กรมป่าไม้ เดินหน้าแก้ปัญหาหมอกควันไฟป่า และPM 2.5 บินตรง จ.เชียงราย หนุน อปท. กำนัน และผู้ใหญ่บ้าน ร่วมผนึกกำลังแก้ตาม 3 มาตรการ 6 แนวทาง พร้อมเป็นประธานเปิดประชุมร่วม 30 เจ้าหน้าที่ป่าไม้แขวงบ่อแก้ว สปป.ลาว กำหนดแนวทางขจัดปัญหาไฟป่าและหมอกควันข้ามแดน
วันที่ 8 เมษายน 2566 นายสุรชัย อจลบุญ อธิบดีกรมป่าไม้ พร้อมคณะผู้บริหารกรมป่าไม้ ได้ลงพื้นที่จังหวัดเชียงราย เพื่อติดตามการแก้ไขปัญหาหมอกควันข้ามแดนระหว่างประเทศ โดยในช่วงเช้าได้เดินทางไปติดตาม และมอบแนวทางในการป้องกันแก้ไขปัญหาหมอกควันไฟป่า และ PM 2.5 ให้แก่ เจ้าหน้าที่ อปท. กำนัน และผู้ใหญ่บ้านพื้นที่จังหวัดเชียงราย และจังหวัดพะเยา โดยมี นายนิกร ศิรโรจนานนท์ ผู้อำนวยการสำนักจัดการทรัพยากรป่าไม้ที่ 2 (เชียงราย) ผอ สบอ 15(ชียงราย) ผอ ทสจ เชียงราย เข้าร่วมประชุม ณ ห้องประชุมสำนักจัดการทรัพยากรป่าไม้ที่ 2 (เชียงราย) อ.เมืองเชียงราย ส่วนช่วงบ่ายได้เป็นประธานกล่าวเปิดการประชุมหารือ และศึกษาดูงานด้านการป้องกันไฟป่าและหมอกควันของเจ้าหน้าที่ป่าไม้สองแผ่นดิน ( ไทย-ลาว )
นายสุรชัย อจลบุญ อธิบดีกรมป่าไม้ เปิดเผยว่า เมื่อวันที่ 5 เมษายน ที่ผ่านมา นายจตุพร บุรุษพัฒน์ ปลัดกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม (ปกท.ทส.) เป็นประธานในการประชุมเตรียมการเพื่อหารือและจัดทำท่าทีในการแก้ไขปัญหาหมอกควันข้ามแดนระหว่างประเทศ ร่วมกับผู้แทนจากกระทรวงการต่างประเทศ กระทรวงมหาดไทย กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ กระทรวงอุตสาหกรรม กระทรวงกลาโหม สำนักนายกรัฐมนตรี และกรมประชาสัมพันธ์ โดยปลัด ทส. ได้เน้นถึงความสำคัญในการแก้ไขปัญหาไฟป่าที่กำลังเกิดขึ้น ซึ่งส่งผลให้เกิดปัญหาหมอกควัน โดยเฉพาะบริเวณภาคเหนือ และแนวชายแดน อีกทั้งมีผลต่อค่าฝุ่น PM 2.5 ประกอบกับการคาดการณ์สภาพอากาศยังไม่มีแนวโน้มเกิดฝนไปจนถึงเดือนพฤษภาคม 2566 จึงมอบหมายให้ดำเนินการแก้ไขอย่างเร่งด่วน พร้อมหารือร่วมกับประเทศเพื่อนบ้าน เพื่อยกระดับแนวทางความร่วมมือในการแก้ไขปัญหาหมอกควันข้ามแดนที่เกิดขึ้นร่วมกัน
อธิบดีกรมป่าไม้ กล่าวต่อไปว่า ในการแก้ไขปัญหาให้สำเร็จลุล่วงได้นั้น จำเป็นอย่างยิ่งที่ต้องอาศัยความร่วมมือและการมีส่วนร่วมของทุกภาคส่วนบูรณาการร่วมกัน ดังนั้น กรมป่าไม้จึงได้จัดการประชุมร่วมกับเจ้าหน้าที่ อปท. กำนัน และผู้ใหญ่บ้านในวันนี้ขึ้น เพื่อมอบนโยบายการแก้ไขปัญหาใน 3 มาตรการสำคัญ ได้แก่ มาตรการที่ 1 สร้างการรับรู้ รณรงค์ และประชาสัมพันธ์ มาตรการที่ 2 การป้องกันและเฝ้าระวังพื้นที่เสี่ยงในพื้นที่ป่าและพื้นที่เกษตร และมาตรการที่ 3 การส่งเสริมและสร้างเครือข่ายในการงดเผาในพื้นที่เกษตรกรรม “จาก 3 มาตรการดังกล่าว กรมป่าไม้ได้แบ่งแนวทางการดำเนินงานออกเป็น 6 แนวทาง คือ 1. เร่งสร้างความรู้ความเข้าใจให้ประชาชนตระหนักถึงปัญหาไฟป่า และปรับเปลี่ยนพฤติกรรมการบุกรุกทำลายป่า การเผาป่า ให้เป็นเครือข่ายป้องกันดูแลรักษาป่า 2. สร้างกระบวนการมีส่วนร่วมของประชาชนในพื้นที่ ให้เข้ามาช่วยกันแก้ไขปัญหาไฟป่า 3. งดการเผาทุกชนิด 4. ลดเชื้อเพลิงในการเกิดไฟป่าในรูปแบบของการ “ชิงเก็บ ลดเผา” เน้นการเก็บขนเชื้อเพลิงออกจากพื้นที่ป่า เพื่อนำไปใช้ประโยชน์ และสร้างมูลค่าให้กับชุมชน 5. นำเทคโนโลยีด้านสารสนเทศและนวัตกรรมเข้ามาช่วยในการปฏิบัติงานในพื้นที่ และ 6. การแก้ไขปัญหาหมอกควันข้ามแดน โดยการประสานความร่วมมือจากประเทศเพื่อนบ้าน” นายสุรชัย กล่าว
สำหรับในช่วงบ่าย อธิบดีกรมป่าไม้ พร้อมคณะได้เดินทางไปยังศูนย์ส่งเสริมการควบคุมไฟป่าเชียงราย ต.บ้านแซว อ.เชียงแสน จ.เชียงราย เพื่อเป็นประธานกล่าวเปิดการประชุมหารือ และศึกษาดูงานด้านการป้องกันไฟป่าและหมอกควันของเจ้าหน้าที่ป่าไม้สองแผ่นดิน ( ไทย-ลาว ) ประกอบด้วย เจ้าหน้าที่ป่าไม้ประเทศไทย จำนวน 30 นาย และเจ้าหน้าที่ป่าไม้จากแขวงบ่อแก้ว สปป.ลาว จำนวน 30 นาย โดยหัวข้อการประชุมเป็นการหารือเพื่อกำหนดแนวทางการดำเนินงานระหว่างเจ้าหน้าที่ป่าไม้ของทั้ง 2 ประเทศ ในการป้องกันไฟป่าและหมอกควัน ภายหลังการประชุม อธิบดีกรมป่าไม้ได้มอบเครื่องเป่าลมและถังฉีดน้ำให้กับเจ้าหน้าที่ป่าไม้ของ สปป.ลาว เพื่อสนับสนุนงานด้านการป้องกันไฟป่าและหมอกควัน