ภาคเหนือ และภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ภาคกลาง และภาคตะวันออก มีพายุฝนฟ้าคะนอง ลมกระโชกแรง ส่วนภาคใต้มีฝนฟ้าคะนองบางแห่งเกิดขึ้นได้
ปริมาณฝนตกใน 24 ชั่วโมงที่ผ่านมา มีฝนตกหนักบริเวณ จ.แพร่ (81 มม.) จ.เชียงใหม่ (53 มม.) และจ.พะเยา (43 มม.)
น้ำใช้การแหล่งน้ำทุกขนาด 31,172 ล้าน ลบ.ม. (54%) แหล่งน้ำขนาดใหญ่ 24,651 ล้าน ลบ.ม. (52%)
คุณภาพน้ำในแม่น้ำสายหลัก อยู่ในเกณฑ์ปกติทุกสถานี
หน่วยบัญชาการทหารพัฒนา เจาะบ่อน้ำบาดาล ปฏิบัติงานตามแผนงาน/โครงการประจำปีงบประมาณ พ.ศ.2566 งานขุดเจาะบ่อน้ำบาดาลในพื้นที่ประสบภัยแล้ง ให้สามารถใช้น้ำเพื่ออุปโภค – บริโภค บรรเทาความเดือดร้อนของประชาชนในพื้นที่ โดยมีผู้รับประโยชน์ จำนวน 74 ครัวเรือน ประชากร 241 คน ผลการปฏิบัติงาน 100% ณ โรงเรียนบ้านนาคู ม.10 ต.นาคู อ.นาคู จ.กาฬสินธุ์ กองพันทหารปืนใหญ่ สนับสนุนรถบรรทุกน้ำ เพื่อแจกจ่ายน้ำอุปโภค-บริโภค ให้กับประชาชนที่ขาดแคลนน้ำ ในพื้นที่ บ.ปากน้ำใต้ ต.นาป่า อ.เมืองเพชรบูรณ์ จ.เพชรบูรณ์
กอนช. ติดตามการเตรียมความพร้อมของหน่วยงานเพื่อเฝ้าระวังพายุฤดูร้อน ช่วงวันที่ 12-14 มี.ค.66
ตามที่กรมอุตุนิยมวิทยาประกาศเรื่อง “พายุฤดูร้อนบริเวณประเทศไทยตอนบน” ในช่วงวันที่ 12 – 14 มีนาคม 2566 ทำให้ภาคเหนือ ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ภาคกลาง ภาคตะวันออก รวมทั้งกรุงเทพมหานครและปริมณฑลมีพายุฤดูร้อนเกิดขึ้น โดยมีลักษณะของพายุฝนฟ้าคะนอง
กรมชลประทาน ได้เตรียมพร้อมรับสถานการณ์โดยกำชับให้เจ้าหน้าที่ประจำอยู่ในพื้นที่เสี่ยงหากมีฝนตกหนัก หรือลมกระโชกแรงจนส่งผลกระทบต่ออาคารชลประทานให้เข้าดำเนินการแก้ไขสถานการณ์ได้ทันที และตรวจสอบอาคารชลประทาน ให้มีสภาพพร้อมใช้งาน บริหารจัดการน้ำในอ่างเก็บน้ำให้อยู่ในเกณฑ์ควบคุมและปรับการระบายน้ำให้เหมาะสม นอกจากนี้เน้นย้ำให้โครงการชลประทานทุกแห่ง ติดตามสภาพอากาศจากกรมอุตุนิยมวิทยาอย่างใกล้ชิด ควบคู่กับการกำจัดวัชพืชไม่ให้กีดขวางทางน้ำ ติดตามและเฝ้าระวังสถานการณ์น้ำอย่างต่อเนื่อง ตลอดจนบูรณาการทำงานร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องในการแจ้งเตือนและประชาสัมพันธ์ประชาชนรับมือสถานการณ์น้ำ อีกทั้งยังได้จัดเตรียมเครื่องจักรเครื่องมือไว้ในพื้นที่เสี่ยงภัย ให้สามารถออกปฏิบัติการช่วยเหลือประชาชนได้ตลอดเวลา