ประเทศไทยมีฝนเพิ่มขึ้น และมีฝนตกหนักบางแห่ง ในภาคเหนือ และภาคตะวันออก โดยมีฝนตกหนักมากในภาคตะวันออกเฉียงเหนือ
ปริมาณฝนตกใน 24 ชั่วโมงที่ผ่านมา มีฝนตกปานกลางถึงหนักมากบริเวณ จ.เชียงราย (83) จ.แพร่ (143) จ.นครศรีธรรมราช (113) จ.เลย (82) จ.ตราด (82) จ.กาญจนบุรี (52) จ.ปทุมธานี (24)
ปริมาตรแหล่งน้ำทุกขนาด 41,132 ล้าน ลบ.ม. (50%) แหล่งน้ำขนาดใหญ่ 36,733 ล้าน ลบ.ม. (51%)
คุณภาพน้ำในแม่น้ำสายหลัก อยู่ในเกณฑ์ปกติทุกสถานี
พื้นที่เสี่ยงเฝ้าระวังน้ำหลากในช่วง 1-3 วัน ได้แก่ บริเวณ จ.เชียงราย เชียงใหม่ น่าน แพร่ และตาก
กรมทรัพยากรน้ำ ร่วมกับ อบต.เนินกว้าว ติดตั้งเครื่องสูบน้ำขนาด 12 นิ้ว จำนวน 2 เครื่อง สูบน้ำจากเหมืองส่งน้ำเข้าสระเก็บน้ำดิบประปา บ้านหนองพรมหน่อ หมู่ที่ 6 ต.เนินกว้าว อ.โกรกพระ จ.นครสวรรค์ ซึ่งประสบปัญหาการขาดแคลนน้ำดิบในการผลิตน้ำประปาไม่เพียงพอ โดยมีประชาชนได้รับประโยชน์ จำนวน 137 ครัวเรือน 450 คน
กอนช. ติดตาม หน่วยงานดำเนินการรับมือฤดูฝนปี 2566
กรมชลประทาน มีการวางแผนล่วงหน้า เพื่อเตรียมพร้อมรับมือน้ำหลากในปี 2566 นี้ได้อย่างทันต่อสถานการณ์ โดยได้กำชับให้โครงการชลประทานในพื้นที่ ปฏิบัติตาม 12 มาตรการรับมือฤดูฝนปี 2566 ที่กองอำนวยการน้ำแห่งชาติ หรือ กอนช. กำหนดอย่างเคร่งครัด พร้อมดำเนินการตาม 6 แนวทางปฏิบัติของกรมชลประทาน คือ กักเก็บน้ำอย่างเต็มประสิทธิภาพ คาดการณ์พื้นที่เสี่ยง หลีกเลี่ยงสิ่งกีดขวางทางน้ำ ระบบชลประทานเร่งระบาย Standby เครื่องมือ เครื่องจักร และแจ้งเตือนและประชาสัมพันธ์แนวทางการบริหารจัดการน้ำให้ประชาชนรับทราบล่วงหน้า นอกจากนี้ ได้ลงพื้นที่ติดตามสถานการณ์น้ำคลองรังสิตประยูรศักดิ์และตรวจสอบความพร้อมของอาคารชลประทาน บริเวณประตูระบายน้ำและสถานีสูบน้ำกึ่งถาวรปากคลองรังสิต จ.ปทุมธานี ซึ่งเป็นจุดรับน้ำจากทางตอนบนและปริมาณฝนในพื้นที่ ก่อนที่จะระบายลงสู่แม่น้ำเจ้าพระยา
การบริหารจัดการน้ำช่วงฤดูฝนในปีนี้ กรมชลประทานได้เตรียมพร้อมด้านเครื่องจักรเครื่องมือไว้คอยช่วยเหลือประชาชน อาทิ รถแบคโฮ เครื่องสูบน้ำ เครื่องผลักดันน้ำ เป็นต้น โดยทางโครงการชลประทานในพื้นที่ได้มีการวางแผนติดตั้งเครื่องจักรกลต่าง ๆ ไว้ประจำจุดพื้นที่เสี่ยง และมีการประสานงานกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง โดยเฉพาะช่วงรอยต่อระหว่างจังหวัด เพื่อให้การปฏิบัติงานเป็นไปในทิศทางเดียวกัน ส่วนการบริหารจัดการน้ำในพื้นที่ที่มีการก่อสร้างได้กำชับให้มีการวางมาตรการเพิ่มเติม เพื่อแก้ไขปัญหาการกีดขวางทางระบายน้ำ โดยให้บริเวณที่มีการก่อสร้างสามารถระบายน้ำได้ตามศักยภาพของคลองอย่างเต็มประสิทธิภาพ เพื่อไม่ให้เกิดผลกระทบต่อพี่น้องประชาชน นอกจากนี้ เพื่อให้สอดรับกับปรากฏการณ์เอลนีโญที่อาจทวีความรุนแรงมากขึ้นในอนาคต จึงได้สั่งการให้โครงการชลประทานในพื้นที่ พิจารณาการระบายน้ำให้สอดคล้องกับสถานการณ์ปัจจุบัน ควบคู่ไปกับการเก็บกักน้ำไว้ให้มากที่สุด เพื่อสำรองน้ำไว้ใช้ในช่วงฤดูแล้งถัดไปด้วย