ประเทศไทยมีฝนฟ้าคะนองลดลง แต่ยังคงมีฝนฟ้าคะนองเกิดขึ้นได้ โดยมีฝนตกหนักบางแห่งในภาคตะวันออกเฉียงเหนือ
ปริมาณฝนตกใน 24 ชั่วโมงที่ผ่านมา มีฝนตกหนักถึงหนักมากบริเวณ จ.นครนายก (113) จ.กาฬสินธุ์ (83) จ.ลำปาง (60) จ.สิงห์บุรี (47) จ.พัทลุง (19) และ จ.กาญจนบุรี (15)
ปริมาตรแหล่งน้ำทุกขนาด 41,717 ล้าน ลบ.ม. (51%) แหล่งน้ำขนาดใหญ่ 37,310 ล้าน ลบ.ม. (52%)
คุณภาพน้ำในแม่น้ำสายหลัก อยู่ในเกณฑ์ปกติทุกสถานี ยกเว้นแม่น้ำบางปะกง ค่าออกซิเจนต่ำกว่าเกณฑ์มาตรฐาน
กรมทรัพยากรน้ำ ดำเนินงานโครงการปรับปรุงฟื้นฟูแหล่งน้ำบึงระหานไกรเชื่อมต่อบึงใหญ่ เพื่อสร้างความมั่นคงด้านน้ำภาคการผลิตให้กับประชาชนในพื้นที่ ต.วังไก่เถื่อน อ.หันคา จ.ชัยนาท เมื่อดำเนินการแล้วเสร็จ สามารถเก็บกักน้ำได้ 0.7840 ล้าน ลบ.ม. ประชาชนได้รับประโยชน์ 330 ครัวเรือน พื้นที่การเกษตร 1,875 ไร่ พร้อมดำเนินงานโครงการก่อสร้างระบบกระจายน้ำด้วยพลังงานแสงอาทิตย์หนองห้วยแสง ต.คูสะคาม อ.วานรนิวาส จ.สกลนคร เมื่อดำเนินการแล้วเสร็จ ประชาชนได้รับประโยชน์ 30 ครัวเรือน พื้นที่การเกษตร 60 ไร่
พื้นที่เสี่ยงเฝ้าระวังน้ำหลากช่วง 1-3 วัน ดังนี้ ภาคตะวันออก จ.นครนายก และระยอง
สทนช. เร่งวางแผนบริหารจัดการน้ำ พร้อมบรรเทาปัญหาอุทกภัยภาคใต้ เมื่อวันที่ 16 มิ.ย. 66 โดยสำนักงานทรัพยากรน้ำแห่งชาติภาค 4 ดำเนินการเตรียมความพร้อมตาม 12 มาตรการรับมือฤดูฝนปี 2566 ในพื้นที่ภาคใต้ ดังนี้
• ประชุมคณะทำงานการบริหารจัดการน้ำพื้นที่ลุ่มต่ำน้ำท่วมขัง ตำบลถ้ำสิงห์ และตำบลบ้านนา อำเภอเมือง จังหวัดชุมพร ครั้งที่ 3/2566 ซึ่งที่ประชุมมีมติให้คณะทำงานฯ ลงพื้นที่เพื่อหาแนวทางการวางแผนการบริหารจัดการแก้ไขปัญหาน้ำท่วมขัง และทำความเข้าใจกับประชาชนในพื้นที่ โดยมอบหมายหน่วยงานที่เกี่ยวข้องดำเนินการวางแผนโครงการแก้ไขปัญหาต่อไป ทั้งนี้ ได้วางแผนการแก้ไขปัญหาระยะสั้น หากมีฝนตกหนักในพื้นที่ให้สำนักงานป้องกันและบรรเทาสาธารภัยจังหวัดชุมพร เตรียมการรับมือในเบื้องต้น
• ลงพื้นที่แลกเปลี่ยนเรียนรู้เพื่อให้เกิดการมีส่วนร่วมในการเฝ้าระวังรับมือฤดูฝน ณ ศูนย์เตือนภัยพิบัติชุมชนเพื่อนพึ่ง (ภาฯ) ชายแดนใต้ จ.ยะลา ซึ่งศูนย์ฯ ได้ดำเนินกิจกรรมเฝ้าระวังภัยพิบัติเพื่อป้องกันและลดความสูญเสียแก่ชีวิตและทรัพย์สินอันเกิดจากเหตุอุทกภัยให้แก่ประชาชน 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ โดยจัดให้มีระบบเตือนภัยล่วงหน้าและการบริหารจัดการน้ำในระดับชุมชน ประกอบด้วย เครือข่ายเตือนภัยพิบัติ 1 แห่ง แม่ข่ายหลัก 10 สถานีย่อย รวมทั้งสร้างศักยภาพและส่งเสริมการมีส่วนร่วมของประชาชนในพื้นที่เสี่ยงภัยให้มีองค์ความรู้ ความพร้อม ผ่านเครือข่ายมากกว่า 1000 คน ซึ่งสามารถรับมือสถานการณ์ภัยพิบัติที่กำลังจะเกิดขึ้นได้อย่างทันท่วงที