การประชุมภาคีป่าไม้แห่งสหประชาชาติ ครั้งที่ 18 มีกำหนดจัดขึ้นระหว่างวันที่ 8 – 12 พฤษภาคม 2566 ณ สำนักงานใหญ่องค์การสหประชาชาติ นครนิวยอร์ก สหรัฐอเมริกา โดยมีประเทศสมาชิกกว่า 150 ประเทศเข้าร่วมประชุม สำหรับประเทศไทยนายจตุพร บุรุษพัฒน์ ปลัดกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ในฐานะหัวหน้าคณะผู้แทนไทย พร้อมด้วยหน่วยงานที่เกี่ยวข้องอีกหลายหน่วยงานเข้าร่วมประชุม ซึ่งในการประชุมครั้งนี้ประเทศไทยได้แสดง ความมุ่งมั่นในการปฏิบัติงานและผลสัมฤทธิ์ด้านการป่าไม้ของประเทศไทย สะท้อนให้เห็นถึงศักยภาพของหน่วยงานภาครัฐและทุกภาคส่วน รวมถึงภาคประชาชนในความร่วมมือด้านการบริหารจัดการป่าไม้ของประเทศ สำหรับกรมป่าไม้ในฐานะหน่วยงานหลักได้เตรียมแผนสานต่อการดำเนินงานจากผลการประชุมให้เห็นผลเชิงรูปธรรม ต่อไป
นายจตุพร บุรุษพัฒน์ ปลัดกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม เปิดเผยว่า การประชุมภาคีป่าไม้แห่งสหประชาชาติ ครั้งที่ 18 (UNFF18) มุ่งเน้นการหารือถึงแนวทางการพัฒนางานด้านการป่าไม้ ตามแผนยุทธศาสตร์ด้านการป่าไม้แห่งสหประชาติ 2017 – 2030 และจะเชื่อมโยงและสอดรับกับเป้าหมายการพัฒนาที่ยั่งยืน และข้อตกลงตามกรอบการดำเนินงานว่าด้วยความหลากหลายทางชีวภาพ สำหรับประเทศไทย ตนในฐานะหัวหน้าคณะผู้แทนไทย ได้กล่าวต่อที่ประชุม เมื่อวันที่ 8 พฤษภาคม ถึงเป้าหมายและความมุ่งมั่นของประเทศไทยด้านการอนุรักษ์และฟื้นฟูป่าไม้บกและป่าชายเลน และพื้นที่สีเขียวให้มีเนื้อที่ร้อยละ 55 ของพื้นที่ประเทศ โดยยึดกรอบแนวคิด BCG model ซึ่งจะครอบคลุมทั้งการพัฒนาภาคเศรษฐกิจ สังคม และสิ่งแวดล้อม โดยความร่วมมือของทุกภาคส่วน ซึ่งก็สอดคล้องกับยุทธศาสตร์ชาติ 20 ปี รวมถึงแผนอื่น ๆ ที่เกี่ยวข้อง นอกจากนี้ ตนได้กล่าวถึงกรอบแนวทางการดำเนินงานในด้านการพัฒนาและบังคับใช้กฎหมายที่มีประสิทธิภาพ อย่างไรก็ตาม หลังจากการประชุมครั้งนี้ ตนจะได้หารือร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเพื่อสานต่อการดำเนินงานและสานความร่วมมือให้กว้างขึ้นทั้งหน่วยงานภายในประเทศและองค์กรระหว่างประเทศ เพื่อให้เกิดผลสัมฤทธิ์สูงสุด สุดท้ายตนอยากฝากให้พี่น้องประชาชนและทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้องให้ความสำคัญกับป่าไม้ให้ดำรงคงอยู่ เป็นฐานในการพัฒนาเศรษฐกิจและคุณภาพชีวิตของมนุษย์และสัตว์ป่าของประเทศและของโลกอย่างยั่งยืน ต่อไป
ด้านนายสุรชัย อจลบุญ อธิบดีกรมป่าไม้ กล่าวเสริมว่า การประชุมภาคีป่าไม้แห่งสหประชาชาติครั้งนี้ ประเทศสมาชิกต่างส่งผู้แทนเข้าร่วมกว่า 150 ประเทศ รวามถึงองค์กรระหว่างประเทศอีกหลายองค์กร ซึ่งการประชุมครั้งนี้มุ่งเน้นการหารือด้านการส่งเสริมการปฏิบัติงานตามแผนยุทธศาสตร์ด้านการป่าไม้แห่งสหประชาชาติ พร้อมเรียกร้องให้แต่ละประเทศสมาชิกเร่งรัดดำเนินงานอย่างจริงจัง อย่างไรก็ตาม ผลการประชุมครั้งนี้จะนำไปเป็นฐานในการประชุม UNFF19 ที่จะจัดขึ้นในปี 2567 รวมถึงสะท้อนแนวคิดและผลการดำเนินงานที่เชื่อมโยงกับเป้าหมายการพัฒนาที่ยั่งยืน เช่น การแก้ไขปัญหาความยากจน สาธารณสุข การเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ การพัฒนาเศรษฐกิจ และการลดความเหลื่อมล้ำ เป็นต้น ซึ่งจะนำไปกล่าวถึงในการประชุมผู้นำระดับสูงทางการเมืองด้านการพัฒนาที่ยั่งยืน หรือ SDG Summit ซึ่งจะจัดขึ้นในราวเดือนกันยายนปีนี้ นอกจากนี้ ระหว่าการประชุมยังมี การจัดกิจกรรมคู่ขนานของประเทศสมาชิกที่ได้นำเสนอผลงาน แนวคิด และร่วมหารือและแลกเปลี่ยนองค์ความรู้ใหม่ในประเด็นต่าง ๆ อีกด้วย อย่างไรก็ตาม ในภาคการป่าไม้ ตนได้เสนอแผนและแนวทางการดำเนินงานต่อคณะกรรมการนโยบายป่าไม้แห่งชาติในการบริหารจักดารพื้นที่ป่าไม้ของประเทศอย่างยั่งยืน