ประเทศไทยมีอากาศร้อนโดยทั่วไปกับมีฟ้าหลัวในตอนกลางวัน และมีอากาศร้อนจัดบางพื้นที่ ประเทศไทยตอนบน ยังคงมีฝนฟ้าคะนองเกิดขึ้นได้บางพื้นที่ ส่วนภาคใต้มีฝนฟ้าคะนองเกิดขึ้นและมีฝนตกหนักบางแห่ง
ปริมาณฝนตกใน 24 ชั่วโมงที่ผ่านมา มีฝนตกหนักบริเวณ จ.สงขลา (55 มม.) จ.ยะลา (43 มม.) และ จ.ปัตตานี (40 มม.)
น้ำใช้การแหล่งน้ำทุกขนาด 23,783 ล้าน ลบ.ม. (41%) แหล่งน้ำขนาดใหญ่ 19,465 ล้าน ลบ.ม. (41%)
คุณภาพน้ำในแม่น้ำสายหลัก อยู่ในเกณฑ์ปกติทุกสถานี
กรมทรัพยากรน้ำ ดำเนินการโครงการปรับปรุงฟื้นฟูแหล่งน้ำโคกนนทรี หมู่ที่ 17 ต.ลำพญากลาง อ.มวกเหล็ก จ.สระบุรี เพื่อสร้างความมั่นคงของน้ำภาคการผลิตให้กับประชาชนในพื้นที่ เมื่อดำเนินการแล้วเสร็จ จะมีความจุเก็บกัก 0.1650 ล้าน ลบ.ม. ประชาชนได้รับประโยชน์ 27 ครัวเรือน พื้นที่เกษตร 250 ไร่
กอนช. ติดตามหน่วยงานดำเนินการเตรียมความพร้อมรับมือฤดูฝน ปี2566
กรมชลประทาน (18 เม.ย. 66)ได้จัดการประชุมคณะอนุกรรมการติดตามและวิเคราะห์แนวโน้มสถานการณ์น้ำ ผ่านระบบ Video Conference ไปยังสำนักงานชลประทานที่ 1-17 และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เพื่อติดตามและวิเคราะห์สถานการณ์น้ำ สำหรับเป็นข้อมูลในการบริหารจัดการน้ำให้สอดคล้องและเหมาะสมในแต่ละพื้นที่ต่อไป
ปัจจุบันมีการจัดสรรน้ำในฤดูแล้งปี 2565/2566 ทั้งประเทศไปแล้ว 23,489 ล้าน ลบ.ม. หรือคิดเป็นร้อยละ 85 ของแผนฯ เฉพาะลุ่มเจ้าพระยามีการจัดสรรน้ำไปแล้ว 8,472 ล้าน ลบ.ม. หรือคิดเป็นร้อยละ 94 ของแผนฯ ด้านผลการเพาะปลูกข้าวนาปรัง ทั้งประเทศมีการเพาะปลูกไปแล้ว 10.33 ล้านไร่ หรือคิดเป็นร้อยละ 99 ของแผนฯ เฉพาะลุ่มน้ำเจ้าพระยามีการเพาะปลูกไปแล้วประมาณ 6.35 ล้านไร่ คิดเป็นร้อยละ 96 ของแผนฯ ซึ่งบางพื้นที่มีการเก็บเกี่ยวแล้วเสร็จ จึงขอความร่วมมือเกษตรกรงดการทำนาปรังต่อเนื่อง (นาปรังรอบ2) เพื่อให้เป็นไปตามแผนที่กำหนดไว้
ทั้งนี้ กรมอุตุนิยมวิทยา ได้คาดการณ์ สถานการณ์เอลนีโญจะส่งผลให้มีปริมาณฝนตกน้อยกว่าค่าปกติ จึงได้กำชับไปยังโครงการชลประทานทั่วประเทศ ให้เฝ้าระวังและติดตามสภาพอากาศอย่างใกล้ชิด นำข้อมูลมาวิเคราะห์เพื่อวางแผนบริหารจัดการน้ำให้สอดคล้องกับสถานการณ์ สามารถรองรับสถานการณ์น้ำที่อาจจะเกิดขึ้นในอนาคต พร้อมปฏิบัติตามมาตรการบริหารจัดการน้ำฤดูฝนปี 2566 ที่กรมชลประทานกำหนด ได้แก่ 1.จัดสรรน้ำเพื่อการอุปโภค-บริโภค และรักษาระบบนิเวศให้เพียงพอตลอดทั้งปี 2.บริหารจัดการน้ำท่าให้เกิดประโยชน์สูงสุด 3.ส่งเสริมให้เกษตรกรใช้น้ำฝนเป็นหลักในการเพาะปลูก 4.กักเก็บน้ำในเขื่อน รวมไปถึงแหล่งน้ำตางๆ ให้มากที่สุด 5.วางแผนป้องกันและบรรเทาอุทกภัย ควบคู่ไปกับการปฏิบัติตามมาตรการรองรับฤดูฝนปี 2566 ที่กองอำนวยการน้ำแห่งชาติกำหนด เพื่อลดผลกระทบที่จะเกิดขึ้นกับประชาชนให้มากที่สุด