กรมอุทยานแห่งชาติฯ แถลงข่าวจับกุมขบวนการลักลอบทำไม้กฤษณาข้ามชาติ หลังติดตามนาน 2 เดือน

วันที่ 22 มีนาคม 2566 เวลา 10.30 น. กรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืช แถลงข่าวการจับกุมขบวนการลักลอบทำไม้กฤษณาข้ามชาติ ในพื้นที่เขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าภูเขียวจังหวัดชัยภูมิ ณ ห้องประชุมชั้น 2 อาคารศูนย์ปฏิบัติการกรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืช

นายอรรถพล เจริญชันษา อธิบดีกรมทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่ง รักษาราชการแทนอธิบดี กรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืช เปิดเผยว่า เมื่อวันที่ 18 มีนาคม 2566 เวลาประมาณ 21.30 น. เจ้าหน้าที่เขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าภูเขียวและเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าผาผึ้ง สำนักบริหารพื้นที่อนุรักษ์ที่ 7 (นครราชสีมา) ร่วมกับเจ้าหน้าที่ตำรวจภูธรจังหวัดชัยภูมิ ได้ทำการจับกุมกลุ่มขบวนการต่างชาติลักลอบทำไม้กฤษณา ในพื้นที่เขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าภูเขียว จังหวัดชัยภูมิ ผู้ต้องหาเป็นชายชาวเวียดนามจำนวน 6 คน ประกอบด้วย 1. นาย Dang Hiep , 2. นาย Tran Cao Cuong , 3. นาย Nguyen Van Binh  , 4. นาย Hoang Van Ba , 5. นาย Hoang Van An ,  6. นาย Hoang Xuan Van ของกลางเป็นชิ้นไม้กฤษณาจำนวน 171 กิโลกรัม รถยนต์ 2 คัน และอุปกรณ์ที่ใช้ในการกระทำผิดที่เกี่ยวข้อง ในฐานความผิด 9 ข้อหา ตามพระราชบัญญัติสงวนและคุ้มครองสัตว์ป่า พ.ศ. 2562 พระราชบัญญัติป่าไม้ พ.ศ. 2484 และพระราชบัญญัติป่าสงวนแห่งชาติ พ.ศ. 2507

ทั้งนี้ สืบเนื่องจากการสืบสวนและขยายผลการจับกุมเมื่อวันที่ 25 พฤศจิกายน 2565 โดยเจ้าหน้าที่ชุดลาดตระเวนเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าภูเขียว ได้ออกปฏิบัติหน้าที่ลาดตระเวนในพื้นที่ ตามที่ได้รับการข่าวว่ามีกลุ่มบุคคลชาวเวียดนามเข้ามาลักลอบหาไม้กฤษณาในพื้นที่ ซึ่งเป็นการทำลายความมั่นคงทางระบบนิเวศ จากการลาดตระเวนของเจ้าหน้าที่ได้ตรวจพบกลุ่มชายจำนวน 4 คน เจ้าหน้าที่ได้แสดงตัวเข้าตรวจค้นกลุ่มชายดังกล่าว แต่ผู้ต้องสงสัยได้หลบหนี เจ้าหน้าที่จึงร่วมกันตรวจสอบพื้นที่เกิดเหตุ พบชิ้นไม้กฤษณาจำนวน 64.8 กิโลกรัม และหนังสือเดินทางของชาวเวียดนาม จากจังหวัดก๋วงบินห์ 1 เล่ม และเมื่อวันที่ 2 ธันวาคม 2565 เจ้าหน้าที่ชุดลาดตระเวนฯ ได้ลาดตระเวนในพื้นที่พบแคมป์ที่พักและร่องรอยการทำไม้กฤษณา จึงได้ทำการดักซุ่มรอจนพบกับกลุ่มชายจำนวน 4 คน และสามารถควบคุมตัวผู้ต้องหาไว้ได้ 1 คน ที่เหลืออีก 3 คน หลบหนีไปได้ พร้อมชิ้นไม้กฤษณาจำนวน 20 กิโลกรัม และหนังสือเดินทาง พบว่าเป็นชาวเวียดนามจากจังหวัดก๋วงบินห์เช่นกัน เจ้าหน้าที่ชุดลาดตระเวนฯ จึงได้เพิ่มการลาดตระเวนให้ครอบคลุมในพื้นที่มากขึ้น เพื่อติดตามกลุ่มชายดังกล่าว และรายงานกรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืชทราบ

อธิบดีอรรถพล รรท.ออส. กล่าวต่อ ว่าการจับกุมขบวนการลักลอบค้าไม้กฤษณาในครั้งนี้ เพื่อให้สอดคล้องกับนโยบายของรัฐบาลที่มุ่งเน้นในการอนุรักษ์ทรัพยากรธรรมชาติ กรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืช จึงมีนโยบายในการยกระดับการป้องกันและปราบปรามการกระทำผิดเกี่ยวกับทรัพยากรด้านป่าไม้และสัตว์ป่า โดยตั้งชุดปฏิบัติการร่วมกัน ระหว่างสำนักงานต่อต้านการค้าสัตว์ป่าและพืชป่าที่ผิดกฎหมายของประเทศไทย กองคุ้มครองพันธุ์สัตว์ป่าและพืชป่าตามอนุสัญญา ชุดปฏิบัติการปราบปรามการกระทำความผิดด้านสัตว์ป่าและพืชป่า (ชุดเหยี่ยวดง) หน่วยเฉพาะกิจปฏิบัติการพิเศษผู้พิทักษ์อุทยานแห่งชาติและสัตว์ป่า (หน่วยเฉพาะกิจพญาเสือ) โดยการสนับสนุนจากกรมบริหารทรัพยากรสัตว์น้ำและสัตว์ป่า สหรัฐอเมริกา (United States Fish and Wildlife Service หรือ FWS) สมาคมอนุรักษ์สัตว์ป่า (wcs) ประเทศไทย และคณะวนศาสตร์ มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ และเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าภูเขียว ในการสืบสวนเพื่อติดตามขบวนการลักลอบทำไม้กฤษณาที่ยังหลบหนีอยู่อย่างใกล้ชิดตั้งแต่เดือนมกราคม 2566

ชุดปฏิบัติการได้ทำการสืบสวนร่วมกันจากการให้ปากคำของผู้ต้องหา และจากหลักฐานที่ตรวจยึดได้ ทั้งจากหนังสือเดินทาง ข้อมูลภายในโทรศัพท์มือถือ และการติดตามหาข่าวจากในพื้นที่ นำข้อมูลทั้งหมดมาวิเคราะห์ จนพบเครือข่ายของผู้ต้องสงสัย รถยนต์ต้องสงสัย บัญชีโซเชียลมีเดียต้องสงสัย และข้อมูลที่เป็นประโยชน์อื่นๆ เพิ่มเติม ชุดปฏิบัติการจึงได้ติดตามความเคลื่อนไหวของผู้ต้องสงสัย รถยนต์ต้องสงสัย และบัญชีโซเชียลมีเดียต้องสงสัยอย่างต่อเนื่อง ประกอบกับการลาดตระเวนในพื้นที่ เป็นระยะเวลาเกือบ 2 เดือน จนกระทั่งเมื่อวันที่ 14 มีนาคม 2566 จากการลาดตระเวนกดดันของเจ้าหน้าที่อย่างต่อเนื่องได้ลาดตระเวนในพื้นที่ไปพบกับชายต้องสงสัย 1 คน สะพายเป้ถุงปุ๋ยท่าทางมีพิรุธ จึงได้เข้าควบคุมตัวและพบเป็นชาวเวียดนามซึ่งมีอุปกรณ์ที่ใช้ในการหาไม้กฤษณาได้เพิ่มอีก 1 คน และวันที่ 18 มีนาคม 2566 ชุดปฏิบัติการก็ได้ติดตามรถยนต์ต้องสงสัยจนสามารถจับกุมขบวนการลักลอบทำไม้พร้อมของกลางได้จำนวน 6 คนดังข้อมูลข้างต้น โดยเกือบทั้งหมดเป็นชายชาวเวียดนาม จากจังหวัดก๋วงบินห์ และผู้ต้องหา 1 รายในกลุ่มนี้ ยังเป็นผู้ต้องหาในคดีเมื่อวันที่ 25 พฤศจิกายน 2565 ที่หลบหนีการเข้าควบคุมตัวไปได้ในครั้งนั้นด้วย แต่ทั้งนี้ จากข้อมูลที่ชุดปฏิบัติการร่วมสืบสวนมาได้ ยังมีผู้ต้องสงสัยอีกหลายรายที่มีรายชื่อสอดคล้องกับคำให้การของผู้ต้องหาที่ถูกจับกุมและพบว่าเครือข่ายของขบวนการนี้มิได้แค่ลักลอบทำไม้กฤษณาเท่านั้น

จากการวิเคราะห์และเชื่อมโยงแผนประทุษกรรม ยังพบว่ากลุ่มผู้ต้องหาดังกล่าวมีความเชื่อมโยงกับกลุ่มผู้กระทำความผิดรายอื่นในอดีตที่ผ่านมาในประเทศไทยด้วย มีทั้งคดีการล่าและค้าสัตว์ป่าหายาก การทำไม้กฤษณาและไม้มีค่าอื่นๆ โดยชาวต่างชาติ ซึ่งจากการรวบรวมข้อมูลของฝ่ายพัฒนาฐานข้อมูลอาชญากรรมสัตว์ป่า สำนักงานต่อต้านการค้าสัตว์ป่าและพืชป่าที่ผิดกฎหมายของประเทศไทย พบว่าตั้งปี 2552 ถึงปัจจุบันมีชาวเวียดนามจาก จังหวัดก๋วงบินห์ เข้ามาทาไม้กฤษณาและบางส่วนเข้ามาล่าและค้าเสือโคร่งในประเทศไทย จำนวนถึง 41 ราย และเข้าไปทำไม้กฤษณาและล่าและค้าเสือโคร่งในประเทศมาเลเซียถึง 23 รายด้วยกัน ดังนั้น เพื่อยกระดับในการสืบสวน สอบสวน เพื่อหาตัวผู้กระทำผิดที่เกี่ยวข้องเพิ่มเติมมาดำเนินการตามกฎหมายและทลายองค์กรอาชญากรรมข้ามชาติ ซึ่งเข้ามาทำลายทรัพยกรธรรมชาติในประเทศไทย กรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืช จะมีหนังสือเสนอไปยังสำนักงานอัยการสูงสุด เพื่อรับพิจารณาเป็นคดีนอกราชอาณาจักร ตามพระราชบัญญัติป้องกันและปราบปรามการมีส่วนร่วมในองค์กรอาชญากรรมข้ามชาติ พ.ศ. 2556 ต่อไป