมีสถานีสูบน้ำคลองสำโรงที่รับน้ำจากพื้นที่ กทม. ซึ่งเครื่องสูบน้ำที่มีอยู่ 25 เครื่องขณะนี้มีประสิทธิภาพใช้งานได้ แต่ยังมีหลายจุดที่ยังเป็นข้อจำกัดและอุปสรรคต่อการระบายน้ำ โดย สทนช. จะประสานหน่วยงานที่เกี่ยวข้องปรับแผนงานที่สามาถดำเนินการได้ทันทีในช่วงฝนนี้ก่อน คู่ขนานไปกับการพิจารณาแนวทางที่ทำให้เกิดความยั่งยืนมากขึ้น